ม็อบต้านขยะเมิน สก.ปชป.โผล่ชี้แจง

ชาวสายไหมก่อม็อบต้านที่จอดรถขยะ เผยชาวสายไหม 70 ชุมชน กว่า 300 คน ร่วมกันชุมนุมต่อต้านโครงการก่อสร้างที่จอดรถขยะ ดึง"ปวีณา หงสกุล"เข้าร่วมด้วย ระบุเรื่องนี้ไม่ใช่เป็นเรื่องการเมือง เป็นความเดือดร้อนของประชาชนจริงๆ ทุกคนต่างรวมตัวกันไม่เอารถขยะ หวั่นทำให้รถติด และก่อมลพิษแพร่เชื้อโรค ยันเจรจาวันที่ 23 ส.ค.นี้ไม่เป็นผล ชาวบ้านจะฟ้องศาลปกครอง

เมื่อเวลา 13.30 น.วันที่ 20 ส.ค. ที่โรงเรียนสารสาสน์ วิเทศ สายไหม นายสุรศักดิ์ วงศ์ราษฎร์ ประธานชุมชนชาวสายไหม เขตสายไหม กทม. พร้อมด้วยชาวบ้านจาก 70 ชุมชน เกือบ 300 คน ร่วมกันชุมนุมต่อต้านโครงการก่อสร้างที่จอดรถขยะมูลฝอย บริเวณซอยสายไหม 74-76 ของสำนักสิ่งแวดล้อม กทม. นอกจากนี้ยังเชิญผู้ทรงคุณวุฒิด้านมลพิษและสิ่งแวดล้อมมาพูดถึงปัญหาที่จะเกิดขึ้นหากโครงการที่จอดรถขยะดังกล่าวเปิดใช้

นายสุรศักดิ์ กล่าวว่า การที่มาชุมนุมครั้งนี้เพื่อต้องการบอกให้สมาชิกชุมชนชาวสายไหมทั้งหมด 70 ชุมชนได้รับทราบถึงความคืบหน้าของปัญหา จากที่เราได้ทำหนังสือเพื่อขอยับยั้งโครงการที่กทม.มอบของขวัญอันไม่พึงปรารถนาให้เราไปเมื่อวันที่ 2 มี.ค.ที่ผ่านมานั้น ปรากฏว่าในวันที่ 19 มิ.ย.ที่ผ่านมา ทางสำนักงานเขตสายไหมได้ตอบจดหมายมาถึงตน พร้อมกับแนบหนังสือชี้แจงที่นางอารุณี รัศมิทัต รองผู้อำนวยการสำนักสิ่งแวดล้อม

ที่เป็นเจ้าของโครงการก่อสร้าง ระบุว่า พื้นที่ดังกล่าวเป็นที่จอดรถขยะกทม.จำนวน 253 คัน ซึ่งมีพื้นที่ 3 ไร่ จะครอบคลุม 15 เขต ที่อยู่โดยรอบเขตสายไหม ยืนยันว่าโครงการดังกล่าวไม่มีผลกระทบ ซึ่งตนเห็นว่าหนังสือดังกล่าวไม่ค่อยถูกต้อง เพราะอนาคต ตนและประชาชนในชุมชนนี้เชื่อว่ามีผลกระทบแน่นอน ไม่ว่าจะเป็นสุขภาพกายและสุขภาพจิต เช่น เรื่องการจราจรที่ติดขัด กลิ่นเหม็นเน่า และอาจเป็นแหล่งแพร่เชื้อโรคได้

นายสุรศักดิ์ กล่าวต่อไปว่า ได้รับทราบอย่างไม่เป็นทางการจากผอ.เขตสายไหมว่า ในวันที่ 23 ส.ค. ทางกทม.จะเชิญผู้แทนชุมชนเพื่อมารับฟังและหาแนวทางแก้ไขอีกครั้ง แต่ในวันที่ 21 ส.ค.นี้ตนจะแจ้งไปที่นายพิชัย ไชยพจน์พานิช รองปลัดกทม.เพื่อขอเปลี่ยนสถานที่ในการประชุมจากที่ศาลาว่าการกทม. มาเป็นสำนักงานเขตสายไหมแทน ซึ่งเสียงประชาชนส่วนใหญ่ยืนกรานว่าอย่างไรที่จอดพักรถขยะนี้ต้องออกไปจากชุมชนแห่งนี้ให้หมด หากการเจรจาในวันที่ 23 ส.ค.นี้ไม่เป็นผลพวกตนก็จะไปฟ้องศาลปกครอง เพื่อให้พิจารณาด้วย

ด้านนายอนุพันธ์ อิฐรัตน์ ผอ.สำนักจัดการคุณภาพน้ำ กรมควบคุมมลพิษ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กล่าวว่า ถ้าโครงการนี้เสร็จปัญหาต่างๆจะตามมาไม่ว่าจะเป็นเรื่องกลิ่นเหม็น หรือการจราจร แต่ตอนนี้ยอมรับว่าปัญหาที่พูดมานี้มันจะยังไม่เกิดขึ้นก็ตาม จึงอยากให้ผู้ที่รับผิดชอบโครงการหาข้อมูลมายืนยันให้ได้ว่าสิ่งที่จะเกิดขึ้นในอนาคต จะไม่มีผลกระทบกับประชาชนในบริเวณดังกล่าว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าระหว่างที่นายสุรศักดิ์ กำลังประชุมหารือกับชาวบ้านอยู่นั้น นางปวีณา หงสกุล อดีตส.ส.กทม.เขตสายไหม พรรคไทยรักไทย และนายเดชา ยิ้มอำนวย อดีตส.ก.เขตสายไหม พรรคประชาธิปัตย์ เดินทางเข้ามาร่วมฟังการชุมนุมครั้งนี้ด้วย

นางปวีณา กล่าวว่า ในฐานะที่ตนดูแลพื้นที่นี้ และได้รับฟังปัญหาต่างๆของ 70 ชุมชนในเขตสายไหมแล้วรู้สึกไม่สบายใจ ตนอยากให้ทางกทม.จัดทำประชาพิจารณ์ว่าประชาชนคิดอย่างไรจะมีผลดีหรือผลเสียอย่างไร ถนนจะทรุดหรือไม่ ผิวการจราจรจะเป็นอย่างไร เป็นต้น กรณีที่นายเดชาออกมาพูดพาดพิงทำนองว่าพรรคไทยรักไทยยุยงให้ชาวบ้านออกมาต้านนั้น คงต้องปล่อยเขา ประชาชนรู้ว่าอะไรเป็นอะไร เป็นเรื่องของประชาชน เราไม่เคยคิดที่จะไปทำเรื่องแบบนี้ มันมีปัญหาจริงๆ รวมทั้งก็มีหลักฐานชัดเจนว่ามีการก่อสร้างจริง ไม่ใช่เป็นเรื่องการเมือง ประชาชนไม่โง่ ประชาชนมีความคิด มีสติปัญญาว่าอะไรเป็นอะไร

ด้านนายเดชา ยิ้มอำนวย กล่าวว่า ที่ตนมาครั้งนี้ยอมรับว่าไม่ได้ถูกเชิญมาแต่มาเอง และต้องการรับฟังความคิดเห็นของชาวบ้านในชุมชนสายไหมว่าเขาคิดอย่างไร ที่ผ่านมาก็เคยมีความเห็นว่าอยากให้มีการย้ายโรงเก็บขยะที่ท่าแร้ง ซึ่งอยู่แถวทำการเขตสายไหมออกไปมานานแล้วแต่ก็ไม่เป็นผล แต่ตอนนี้ทางพรรคไทยรักไทยออกมาเคลื่อนไหวให้ชาวบ้านย้ายที่จอดรถขยะ ตนเห็นว่าถ้าจะทำการย้ายก็ควรย้ายที่ต้นเหตุคือโรงเก็บขยะ หากย้ายได้ที่จอดรถขยะของกทม.กำลังสร้างนั้นก็จะถูกย้ายตามไปทันที

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าระหว่างที่นายเดชาขึ้นมาพูดนั้น มีเสียงประชาชนในชุมชนหมู่บ้านวิลล่า สราสินี และหมู่บ้านศรีวิมลวิล ซึ่งพื้นที่โครงการจอดรถขยะกทม.นั้นสร้างกลางระหว่าง 2 หมู่บ้านนี้ ได้ลุกขึ้นตะโกนโห่ไล่ ว่าเราไม่เอาที่จอดรถขยะควรออกไป และที่บอกว่าไม่เกี่ยวกับการเมืองนั้น ก็เห็นนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ตั้งคัตเอาต์หาเสียงว่า ประชาชนต้องมาก่อน แล้วนี่ไม่ทราบว่าประชาชนมาก่อนจริงหรือ ที่เห็นพรรคมาก่อน พวกมาก่อนทั้งนั้นเลย เมื่อพูดจบประชาชนส่วนใหญ่ที่นั่งฟังต่างปรบมือดังสนั่น

ด้านนางอนงค์ เกิดสุข ชาวบ้านหมู่บ้านศรีวิมลวิล ซึ่งได้รับผลกระทบจากการก่อสร้างโครงการจอดรถขยะของกทม.นี้ กล่าวว่า ตนอาศัยในหมู่บ้านแห่งนี้มาประมาณ 7 ปีแล้ว และไม่คิดว่าจะมีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้น ทางกทม.ก็ไม่เคยบอกให้เรารู้เลย ก่อนหน้านี้ตนก็สงสัยอยู่เหมือนกันว่าทำไมมีรถบรรทุกหินทรายวิ่งเข้าออกบ่อยมาก และก็เคยถามว่าพื้นที่ดังกล่าวจะทำเป็นห้างสรรพสินค้า แต่พอมารู้ทีหลังว่าเป็นที่จอดรถขยะก็รู้สึกไม่ดีเลย

ด้านนางนวพันธ์ สุวรรณโน อายุ 55 ปี อยู่ในชุมชนเลิศปิยะวรรณซึ่งอยู่ห่างจากที่จอดรถขยะประมาณครึ่งกิโลเมตร กล่าวว่า ถ้าที่จอดรถขยะเสร็จการจราจรต้องติดมากขึ้นแน่นอน เพราะปัจจุบันรถก็ติดอยู่แล้ว ยิ่งเวลาถ้าลมโชยมาเชื่อว่าได้กลิ่นแน่นอน ตอนแรกไม่รู้เพราะเขาโกหกกันว่าจะสร้างเป็นห้าง ตนก็หลงเชื่อ แต่พอมารู้ว่าสร้างที่จอดรถขยะเล่นเอาช็อกไปเลย ตนไม่อยากให้เหตุการณ์มันเกิดก่อนแล้วมาแก้แบบวัวหายล้อมคอก เพราะกลัวว่าทุกอย่างมันคงสายไปหมด ตอนนี้เหมือนกทม.ปิดหูปิดตาประชาชน เรียกว่าตอนนี้หมดศรัทธาพรรคประชาธิปัตย์ไปเลย

ด้านนายสระ ประสงค์สัจจา อายุ 68 ปี ข้าราชการบำนาญ อยู่หมู่บ้านวิลล่า สราสินี ซึ่งได้รับผลกระทบโดยตรงเพราะรั้วอยู่ติดกับที่จอดรถขยะ กล่าวว่า ตอนแรกที่มาซื้อไม่คิดว่าจะเป็นแบบนี้ เนื่องจากพื้นที่ดังกล่าวมันว่างเปล่า ลูกสาวตนจะไปสอบถามตลอดกับทางเขตหรือที่ดินซึ่งก็บอกว่าไม่ทราบ จนตนซื้อบ้านเรียบร้อยแล้วถึงรู้ ตกใจมากและถ้าสร้างเสร็จจริงตนและคนในบ้านต้องเสียสุขภาพจิตแน่เลย เพราะทนกลิ่นเหม็นของขยะที่ติดมากับรถขยะไม่ได้ จะย้ายหนีก็ไม่ได้อีกเพราะคงไม่มีคนมาซื้อแน่ เพราะบ้านมันหลังใหญ่ราคาก็สูง

ต่อมาเวลา 14.30 น. ชาวบ้านชุมชนชาวสายไหม 70 ชุมชน ได้เดินขบวนจากโรงเรียนสารสาสน์ วิเทศ สายไหม พร้อมชูป้ายต่างๆที่เขียนข้อความว่า "รวมพลังเราชาวสายไหม รถขยะ 292 คัน เราไม่ต้องการ" "เรามาอยู่ตั้งนานรถขยะมาจอดไม่เห็นบอกเราเลย" "ชาวชุมชนสายไหม ล่มสลายแน่ถ้ามีที่จอดรถขยะ" เป็นต้น เดินประท้วงไปที่เขตก่อสร้างโครงการที่จอดรถขยะ พร้อมตะโกนตลอดเวลาว่า เราไม่เอาที่จอดรถขยะ ที่จอดรถขยะต้องออกไป เพราะมันเหม็น ส่งผลต่อสุขภาพจิตและสุขภาพกายในชุมชน ซึ่งการชุมนุมครั้งนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจสน.คันนายาวประมาณ 10 นายได้เดินทางมาคอยดูแลความสงบเรียบร้อยในการชุมนุมครั้งนี้ด้วย

แหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์ข่าวสด