มีชัยลาขาดการเมือง ลุ้นครม.หมักกู้วิกฤตประเทศ

มีชัย ฤชุพันธุ์ ถือเป็นบุคคลอาวุโสทางการเมือง คร่ำหวอดกับการเมืองมาหลายสิบปี ผ่านมาแล้วทั้งหน้าที่ฝ่ายบริหารและนิติบัญญัติ วันนี้ขอประกาศลาจากวงการเมืองอย่างชัดเจน

พร้อมปิดฉากชีวิตการเมืองในตำแหน่ง ประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ(สนช.) ที่ตั้งขึ้นมาหลังรัฐประหาร 19 ก.ย. 2549 ก่อนพ้นจากตำแหน่งในเดือนมี.ค.2551 ตามรัฐ ธรรมนูญ ฉบับ 50 มาตรา 293 หลังมีส.ส. เข้ามาทำหน้าที่แล้ว และในเดือนมี.ค.2551 จะมีส.ว.ชุดใหม่เข้ามาทำหน้าที่

นายมีชัย ฤชุพันธุ์ เปิดใจก่อนถึงวันอำลาตำแหน่ง ที่มีต่อมุมมองการเมืองและงานการเมืองทั้งที่ผ่านมาและในอนาคตไว้อย่างน่าสนใจ

พอใจกับผลงานของสนช.แค่ไหน

ผลการทำงานของสนช.ที่ผ่านมานั้นน่าพอใจค่อนข้างสูง แต่ละคนได้สละเวลา ร่วมมือกันทำงานดีมาก กฎหมายต่างๆ ที่ออกมาเรียกได้ว่าเบาใจรัฐบาลที่มารับช่วงต่อจากรัฐบาลนี้ได้ แต่ถือเป็นสิทธิ์ของรัฐบาลใหม่ว่าจะหยิบยกร่างกฎหมายที่ค้างสภามาสานต่อหรือไม่

สนช.ชุดนี้ไม่มีอะไรทิ้งท้ายหรือทิ้งทวน แต่จะนัดสมาชิกไปพูดคุยกันที่ต่างจังหวัด ที่กำหนดไว้คร่าวๆ เป็นที่โรงแรมไอยรา รีสอร์ต จ.อุทัยธานี ว่าการศึกษาเรื่องต่างๆ ที่คณะกรรมาธิการแต่ละคณะทำกันไปนั้นค่อนข้างดี แต่ตอนนี้มันกระจัดกระจาย จึงคิดไปจัดทำให้เป็นหมวด หมู่ แยกแยะให้ดี อย่างน้อยส่งไปยังห้องสมุดของมหาวิทยาลัยต่างๆ ได้ศึกษา ค้นคว้า เพื่อประโยชน์

ความคืบหน้าการออกกฎหมายรองรับเหตุการณ์วันที่ 19 ก.ย.2549

คณะกรรมการที่ศึกษาสรุปในแง่ของการทุจริตประพฤติมิชอบ ให้มีการปรับปรุงกฎหมายป.ป.ช.ซึ่งทำไปแล้ว รัฐบาลพล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี ได้เสนอกฎหมายผลประโยชน์ขัดกัน แต่เขียนไปไกลมาก ส่วนที่เกี่ยวกับสถาบัน สรุปให้แก้ไขกฎหมายบางเรื่อง แต่เมื่อดูลงไปแล้ว การแก้ไขกฎหมายอย่างนั้นอาจก่อให้เกิดความเข้าใจผิด จึงระงับไป ส่วนเรื่องการแตกความสามัคคีของคนในชาติ ไม่สามารถแก้ไขได้ด้วยกฎหมาย เป็นเรื่องของรัฐบาลที่ต้องทำต่อไป

เวลาการเมืองไทยมีปัญหาที่ตัวบุคคลมักแก้ด้วยกฎหมาย

โดยหลักน่าจะเกิดจากตัวบุคคลมากกว่ากฎหมาย จริงๆ กฎหมายมีเพียงพอ จะบอกว่าไม่พอไม่ได้ อาจมีบางฉบับขาดตกบกพร่องสามารถแก้ไขได้ แต่กระบวน การที่จะบังคับให้เป็นไปตามกฎหมายนั้นยังหย่อนยาน ซึ่งอาจเกิดจากตัวกลไกที่ไม่เข้มงวด หรือเกิดจากทัศนคติของผู้คนส่วนใหญ่ ที่มองแต่ละเรื่องว่าผิดหรือไม่ บางทีคนส่วนใหญ่อาจบอกว่าผิด แต่ตัวเองก็ทำ

มันจึงยากที่จะไปแก้ปัญหาเหล่านั้น เช่น เวลาประมูลของ ถามว่าฮั้วกันดีหรือไม่ เจ้าหน้าที่ชักเปอร์เซ็นต์ดีหรือไม่ ก็บอกไม่ดี แต่ถามว่าแล้วทำหรือเปล่า ก็ยังทำกันอยู่ แต่ทำแล้วปิดเป็นความลับ แอบพูด ไม่สามารถเอามาเป็นพยานหลักฐานได้ เท่ากับกลไกทั้งหมดไม่เดิน เป็นทัศนคติหรือเป็นพื้นเพที่ยากจะแก้ไขได้ด้วยกฎหมาย เป็นอะไรที่คาราคาซัง

ประเทศมีโอกาสพัฒนาไปสู่จุดความมีสปิริตของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองมากกว่าต้องแก้กฎหมายหรือไม่

อยู่ที่การให้การศึกษา ความเข้าใจในสิทธิและหน้าที่ของคนสร้างได้สำเร็จหรือไม่ ถ้าสร้างได้สำเร็จ ไทยจะเหมือนกับกลุ่มประเทศในยุโรปหรืออเมริกาที่อะไรมากระทบไม่ได้เลย เช่น เราอยู่บ้าน แล้วเพื่อนบ้านทำเสียงดัง กลายเป็นเรื่องใหญ่ที่ตำรวจต้องมาจัดการ เพราะทุกคนเห็นแล้วว่าเป็นเรื่องไม่ดี แต่บ้านเราจะรู้สึกว่าก็แค่นั้น เราไม่รู้สึกว่าเป็นของผิด เวลาจะทำมาหากิน เปิดบาร์หรือคาราโอเกะ ก็เปิดที่ไหนก็ได้ โดยไม่สนใจว่าเพื่อนบ้านเรือนเคียงจะได้ยินไม่ได้ยิน คิดแค่ว่านั่นคือการทำมาหากินโดยสุจริต เพราะการเคารพสิทธิหรือสปิริตเรามีปัญหา คนพูดว่าต้องแก้ด้วยการศึกษา แต่คงทำไม่ได้ในเร็ววัน

ในฐานะกรรมการกฤษฎีกาที่ตั้งขึ้นมาเฉพาะในการพิจารณาให้ใบแดงแก่ผู้สมัครพรรคการเมืองรู้สึกหนักใจหรือไม่

กรณีใบแดงเป็นกฎหมายพิเศษที่กกต.ขอให้กฤษฎีกาช่วยให้เกิดความรอบคอบในสำนวนที่พิจารณา ให้ความเป็นธรรมเพียงพอหรือไม่เท่านั้น กฤษฎีกาไม่ได้ไปทำอะไรให้พิสดาร หากทำมารอบคอบ ให้ความเป็นธรรมครบถ้วนก็พิจารณาไปตามนั้น และไม่ได้นำกระแสสังคม หรือกระแสกดดันต่างๆ มาพิจารณา แต่ทำไปตามสำนวน

คำว่า "นอมินี" ที่พยายามตีความหรือนำมาใช้จะกลายเป็นปัญหาในอนาคต

คำนี้ไม่อยู่ในขอบข่ายของกฎหมายที่จะพิจารณา เป็นเรื่องของกกต.ดูว่าสิ่งเหล่านี้ถูกหรือไม่ ไม่ใช่นักกฎหมายทั่วไปสามารถดูได้ แต่กฎหมายให้อำนาจกับกกต.

มองว่าปัญหาการเมืองรอวันปะทุขึ้นมาอีกหรือไม่

วิธีดีที่สุดอย่าไปคาดการณ์ในทางเลวร้าย เพราะไม่เกิดประโยชน์ หากเริ่มต้นว่าเลวร้าย คนทำงานจะบอกไม่เลวร้ายนี่ ยังไม่ทันเกิดเหตุทะเลาะกันก่อนแล้ว

การเมืองหลังมีส.ส.และส.ว.ทำให้บ้านเมืองพ้นวิกฤตได้

ทุกคนตั้งความหวังไว้อย่างนั้น ว่าจะเข้าสู่ระบบ อย่าทำนายว่าอย่างนั้นอย่างนี้

เหตุผลการปฏิเสธเป็นแคนดิเดตส.ว.สรรหาตามที่องค์กรต่างๆ เสนอชื่อ

ไม่อยากเป็น เบื่อแล้ว การเมืองจะเต็มตัวหรือไม่เต็มตัวก็ไม่อยากลงไปเล่นทั้งนั้น เพราะพ้นวัยแล้ว บางคนยังไม่พ้นเพราะใจยังสู้ แต่ผมรู้สึกผมพ้นวัยแล้ว มองอะไรก็เฉยๆ หมดแล้ว มันไม่กระตือรือร้นแล้ว (หัวเราะ) แปลว่าไม่กระตือรือร้นแล้ว อาจด้วยเรื่องของอายุ 69 ปีแล้ว หรือเห็นมาเยอะ ทุกอย่างเกิดขึ้นได้

ในอนาคตหากได้รับการร้องขอให้เข้ามาช่วยทำงานอีก

มันไม่สนุก และไม่อยู่ในวัยที่เราจะทำประโยชน์ได้มากแล้ว

สิ่งที่อยากทำหลังพ้นจากประธานสนช. เมื่อมีส.ว.ชุดใหม่เข้ามาแล้ว

ท่องเที่ยว ที่ไหนก็ได้ หรือหากมีเวลาว่างอาจนั่งเขียนอะไรบ้าง

นายสมัคร สุนทรเวช ได้เป็นนายกรัฐมนตรี คนที่ 25 และเป็นคนที่ 2 ในเพื่อนร่วมรุ่นนิติ ศาสตร์ รุ่น 2501

ดีใจด้วย

ได้คุยกับนายสมัครในฐานะเพื่อนร่วมรุ่น หลังได้รับโปรดเกล้าฯ เป็นนายกฯ หรือยัง

ไม่ได้คุย แต่ดีใจที่นิติศาสตร์รุ่นเดียวกันได้เป็นนายกฯ คนที่ 2

ลักษณะของนายสมัคร จะทำให้มีปัญหาในการทำงานหรือไม่

คุณสมัครเป็นอย่างนี้มานานแล้ว ไม่ใช่เพิ่งมาเปลี่ยน เป็นรูปแบบหนึ่งที่สร้างจนคนชอบและเลือกเข้ามาด้วยคะแนนท่วมท้น แสดงว่าสื่อกับประชาชนได้ ผมไม่ห่วงคุณสมัคร แต่ห่วงพวกคุณ ดังนั้นต่อไปนี้เวลาไปตั้งคำถามต้องคิดให้ดี คิดให้รอบคอบ

ภาพลักษณ์ของนายสมัครจะกระทบต่อความเชื่อมั่นจากต่างประเทศหรือไม่

เป็นเรื่องที่คุณสมัครต้องคิดเอาเอง

สมัยเรียนระหว่างนายชวน หลีกภัย และนายสมัคร ใครฉายแววเป็นผู้นำมากกว่ากัน

มีแววทั้งคู่ คุณชวน เป็นผู้แทนคณะ เป็นอะไรต่อมิอะไรอยู่เรื่อย ส่วนคุณสมัครเป็นประธานเชียร์ ประธานชมรมปาฐกถา เป็นคนดังทั้งคู่ ไม่เหมือนผมที่ไม่ค่อยมีคนรู้จัก กับคุณชวนอาจสนิทกันมากหน่อย ส่วนคุณสมัคร ได้ทำงานร่วมกันสักระยะ เจอหน้าก็พูดคุยกัน

ส่วนผมที่ไม่คิดสนใจลงมาเล่นการเมืองแบบเพื่อนทั้งสองคน เพราะขีดความสามารถในทางการเมืองไม่มี และไม่มีเป้าหมายทางการเมือง คนที่ลงไปทำอย่างนั้นต้องมีเป้าหมายทางการเมืองถึงอยากเข้าไปทำ แต่ผมไม่มี ไม่ได้อยากเป็นอะไร ที่มาเป็นอย่างทุกวันนี้ด้วยระบบราชการที่หลอมกันไปหลอมกันมา เลยทำให้เข้ามาเกี่ยวข้อง และที่มีคนมองว่าผมเข้ามาในช่วงประเทศเกิดวิกฤตก็ไม่รู้จะทำอย่างไร พยายามเลี่ยง

อะไรเป็นตัวแปรให้รัฐบาลผสม 315 เสียงอยู่ไม่ได้

เดาไม่ถูก ว่าอะไรเป็นตัวแปร รัฐบาลคงจัดการกันไปได้ ทุกคนไม่อยากให้ไปเลือกตั้งใหม่ คงประคับประคองกันไป ส่วนการทำงานมีฝ่ายค้านคอยท้วง คอยติง เป็นของธรรมดา ถ้ายอมรับว่าสิ่งเหล่านี้เป็นของธรรมดาก็ไปด้วยกันได้

การที่สังคมไม่ยอมรับรัฐมนตรีบางคนที่ถูกตั้งขึ้น จะทำให้รัฐบาลมีปัญหาภาพลักษณ์หรือไม่

ไปพูดอะไรล่วงหน้าคงไม่ได้ แต่เชื่อว่าคนเป็นผู้นำจัดตั้งรัฐบาลคงระมัดระวังในการเลือกบุคคลเข้ามาทำงาน เมื่อเรายอมรับเรื่องเสียงข้างมาก ต้องปล่อยให้เป็นไปตามกระบวนการ ส่วนดีหรือไม่อย่างไรต้องไปดูตอนทำงาน

มั่นใจนายสมัครนำพาประเทศผ่านพ้นช่วงเปลี่ยนผ่านการเมืองได้

หวังว่าจะทำได้สำเร็จ เอาใจช่วยอยู่


เครดิต :
เครดิต : เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์ข่าวสด


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์