มิ่งขวัญวูบลมจับ หงายตึง โพเดียมทับหน้าอก

เมื่อเวลา 13.30 น. วันที่ 25 ก.พ. ที่โรงแรมเซ็นทารา เวิลด์ นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม เดินทางไปเป็นประธานในพิธีเปิดงาน “โพสต์ ฟอรัม 2008 มองไปข้างหน้ากับรัฐบาลใหม่”

โดยนายสมัครกล่าวเปิดงานตอนหนึ่งว่า สาเหตุที่เลือก นพ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี มาเป็น รมว.คลัง เนื่องจากทำงานร่วมกันมา 3-4 เดือน รู้ว่าเขาเป็นอย่างไร เขาทำให้ 270 คน มาอยู่พลังประชาชนรวมกัน แต่ก็มีต่างชาติไม่เชื่อถือ นักข่าวต่างประเทศยื่นหน้ามาวิจารณ์รัฐมนตรีไทย ใครบอกว่า นพ.สุรพงษ์ทำงานกระทรวงการคลังไม่ได้ รู้ไหมว่าแต่ก่อนเป็นอย่างไร เขาเคยทำหน้าที่มาหลายอย่าง เขาก็จะดูคนขับเคลื่อนที่เป็นข้าราชการประจำ ทั้งอธิบดี ปลัดกระทรวง เขาเป็นเครื่องจักรกลที่เดินหน้า เอาคนที่มีความรู้มาบริหารบ้านเมือง
 

นายสมัครกล่าวว่า ส่วนนายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์ รองนายกฯ และ รมว.พาณิชย์ นั้น 28 ปีครึ่ง ทำงานกับญี่ปุ่น อยู่กับโตโยต้าอยู่กับญี่ปุ่น รู้หัวรู้หาง จนญี่ปุ่น นับเหมือนญาติ

มาทำกับงานบ้านเมือง ทำงาน อสมท พัฒนาจนเป็นโมเดิร์นไนน์ทีวี เขาพัฒนาจากท้ายสุดมาอยู่หัวสุด เขามีความเข้าใจ ไม่ได้เชี่ยวชาญด้านเศรษฐกิจ แต่มีความรู้ในแบบของเขา เช่น รู้ว่าเวลารณรงค์หาเสียงเลือกตั้ง จะต้องใช้อะไรดึงดูดประชาชน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังที่นายกฯกล่าวจบ ถึงคิวนายมิ่งขวัญขึ้นกล่าวปาฐกถาเรื่อง “การตลาดประเทศไทย” แต่ก่อนการปาฐกถา นายมิ่งขวัญได้กล่าวว่า ไม่ทราบว่า วันนี้จะพูดจบหรือเปล่า เพราะไม่สบายมาก เป็นหวัด จากนั้นได้พูดต่อว่า ยุทธศาสตร์เศรษฐกิจของรัฐบาลชุดนี้จะเน้นสานต่อนโยบายประชานิยมสู่รากหญ้า เพิ่มรายได้และลดรายจ่ายประชาชนโดยเร็วที่สุด พร้อมทั้งออกมาตรการองรับระยะสั้น กลาง ยาว ที่สำคัญคือการสร้างมูลค่าผ่านนวัตกรรมทางความคิด เช่น การผลักดันพืชเศรษฐกิจชนิดใหม่ หรือสนับสนุนโครงการโอทอป
 



นายมิ่งขวัญกล่าวว่า สำหรับวิธีการหารายได้เข้าประเทศ 3 รูปแบบ

คือการหารายได้จากการท่องเที่ยว ซึ่งสร้างรายได้รวดเร็วที่สุด นอกจากนี้ จะใช้วิธีเพิ่มมูลค่าของประเทศ จากอุตสาหกรรมบันเทิง เหมือนที่หลายประเทศทำ เช่น เกาหลี ที่นำดารานักร้อง มาช่วยประชาสัมพันธ์เพิ่มมูลค่าให้ประเทศ ต่อไปไทยจะต้องสร้างดารา นักร้อง ละครภาพยนตร์ ระดับนานาชาติ แข่งขันสู่นานาชาติด้วย หรืออาจร่วมมือกับผู้ผลิตค่ายหนังยักษ์ใหญ่จากฮอลลีวูด นำบทภาพยนตร์ไทยไปผลิตเป็นหนังฟอร์มใหญ่ออกฉายไปสู่ตลาดโลก เช่น เรื่องพระอภัยมณี เรื่องนี้จะช่วยประเทศได้มาก
  

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างที่นายมิ่งขวัญกล่าวปาฐกถามาถึงการผลักดันการส่งออกอุตสาหกรรมบันเทิง

นายมิ่งขวัญเริ่มมีเสียงแหบ หน้าตาซีดเซียว มีอาการซวนเซมือจับโพเดียมแน่น และล้มลงหมดสติจนโพเดียมทับลงไปที่ตัว จากนั้นเกิดความโกลาหลขึ้น พิธีกรได้ประกาศว่าผู้ที่มาร่วมงาน มีใครเป็นหมอ หรือพยาบาลหรือไม่ ขอให้ช่วยมาปฐมพยาบาลด้วย ซึ่ง นพ.ศุภชัย ชัยธีระพันธ์ ประธานกรรมการบริหารโรงพยาบาลเจ้าพระยา และ พล.ต.ท. นพ.นุกูล เจียมอนุกลกิจ อายุรแพทย์โรคหัวใจ โรงพยาบาลเจ้าพระยา ที่มาร่วมงาน และเป็น 1 ในผู้สนับสนุนการจัดงานครั้งนี้ ได้รีบรุดขึ้นไปบนเวทีเพื่อปฐมพยาบาล ขณะที่นายสุวิทย์ คุณกิตติ รองนายกฯ พร้อมด้วยนายพิชายชื่นสุขสวัสดิ์ บรรณาธิการอำนวยการโพสต์ พับลิชชิ่ง ซึ่งนั่งอยู่แถวหน้าสุด ก็รีบตามขึ้นไปช่วยเหลือบนเวที
  

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายแพทย์ทั้ง 2 คน ได้ช่วยกันปั๊มหัวใจนายมิ่งขวัญ

จนเมื่อเห็นว่านายมิ่งขวัญขยับขาได้จึงหยุดปั๊ม ส่วนนายมิ่งขวัญหลังรู้สึกตัวก็พยายามพยุงตัวลุกขึ้นด้วยตัวเอง พร้อมกับพูดออกมาว่า “จะขอ พูดต่อ” แต่นายแพทย์ทั้ง 2 คน บอกว่า “ไม่ต้องพูดแล้ว ให้ไปพักผ่อน” จากนั้นเจ้าหน้าที่พยาบาลได้นำเปลสนาม มารับตัวนายมิ่งขวัญไปโรงพยาบาล แต่นายมิ่งขวัญปฏิเสธที่จะขึ้นไปนอนบนเปลสนาม แต่ขอเดินไปเอง โดยมีนายแพทย์ทั้ง 2 คน ช่วยประคองลงมาจากเวที และลงลิฟต์ของโรงแรม นำส่ง รพ.ตำรวจ ที่อยู่ใกล้ที่เกิดเหตุที่สุด
 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเจ้าหน้าที่พานายมิ่งขวัญมาถึง รพ.ตำรวจ ทางแพทย์ได้นำเข้ารักษาตัวภายในห้องฉุกเฉิน อาคารอุบัติเหตุ

โดยมีคณะแพทย์ของ รพ.ตร.มาตรวจรักษาอาการ เบื้องต้นได้นำนายมิ่งขวัญออกไปเอกซเรย์สมองและปอด ขณะที่เข็นเตียงผู้ป่วยของนายมิ่งขวัญออกไปจากห้องฉุกเฉิน นายมิ่งขวัญที่อยู่บนเตียงผู้ป่วยได้หลบหน้าไม่ให้ช่างภาพถ่ายภาพได้ถนัด โดยนายมิ่ง-ขวัญกล่าวสั้นๆว่า “ไม่เป็นอะไร ผมสบายดีครับ”



จนกระทั่งเวลา 15.30 น. ผู้แทนของนายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี ได้ให้ตัวแทนนำกระเช้าดอกไม้ มาเยี่ยมนายมิ่งขวัญ รวมทั้งนายวิรุฬ เตชะไพบูลย์ รมช. พาณิชย์ มาเฝ้าติดตามอาการป่วยอย่างใกล้ชิดด้วย

โดยรพ.ตำรวจได้จัดห้อง CCU หอผู้ป่วยอาการหนักทางด้าน หัวใจ ตึกข้าราชการตำรวจ ชั้น 1 เป็นห้องพักให้กับนาย มิ่งขวัญ และมีคำสั่งห้ามเยี่ยมผู้ป่วย โดยต่อมา พล.ต.ท.พงศพัศ พงษ์เจริญ โฆษก ตร. ได้รับมอบหมายจาก พล.ต.อ. เสรีพิศุทธ์ เตมียาเวส ผบ.ตร. นำกระเช้าเข้าเยี่ยมอาการด้วย พล.ต.ต.นพ.สมยศ ดีมาก รองแพทย์ใหญ่และโฆษก รพ.ตร. กล่าวว่า ทราบว่านายมิ่งขวัญมีอาการป่วยเป็นหวัด เจ็บคอ ก่อนที่จะขึ้นพูดในงานดังกล่าวได้กินยา และรับประทานอาหารไปเพียงเล็กน้อย เมื่อเจอแสงไฟ ก็คงทำให้หน้ามืดไปชั่วขณะ ล้มลงไปศีรษะกระแทกไมค์ ก่อนจะหงายหลังพร้อมดึงโพเดียมล้มทับ ทำให้สลบไปประมาณ 1 นาที จึงต้องเข้าเอกซเรย์คอมพิวเตอร์ว่าจะมี การกระทบกระเทือนในสมองหรือไม่ เพื่อตรวจให้แน่นอน ส่วนระบบหัวใจ ความดัน ทุกอย่างเรียบร้อยดี

รองแพทย์ใหญ่ รพ.ตร.กล่าวว่า การรักษาคงให้ น้ำเกลือ นอนพัก ให้พักผ่อนอย่างเต็มที่ และรอดูอาการทางสมองเล็กน้อย

เพราะไม่แน่ใจว่ากะโหลกศีรษะจะกระทบกระเทือนหรือไม่ คาดว่าต้องนอนพัก 1 คืน แต่นายมิ่งขวัญอยากไปรักษาที่ รพ.กรุงเทพ เนื่องจากเคยมีประวัติ อยู่ แต่ทาง รพ.ตร.ยืนยันว่ามีความพร้อมทั้งแพทย์และอุปกรณ์ จึงแนะนำให้พักรักษาที่นี่ดีกว่า ขอดูอาการ 24 ชั่วโมงก่อน ผลการเอกซเรย์สมอง กะโหลกศีรษะไม่แตก เนื้อสมองและเส้นเลือดสมองปกติ แต่สมองอาจจะกระเทือน อาจมีอาการเบลอ คลื่นไส้อาเจียนได้ มีแผลที่หน้าผากเล็กน้อย คาดว่า 3-4 วัน แผลหาย
 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากการสอบถามผู้ใกล้ชิดนายมิ่งขวัญ ทราบว่านายมิ่งขวัญมีอาการไม่สบายมาหลายวันแล้ว เพราะเครียดกับงานที่กระทรวงพาณิชย์

โดยเฉพาะเรื่องค่าครองชีพที่สูงขึ้น และการแก้ไขปัญหาการส่งออก ประกอบกับมีเวลาพักผ่อนน้อยมาก แต่ละวันจะเข้านอนเวลา 01.00 น. และตื่นนอนประมาณ 05.30 น. ก่อนการมาบรรยายในครั้งนี้ หลังอาหารเที่ยงเพิ่งรับประทานยาแก้หวัดเข้าไป ทั้งนี้ ตั้งแต่ช่วงเช้า นายมิ่งขวัญได้เข้าร่วมประชุมที่ทำเนียบรัฐบาล และมาร่วมงานโพสต์ ฟอรั่ม 2008 โดยก่อนจะขึ้นรถนายมิ่งขวัญมีท่าทีที่อิดโรย และกล่าวกับผู้สื่อข่าวด้วยน้ำเสียงซึมๆว่า วันนี้ไม่ค่อยสบาย ปวดหัว 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า อาการเป็นลมของนายมิ่ง-ขวัญไม่ได้เพิ่งเกิดเป็นครั้งแรก

เมื่อประมาณ 1 ปีเศษที่ผ่านมา สมัยที่ดำรงตำแหน่ง ผอ.อ.ส.ม.ท. ที่ต้องลุยงานอย่างหนัก นายมิ่งขวัญเคยเป็นลมจมน้ำในสระว่ายน้ำ ที่บ้านถนนพัฒนาการมาแล้ว แต่โชคดีที่คนขับรถเห็นเข้า และนำตัวขึ้นมาจากสระและทำการปั๊มหัวใจช่วยเหลือไว้ได้ทัน


เครดิต :
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดยหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์