มาร์คไม่หวังพึ่งทหารดับไฟใต้ ใช้กม.พิเศษลุย ให้ชาวบ้านเฝ้าระวัง-ลงโทษคนแตกแถว เหตุร้ายลดกว่าครึ่ง


"มาร์ค"นำคณะ ครม.ใต้ลงพื้นที่ ฟัง"อนุพงษ์-แม่ทัพ4" บรรยายสรุปสถานการณ์ ตั้งเป้าไม่พึ่ง"ทหาร-ใช้กม.พิเศษดับไฟ เน้นให้สร้างเครือข่ายชาวบ้านเฝ้าระวัง ผู้ปฏิบัติต้องไม่สร้างเงื่อนไข ใครแตกแถวต้องถูกลงโทษ เผยเหตุการณ์ร้ายรายวันลดลงกว่าร้อยละ 50 ประชาชนให้ความร่วมมือมากขึ้นฃ

นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะกรรมการรัฐมนตรีพัฒนาพื้นที่พิเศษ 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้ หรือคณะรัฐมนตรี (ครม.) ภาคใต้ พร้อมคณะกรรมการ อาทิ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีด้านความมั่นคง พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม นายชวรัตน์ ชาญวีรกูล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ และ พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ลงพื้นที่ภาคใต้ เพื่อรับทราบสถานการณ์ โดยเข้ารับฟังบรรยายสรุปปัญหาที่กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน (กอ.รมน.) ภาค 4 ส่วนหน้า ค่ายสิรินธร อ.ยะรัง จ.ปัตตานี เมื่อเวลา 10.10 น. วันที่ 17 มกราคม โดยมี พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.)

พล.ท.พิเชษฐ์ วิสัยจร แม่ทัพภาคที่ 4 นายพระนาย สุวรรณรัฐ ผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ผอ.ศอ.บต.) พล.ต.ท.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผู้ช่วย ผบ.ตร. และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องให้การต้อนรับ

ทั้งนี้ ก่อนเข้าประชุม นายอภิสิทธิ์ได้ตรวจเยี่ยมกำลังพลซึ่งปฏิบัติหน้าที่ใน กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า พร้อมรับมอบสิ่งของจากกลุ่มแม่บ้านในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ก่อนร่วมตรวจอาวุธยุทโธปกรณ์และวัตถุระเบิดที่เจ้าหน้าที่ตรวจยึดได้จากกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบ จากนั้นได้เข้าร่วมประชุมกับหน่วยงานด้านความมั่นคงรับฟังบรรยายสรุปสถานการณ์และแนวทางการปฏิบัติงานแก้ไขปัญหาความไม่สงบ ซึ่งในภาพรวมการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ประสบผลสำเร็จในระดับหนึ่ง สถานการณ์โดยเฉพาะเหตุร้ายรายวันลดลงกว่าร้อยละ 50 ประชาชนในพื้นที่มีความเข้าใจในการทำงานของเจ้าหน้าที่เพิ่มมากขึ้น และให้ความร่วมมือในการแก้ไขปัญหาเป็นอย่างดี

ต่อมานายอภิสิทธิ์พร้อมคณะเดินทางไปยังวัดปิยาราม อ.ยะหริ่ง จ.ปัตตานี ตรวจเยี่ยมการดำเนินงานโครงการสภาสันติสุขตำบล ของหน่วยเฉพาะกิจปัตตานี 22 ซึ่งเป็นโครงการสนับสนุนชาวบ้านเพื่อสร้างความเข้มแข็งในชุมชน พร้อมร่วมกวนขนมหวาน "อาสุรอ" ซึ่งเป็นขนมสร้างความสามัคคีในกลุ่มคนที่นับถือศาสนาอิสลาม และยังได้ปลูกต้นตะเคียน ก่อนเดินทางทักทายประชาชน ขณะที่ประชาชนในหมู่บ้านได้มอบของที่ระลึกให้กับนายอภิสิทธิ์ด้วย จากนั้นเดินทางเข้าเยี่ยมชมโครงการฟาร์มตัวอย่างอันเนื่องมาจากพระราชดำริบ้านน้ำดำ ต.ปุโละปุโย อ.หนองจิก จ.ปัตตานี

นายอภิสิทธิ์ให้สัมภาษณ์ภายหลังประชุมร่วมกับหน่วยงานด้านความมั่นคงว่า นอกจากการรับฟังการบรรยายสรุปสถานการณ์แล้ว ยังได้มีการหารือร่วมกันของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อทำความเข้าใจให้ตรงกันในเรื่องของนโยบายและแนวทางในการแก้ไขปัญหา ซึ่งพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ยังอยู่ในสถานการณ์ที่ไม่ปกติ ดังนั้นจึงเป็นเหตุผลที่ต้องมีกำลังพลอยู่เป็นจำนวนมากในพื้นที่ และมีการใช้กฎหมายพิเศษหลายฉบับ แต่รัฐบาลมีเป้าหมายชัดเจนว่าจะพยายามแก้ไขปัญหาและสามารถคลี่คลายปัญหาได้ โดยไม่จำเป็นต้องพึ่งพาทั้งจำนวนกำลังพล และกฎหมายพิเศษเช่นนี้ตลอดไป หมายความว่า การทำงานทางด้านความมั่นคง กับด้านการพัฒนาจะต้องสามารถทำงานในลักษณะคู่ขนานกันไปอย่างมีประสิทธิภาพ

"ได้มอบนโยบายด้านความมั่นคง คือ การให้ประชาชนเข้ามามีส่วนร่วม โดยการเฝ้าระวัง การทำเครือข่าย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในชุมชนเมืองที่มีการดำเนินการมาแล้ว และต้องขยายผลต่อไป รวมทั้งการใช้เทคโนโลยี ซึ่งมีทั้งเรื่องของการใช้นิติวิทยาศาสตร์เข้ามาคลี่คลายคดี" นายอภิสิทธิ์กล่าว และว่า เรื่องการปฏิบัติที่ละเมิดสิทธิมนุษยชนนั้น ผบ.ทบ.ได้กล่าวชัดเจนแล้วว่า หากมีผู้ปฏิบัติออกนอกแนวก็ต้องรับผิดชอบและเข้าสู่กระบวนการ ต้องมีการลงโทษ หากฝ่ายตรงข้ามนำมากล่าวอ้างโจมตี จะต้องมีการชี้แจงอย่างรวดเร็ว ต้องมีการประสานงานระหว่างกระทรวงกลาโหม กระทรวงมหาดไทย กระทรวงการต่างประเทศ และทำเนียบรัฐบาล จะต้องมีระบบชี้แจงสิ่งเหล่านี้ให้เกิดความมั่นใจมากยิ่งขึ้น และผมก็พร้อมรับข้อร้องเรียนต่างๆ จากองค์กรเอกชน
 
คลิกอ่านรายละเอียด "มาร์ค"ตั้งเป้าดับไฟใต้ ไม่พึ่งทหาร-กม.พิเศษ


ด้านสถานการณ์ความไม่สงบในพื้นที่ เมื่อเวลา 10.30 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดเก็บกู้วัตถุระเบิด กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัด (บก.ภ.จว.) ยะลา เข้าเก็บกู้ระเบิดแสวงเครื่องบรรจุอยู่ในท่อเหล็กกว้าง 5 นิ้ว ฝังอยู่ริมรั้ว น้ำหนักประมาณ 3 กิโลกรัม ใกล้กับศาลาที่พักริมทาง หมู่ 3 บ้านยะลา ต.ยะลา อ.เมืองยะลา ที่ถูกคนร้ายลอบวางเพลิงเผาจนเสียหายเมื่อกลางดึกที่ผ่านมา โดยเก็บกู้ได้สำเร็จ ซึ่งเชื่อว่าคนร้ายลอบฝังระเบิดไว้และเผาศาลาที่พักเพื่อลวงให้เจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบ จากนั้นจะจุดชนวนระเบิดสังหารเจ้าหน้าที่

ที่ จ.สงขลา เมื่อเวลา 14.00 น. เจ้าหน้าที่ปราบปรามยาเสพติด ตำรวจ ทหาร ฝ่ายปกครอง และเจ้าหน้าที่สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ กระทรวงยุติธรรม เข้าตรวจค้นโรงงานน้ำแข็ง ไม่มีเลขที่ หมู่ 5 ต.คอหงส์ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ซึ่งต้องสงสัยว่าเป็นแหล่งพักยาเสพติดที่ส่งไปจำหน่ายในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ จากการตรวจค้นร่องรอยของเศษยาเสพติด ทั้งกัญชา ยาบ้า ใบกระท่อม และอุปกรณ์การเสพจำนวนหนึ่ง พร้อมกันนี้ได้ตรวจปัสสาวะ 4 ผู้ต้องสงสัย ซึ่งมีภูมิลำเนาอยู่ในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้พบว่ามีสารเสพติดปนเปื้อน จึงควบคุมตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.หาดใหญ่ดำเนินคดี

ที่ จ.นราธิวาส เมื่อเวลา 08.00 น. นายธนน เวชกรกานนท์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส เป็นประธานในพิธีตักบาตรพระสงฆ์จาก 266 วัด ใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ (จ.ปัตตานี, ยะลา, นราธิวาส) และ 4 อำเภอ ของ จ.สงขลา รวม 500 รูปที่บริเวณลานจอดรถโรงแรมอิมพีเรียล เขตเทศบาลเมืองนราธิวาส เพื่ออุทิศส่วนกุศลแก่ผู้เสียชีวิตจากเหตุความไม่สงบ โดยมีข้าราชการ พ่อค้า ประชาชน นำอาหารแห้งมาร่วมพิธีประมาณ 1,000 คน

เครดิต :
เครดิต :เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์มติชน


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์