มาร์คโวยเวทีสื่ออยู่ในรถที่มหาดไทยชัวร์แต่บิดเบือนจนงง

เมื่อเวลา 09.30 น. นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวปาฐากถาพิเศษในการประชุมใหญ่วิชาการวิชาชีพสื่อสารมวลชนระดับชาติ

ภายใต้หัวข้อ "บทเรียนสื่อ อำนาจรัฐ อำนาจทุน อำนาจประชาชน" ซึ่งจัดโดยสมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย สมาคมนักข่าววิทยุ-โทรทัศน์ไทย สถาบันอิศรามูลนิธิพัฒนาสื่อมวลชนแห่งประเทศไทย สภาการหนังสือพิมพ์แห่งชาติ และสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ(สสส.)  ที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์พัทยา จังหวัดชลบุรี  ว่า สถานการณ์บ้านเมืองมีความขัดแย้งสูงซึ่งยังดำรงอยู่ ตนเชื่อว่าคนส่วนใหญ่ต้องการที่จะให้การปรองดองสมานฉันท์เกิดขึ้นได้ ซึ่งสื่อเองก็มีบทบาทเหมือนกันที่พยามจะรณรงค์ให้ยุติด้านต่างๆ แต่ต้องมีการขบคิดร่วมกันว่าการที่จะช่วยกันสร้างความสงบเรียบร้อยในบ้านเมืองกับความอิสระในการเสนอความคิดจะพอดีอย่างไร ซึ่งบางเหตุการณ์รัฐบาลเองก็ต้องประกาศอำนาจพิเศษเพื่อคลี่คลายสถานการณ์ก็ย่อมกระทบหน้าที่การทำงานของสื่อด้วย


"มีเรื่องหนึ่งก็พูดซ้ำทุกวัน จนบางทีผมก็งงว่า ผมอยู่ในรถกหรือเปล่า เพราะผู้เกี่ยวข้องทุกคน ก็รู้ว่าผมอยู่ในรถก หลายคนก็บอกว่าฟ้องได้ ต้องฟ้อง เพราะถ้าให้พูดตามใจชอบ จะโกหกก็ได้ และสื่อก็ต้องรายงานตามที่คนพูด ผมก็ไม่ตอบโต้ ตอนนี้คำถามเยอะมาก ผมไปไหนคนก็ถามว่าอยู่ในรถหรือเปล่า ถ้าเป็นอย่างนี้ มันก็ลำบากในการให้ความเป็นธรรม และการรักษาสิทธิ มันก็แปลกนะครับ เห็นชัดเจนว่า มีคนทำร้ายผม แล้วมาเปลี่ยนให้ผมไม่อยู่ในรถ มันเป็นธรรมหรือเปล่า ผมไม่อยากใช้วงิธีทางกฎหมาย แล้วถามว่า ผมได้รับเป็นธรรมหรือไม่ แล้วคนที่มีเจตนาใดก็แล้วแต่ ไม่รับผิดชอบเลย ที่สร้างความเท็จขึ้นมาให้คนจำนวนหนึ่งเข้าใจ เราจึงต้องดูด้วย" นายอภิสิทธิ์กล่าว

ขณะที่นายภัทร คำพิทพษ์ อดีตนายกสมาคมนักข่าวฯ สะท้อนว่า ในฐานะคนนั่งดูข่าว รู้สึกแปลกที่ข่าวรัฐบาลมีค่อนข้างมาก

แต่หลายเรื่องของรัฐบาลกลับไม่ออกข่าว เช่น โครงการไทยเข้มแข็ง น่าจะให้ข้อมูลประชาชนว่ารายและเอียดแนวทางอย่างไร สุดท้ายมีการตั้งทีมที่ปรึกษา 20-30 คน ก็ไม่เข้าใจ ในภาวะนี้คนต้องการข่าวสารมาก และอยากขอให้นายกฯเป็นตัวแทนริเริ่มการฟื้นฟูความสมานฉันท์อย่างแท้จริง


นายกฯกล่าวว่า การจะเป็นคนนำในการฟื้นฟู จริงๆแล้วสื่อเองตนเห็นบทบาทตอนนี้อยู่ว่า พยายามเป็นคนนำเรื่องนี้

ส่วนตนนั้น มีการกล่าวหาว่าเป็นส่วนหนึ่งของความขัดแย้ง อาจจะทำยากกว่า แต่ตนพูดและนึกในใจตลอดเวลาว่า ตนจะมีส่วนสร้างความปรองดอง ไม่ใช่สร้างความขัดแย้ง ก็หวังว่านักการเมืองทุกฝ่ายจะพยายามทำแบบนี้ด้วย แต่ถ้าจะให้ตนไปเป็นผู้นำด้านนี้ คงลำบาก แม้กระทั่งเรื่องการใส่เสื้อหยุดทำร้ายประเทศไทย ก็ยังมีบางกลุ่มวิพากษ์วิจาณณ์แรงๆว่า มีวาระทางการเมือง เขียนแค่นี้ไม่ได้ ต้องบอกว่าใครเป็นคนทำร้าย มันก็ยังเป็นปัญหาแบบนี้อยู่ คิดว่าองค์กรที่ไม่มีส่วนได้เสียโดยตรงทำดีกว่า

เครดิต :
เครดิต :เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์มติชน


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์