มาร์คโต้กู้เงินเงินลงทุนไม่ใช่การสร้างหนี้!


"อภิสิทธิ์"โต้พัลวัน กู้เงินลงทุนไม่ใช่สร้างหนี้ โวเน้นพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานให้ประเทศ เชื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ-สร้างงานได้ถึง 2 ล้านคน "เสนาะ"กังวลใจแล้วจะไปหาเงินที่ไหนมาใช้คืน เตือนรัฐบาลอย่าห่วงแต่กลุ่มผลประโยชน์ เน้นกอบกู้บ้านเมืองพ้นวิกฤติ “ชินวรณ์” เผยต่อสายฝ่ายค้าน ไฟเขียวถ่ายทอดสดถก พ.ร.ก.กู้แหลก วอน “เพื่อไทย” อย่าตีรวนป่วนสภา เชื่อ ส.ว. ไม่ออกงิ้วคว่ำ พ.ร.ก.กู้เงิน 4 แสนล. ปชป.แจงรัฐบาลวางแผนกระจายเงินพัฒนา 5 กลุ่มสำคัญ “สมชาย” สับ 6 เดือนไม่เห็นผลงานรัฐบาล แนะให้สนใจปัญหาปากท้องชาวบ้านก่อน “เพื่อไทย” กราบงาม ๆ รัฐบาลให้ออกจอ ขู่หากเบี้ยวไม่ร่วมสังฆกรรม จี้ กกต.สอบขนคนลงคะแนนเลือกซ่อมล่วงหน้าเขต 3 สกลนคร จ้องดึงองค์นอกเข้ามาดู ชาวบ้านยังมาใช้สิทธิล่วงหน้าคึกคักเหมือนวันแรก “ชวรัตน์” เล็งลงพื้นที่หาเสียงซ้ำหากทำได้

เล็งทุ่มทุนโครงสร้างพื้นฐาน
   
เมื่อวันที่ 14 มิ.ย. เวลา 09.00 น. นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวในรายการ “เชื่อมั่นประเทศไทยกับนายกฯ อภิสิทธิ์” กล่าวตอนหนึ่งว่า ในวันจันทร์ที่ 15 มิ.ย.เป็นต้นไป รัฐบาลได้ขอความร่วมมือจากสมาชิกสภาช่วยผ่านกฎหมาย 3 ฉบับ คือ ร่าง พ.ร.บ.งบประมาณประจำปี 2553 ร่าง พ.ร.ก.และร่าง พ.ร.บ.ขออำนาจให้รัฐบาลกู้เงิน ซึ่งตนขอย้ำว่าเป็นการกู้ภายใน ประเทศ โดยเอาเงินที่แช่อยู่ในระบบธนาคารของคนไทยด้วยกันมาใช้ในโครงการไทยเข้มแข็ง โดยนำไปลงทุนในสิ่งที่ประชาชนเกือบทุกพื้นที่ต้องการ
    
นายอภิสิทธิ์ ระบุอีกว่า รัฐบาลก่อนเน้นแต่เอาเงินไปให้กู้ แต่เรื่องโครงสร้างพื้นฐานถูกละเลย ซึ่งหากสภาอนุมัติก็สามารถเริ่มดำเนินโครงการต่าง ๆ ได้ทันที โดยตั้งเป้าไว้ว่าในงบ 6 แสนล้านบาทที่สภาจะอนุมัตินี้ จะยกระดับสถานีอนามัยให้เป็นโรงพยาบาลสร้างเสริมสุขภาพระดับ ตำบล ให้ได้ประมาณ 40% ของตำบลที่มีอยู่ทั่วประเทศ เพราะจากที่ตนลงพื้นที่ดูงานด้านสาธารณสุขใน อ.กระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร ทำให้ทราบว่าไม่มีเงินมาปรับปรุงความสามารถในการบริการสาธารณสุขของภาครัฐมาหลายปีแล้ว เพราะค่าใช้จ่ายในโครงการ 30 บาทรักษาทุกโรคกินเงินไปหมด ทำให้การลงทุนด้านสาธารณสุขและด้านต่าง ๆ ทำได้น้อย ทุกจังหวัดจะได้รับการจัดสรรงบประมาณในส่วนนี้ทั้งหมด

สร้างหนี้นายกฯฟังไม่รื่นหู
    
นายกฯ กล่าวอีกว่า โครงการไทยเข้มแข็งที่ต้องไปกู้เงินนี้ เราจะไม่นำมาทำโครงการยักษ์ใหญ่อยู่ไม่กี่โครงการ เราต้องการให้ไปทั่วประเทศ และวันที่เข้าสภาตนจะให้กระจายตัวเลขออกมาให้เห็นว่าแต่ละจังหวัดได้เงินเท่าไหร่ ในแต่ละด้าน ทั้งนี้ตนไม่สบายใจที่ถูกวิจารณ์ว่าเป็นเรื่องกู้เรื่องหนี้ ทั้งที่ความจริงเป็นเรื่องลงทุนที่กระจายไปทั่วประเทศ และจะเป็นตัวสร้างงานด้วย เพราะระหว่างที่โครงการเหล่านี้ทำ เราตั้งเป้าไว้ว่าจะสร้างงานให้ได้ 1.5-2 ล้านคน เป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจด้วย พร้อมกับได้ขอให้รัฐมนตรีทั้งหลายลงพื้นที่ไปดูความพร้อมของโครงการเหล่านี้ และได้ฝากประชาชนให้ช่วยดู และตรวจสอบ หากมีอะไรไม่โปร่งใสให้บอกรัฐบาล
    
เมื่อถามว่าห่วงในช่วง 2 วันที่สภาจะพิจารณาเรื่องนี้หรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า ไม่ห่วง ถือเป็นกระบวนการของสภา แต่ก็ต้องขอความร่วมมือจากสมาชิกรัฐสภา ส่วนฝ่ายรัฐบาลก็ขอความกรุณาให้เข้าประชุม อย่าขาด และก็ขอความร่วมมือจากฝ่ายค้านให้ช่วยยกมือ ทั้งนี้ตนยินดีที่จะรับฟังเหตุผลการท้วงติง ขอยืนยันว่าตนไม่ได้มาขออนุมัติเงินกู้ แต่ขออนุมัติแหล่งน้ำ ถนน โรงเรียน โรงพยาบาล และแหล่งท่องเที่ยว ถ้าสภาให้ เราก็จะได้สิ่งเหล่านี้ ถ้าไม่ให้ก็ยังทำไม่ได้

ปัดมัวแต่พะวงจับ “ทักษิณ”
   
สำหรับรายการ “เชื่อมั่นประเทศไทยกับนายกฯอภิสิทธิ์” ประจำสัปดาห์นี้ แบ่งเป็น 3 ช่วง ๆ แรกนายกฯพูดกับประชาชน ช่วงที่ 2 มี นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกกระทรวงสาธารณสุขและ “นุ้ย” น.ส.สุจิรา อรุณพิพัฒน์ นักแสดงชื่อดัง เป็นพิธีกรรับเชิญมาร่วมถามคำถาม ส่วนในช่วงที่ 3 เป็นเรียลิตี้โชว์คล้ายรายการ “เดอะแท็กซี่” ที่บันทึกเทปบนรถระหว่างการเดินทาง ไปตรวจความคืบหน้าโครงการไทยเข้มแข็งที่ จ.สมุทร สาคร โดยมี น.ส.วาสนา นาน่วม นักข่าวสายทหาร นสพ.บางกอกโพสต์ และผู้เขียนหนังสือ “ลับ ลวง พราง” เป็นพิธีกรรับเชิญที่นั่งพูดคุยกับนายกฯบนรถประจำตำแหน่งด้วย
   
ในช่วงที่ 3 นายกฯ ได้ตอบข้อซักถามของ น.ส.วาสนา ในเรื่องการเข้าไปจัดการกับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ จนเสียเวลาแก้ไขปัญหาของประเทศเรื่องอื่นว่า ตรงนั้นไม่มีอะไร เป็นเพียงข่าวที่คนสนใจ ตนไม่ได้ไปมุ่งจัดการเรื่อง พ.ต.ท.ทักษิณ เพราะได้บอกตลอดว่าตนมีหน้าที่จัดการกับคน 60 กว่าล้านคน ไม่ใช่ปัญหาของคนหนึ่งคน แต่เรื่องของ พ.ต.ท.ทักษิณ ที่เกี่ยวกับประโยชน์ของประเทศคือ ตนต้องการให้ประเทศเราเป็นประเทศที่รักษากฎหมาย ไม่มีใครมีสิทธิพิเศษ

ยังเสียวทหารพยศวันหน้า
    
เมื่อถามว่าถ้าวันหนึ่งมีปัญหาในการทำงานร่วมกับทหาร เผื่อใจไว้หรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ตนอยากมองคนในแง่ดีว่าทุกฝ่าย ทั้ง ระบบราชการ หรือองค์กรหลัก ๆ คงอยากเห็นบ้านเมืองเดินไปข้างหน้าเหมือนที่ตนอยากเห็น จึงสมมุติฐานว่าไม่น่าจะขัดแย้งกันเรื่องนี้ แต่ตนก็อยู่กับความเป็นจริงว่ามันอาจจะเกิดขึ้นได้ และเมื่อเกิดขึ้นตนต้องเลือกข้างประชาชน ซึ่งตนไม่ติดยึดอยู่แล้ว ถ้าต้องมีการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองก็ต้องเปลี่ยนแปลง แต่ขอให้เปลี่ยนแปลงตามระบอบประชาธิปไตย
   
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากนั้นในช่วงท้ายของรายการ นายอภิสิทธิ์ ได้ตอบข้อซักถามที่ว่าก่อนนอนมีโอกาสได้สวดมนต์อธิษฐานอะไรหรือไม่ ซึ่งได้ตอบว่า ตนก็อธิษฐานให้บ้านเมืองสงบสุข และอธิษฐานให้ครอบครัวตามปกติทั่วไป เมื่อถามถึงการรับมือกับความเครียด นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ต้องขอบคุณประชาชนจำนวนไม่น้อยที่ห่วงใยเรื่องสุขภาพ แต่ตนไม่ถือเป็นตัวอย่างที่ดี เพราะการพักผ่อนน้อย รับประทานอาหารไม่เป็นเวลา และไม่ได้ออกกำลังกาย จึงขออย่าได้ทำตาม แต่สิ่งที่ช่วยได้คือเรื่องสุขภาพจิต เพราะตนเป็นคนที่เลือกมาทำงานนี้เพราะชอบงานการเมือง ดังนั้นจึงมีความสุขอยู่กับการทำงาน

ถ่ายถกกู้แหลกวอนพท.ติ๋ม ๆ
    
นายชินวรณ์ บุณยเกียรติ ประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล (วิปรัฐบาล) ให้สัมภาษณ์ว่า ได้หารือกับนายวิทยา บุรณศิริ ประธานคณะกรรมการประสานพรรคร่วมฝ่ายค้าน (วิปฝ่ายค้าน) แล้วตกลงกันว่าจะให้มีการถ่ายทอดสดการออก พ.ร.ก.กู้เงิน 4 แสนล้านบาท และร่าง พ.ร.บ.เงินกู้ 4 แสนล้านบาท ซึ่งจะมีการถ่ายทอดสดทั้งสถานีวิทยุ และสถานีโทรทัศน์ตามที่ประธานรัฐสภาร้องขอไปที่รัฐบาล ซึ่งตรงกับแนวความคิดของรัฐบาลอยู่แล้ว ที่ต้องการให้ผ่านการตรวจสอบของรัฐสภา ถือว่าเป็นประโยชน์ที่ประชาชนรับรู้ แต่ทั้งนี้มีข้อตกลงหากมีการถ่ายทอดสดแล้วก็ขอให้ฝ่ายค้านดำเนินการอภิปรายตามกรอบเวลา
    
นายชินวรณ์ กล่าวอีกว่า ทั้งนี้ จะพิจารณา ให้ความเห็นชอบ พ.ร.ก.กู้เงิน 4 แสนล้านบาทก่อน จากนั้นจึงอภิปรายร่าง พ.ร.บ.เงินกู้ 4 แสนล้านบาท ซึ่งทั้ง 2 ฝ่ายยืนยันจะให้ความร่วมมือตั้งคณะ กมธ.พิจารณาร่าง พ.ร.บ. ส่วนร่าง พ.ร.บ. งบประมาณร่ายจ่ายประจำปี 53 จำนวน 1.7 ล้านล้านบาท คงเป็นไปตามเงื่อนไขเดิมคือพิจารณาในวันที่ 17-18 มิ.ย. ซึ่งจะมีการถ่ายทอดสด  เช่นกัน ส่วนเวลาการอภิปรายให้แต่ละฝ่ายบริหารกันเอง

เชื่อ ส.ว.ไม่ออกงิ้วล้ม พ.ร.ก.
    
ผู้สื่อข่าวถามว่า มี ส.ว.บางส่วนขู่จะคว่ำ พ.ร.ก.กู้เงิน 4 แสนล้านบาท นายชินวรณ์ กล่าวว่า ได้ประสานกับคณะกรรมการวิสามัญกิจการวุฒิสภา (วิปวุฒิสภา) ไปแล้ว โดยจะขอให้พิจารณา พ.ร.ก.กู้เงิน 4 แสนล้านเป็นวาระเร่งด่วน ร่วมถึงร่าง พ.ร.ก.ภาษีสรรพสามิต และร่าง พ.ร.ก.ยาสูบที่ค้างอยู่ ต้องการให้วุฒิสภาได้พิจารณา พ.ร.ก.ทั้ง 3 ฉบับด้วยกัน จากนั้นจะพิจารณาเงินกู้ 4 แสนล้านบาท เชื่อว่าไม่มีปัญหาในภาพรวม ซึ่งทั้งหมดจะพิจารณาในวันที่ 22 มิ.ย. เพราะจะปิดสมัยประชุมวิสามัญในวันที่ 23 มิ.ย. 
   
“ขอฝากทุกฝ่ายว่าในสภาวะวิกฤติเศรษฐกิจที่มีความคาดหวังกับทุกฝ่ายและพิษเศรษฐกิจในอเมริกาและจีน เป็นประเทศยักษ์ใหญ่ในระบบเศรษฐกิจ ดังนั้นไทยจะมีทิศทางที่ดีขึ้น หากรัฐสภาผ่าน พ.ร.ก.และร่าง พ.ร.บ.ดังกล่าว และร่าง พ.ร.บ.งบประมาณฯ 53 จะเป็นการส่งสัญญาณทางบวก สร้างความเชื่อมั่นให้กับประเทศไทยในการแก้ปัญหาและฟื้นฟูเศรษฐกิจ” ประธานวิปรัฐบาล กล่าว  

แจงใช้เงินสร้างงาน 5 กลุ่ม
    
ที่พรรคประชาธิปัตย์ นพ.บุรณัชย์ สมุทรักษ์ โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ท่ามกลางภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัว จำเป็นอย่างมากที่จะต้องอาศัยการลงทุนจากรัฐบาล ดังนั้นพ.ร.ก.ให้อำนาจกระทรวงการคลังเพื่อการฟื้นฟูและความมั่นคงทางเศรษฐกิจ พ.ศ. 2552 จึงมีความจำเป็นอย่างมาก เพื่อนำงบประมาณ 4 แสนล้านบาท มาสร้างงานใน 5 กลุ่มสำคัญ คือ พัฒนาด้านสาธารณสุข การศึกษา การคมนาคม การพัฒนาแหล่งน้ำ และการพัฒนาในจังหวัดชายแดนภาคใต้ ดังนั้นอยากขอเรียกร้องไปยังพรรคฝ่ายค้านอย่าเอาวิกฤติเศรษฐกิจของชาติมาเป็นตัวประกัน และขอให้คำนึงถึงประโยชน์ของประเทศชาติ ร่วมกันพิจารณาร่าง พ.ร.ก.บนเหตุผลความเป็นจริง ไม่สร้างเงื่อนไขใด ๆ ที่อาจจะนำไปสู่การเมืองนอกสภา
   
นายสาธิต ปิตุเตชะ รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า การพิจารณาร่าง พ.ร.บ. งบประมาณรายจ่ายประจำปี 53 และ พ.ร.ก.ให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินฯนั้น ขอเรียกร้องให้ฝ่ายค้านทำตัวเป็นฝ่ายค้านที่มีคุณภาพ ตรวจ สอบในเรื่องของความโปร่งใส ของการใช้เม็ดเงินในโครงการต่าง ๆ ส่วนเรื่องการถ่ายทอดสดการอภิปรายนั้น ในขณะที่สมัยพรรคประชาธิปัตย์เป็นฝ่ายค้านได้เรียกร้องให้มีการถ่ายทอดสด แต่ไม่เคยได้รับการตอบสนอง แต่ขณะนี้พรรคเพื่อไทยมาเรียกร้องให้มีการถ่ายทอดสด

ดักคอฝ่ายค้านอย่าวอล์กเอาต์
    
นายเทพไท เสนพงศ์ โฆษกประจำตัวหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ทุกฝ่ายเห็นด้วยจะให้ถ่ายทอดสดการพิจารณาร่าง พ.ร.ก.และพ.ร.บ.ดังกล่าว แต่ไม่ใช่เป็นไปตามคำขู่ของฝ่ายค้าน อยากเรียนว่ารัฐบาลไม่เคยคิดจะปิดหูปิดตาประชาชน ขอให้พรรคเพื่อไทย ไปดูว่า ตลอด 6 ปีของรัฐบาล พ.ต.ท.ทักษิณ ปิดหูปิดตาประชา ชนหรือไม่ แต่ตลอด เกือบ 6 เดือนของรัฐบาลนายอภิสิทธิ์ทำทุกอย่างโปร่งใส โดยเมื่อได้ตามที่ต้องการแล้ว อยากให้ฝ่ายค้านทำหน้าที่อย่างเต็มที่ ไม่อยากให้เป็นเด็กเกเร และอยากให้ประชาชนจับตาดูว่า จะมีการบอยคอตวอล์กเอาต์ หรือนับองค์ประชุมพร่ำเพรื่อหรือไม่
   
นายเทพไท กล่าวว่า ทั้งนี้ ที่ประชุม ส.ส. ปชป.ได้ตั้งกรรมาธิการ 2 ชุด โดยมีเกณฑ์ต้องมีความรู้ความสามารถในเรื่องงบประมาณ และการเงินการคลัง ต้องมีเวลาเต็มที่เพราะใช้เวลาประชุม 2-3 เดือน ต้องไม่เป็นกรรมาธิการสามัญในสภา และจะมาจากทุกภาค

“ป๋าเหนาะ”ห่วงหาเงินมาใช้หนี้
    
นายเสนาะ เทียนทอง หัวหน้าพรรคประชาราช กล่าวว่าทางพรรคจะรอฟังการชี้แจงรายละเอียดเรื่อง พ.ร.ก.กู้เงินในวันที่ 15 มิ.ย. ก่อนว่ามีความจำเป็นอย่างไรและนำไปใช้ในโครงการอะไรบ้าง อย่างไรก็ตามเรื่องการใช้เงินกู้ไม่มีความจำเป็นเท่ากับเวลาคืนหนี้ให้กับเจ้าหนี้จะเอาเงินจากไหนไปใช้คืนบ้าง ซึ่งตรงนี้ต้องฟังก่อนแล้วทางพรรคจึงมาสรุปขอมติพรรคอีกครั้ง แม้ว่าฝ่ายค้านจะไม่สนับสนุน พ.ร.ก.กู้เงินฉบับนี้ก็ผ่านสภาอยู่ดี เพราะพรรคร่วมรัฐบาลได้เตรียมการไว้ล่วงหน้าแล้ว
    
นายเสนาะ กล่าวอีกว่า อย่างไรก็ตามตนคาดว่ารัฐบาลนี้จะอยู่ได้ไม่นาน เพราะเป็นการรวมตัวกันของกลุ่มผลประโยชน์ต่าง ๆ ที่ต่างต้องการเข้ามาสร้างภาพทำผลงานเพื่อกอบโกยคะแนนนิยมจากประชาชน จึงอยากขอให้รัฐบาลหยุดการกระทำอย่างนี้ลงบ้างและหันมากอบกู้บ้านเมือง อย่าเอาแต่ประโยชน์เฉพาะหน้าเฉพาะกลุ่ม เพราะขณะนี้คนยากจนลงเรื่อย ๆ เพราะรัฐบาลไม่สนใจที่จะแก้ไขปัญหาให้คนระดับล่าง

“สมชาย”สับ6เดือนไม่เห็นผลงาน
    
ขณะที่นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ อดีตนายกฯ ให้สัมภาษณ์ถึงการทำงานของรัฐบาลที่ผ่านมา 6 เดือนว่า ประชาชนยังประสบปัญหาการทำมาหากินอยู่มากถึงขั้นลำบากกว่าที่ผ่านมา โดยเฉพาะปัญหาพืชผลทางการเกษตร รัฐบาลควรหันมาสนใจปัญหาปากท้องของประชาชนให้มากกว่าที่เป็นอยู่ เพราะจากที่ได้รับฟังจากพรรคร่วมรัฐบาล ก็บอกว่าการทำงานในช่วง 6 เดือนที่ผ่านมาถือว่าสอบไม่ผ่าน เพราะไม่มีผลงาน จึงอยากให้รัฐบาลเว้นประเด็นในเรื่องการเมืองไว้บ้าง
    
อดีตนายกฯ กล่าวอีกว่า ส่วนการกู้เงินเพื่อมาลงทุนโครงการขนาดใหญ่แม้จะเป็นเรื่องจำเป็นแต่ก็ถือเป็นเรื่องรอง ขอร้องให้รัฐบาลมาสนใจแก้ไขปัญหาปากท้องก่อนว่าจะมีนโยบายที่ชัดเจนอย่างไรที่จะทำให้คนไทยโดยเฉพาะคนระดับรากหญ้ามีความเป็นอยู่ดีขึ้น สำหรับกรณีของ พ.ต.ท.ทักษิณที่รัฐบาลตามจะเอาตัวมาลงโทษในประเทศไทยให้ได้นั้น ตนไม่อยากตำหนิรัฐบาล แต่ควรปล่อยให้เป็นไปตามกระบวนการยุติธรรมมากกว่า ไม่ใช่ทำให้เป็นเกมการเมือง อย่างไรก็ตามตนฝากปัญหาภาคใต้ อยากเห็นรัฐบาลมีนโยบายที่ลงไปแก้ไขอย่างจริงจัง และจริง ใจกว่านี้ เพราะมีปัญหาหนักมากขึ้น

พท.กราบงาม ๆ ถ่ายถกเงินกู้
    
นายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล ส.ส. เชียงใหม่ พรรคเพื่อไทยในฐานะคณะทำงานด้านเศรษฐกิจของพรรรค กล่าวว่า ตามที่รัฐบาลจะให้มีการถ่ายทอดสดการประชุมสภาสมัยวิสามัญเพื่อพิจารณาร่าง พ.ร.บ.และ พ.ร.ก.กู้เงินรวมจำนวน 8 แสนล้านบาทนั้น ตนต้องกราบขอบพระคุณรัฐบาลที่จะให้ประชาชนจะได้รับทราบความเป็นมาของการออก พ.ร.บ. และ พ.ร.ก.ดังกล่าว ประชาชนในฐานะเจ้าของเงินควรจะได้รับทราบว่านำเงินไปลงทุนอะไร แต่หากถึงวันประชุมแล้วไม่มีการถ่ายทอดสดตามที่ระบุ พรรคเพื่อไทยจะไม่ ร่วมสังฆกรรมเด็ดขาด เพราะงบประมาณก้อนนี้เป็น 8 แสนล้าน เราจะให้รัฐบาลเอาไปปู้ยี่ปู้ยำโดยไม่ผ่านการตรวจสอบไม่ได้ เพราะเราต้องรับผิดชอบร่วมกัน จึงไม่อยากให้ประชาชนเข้าใจผิดว่าพรรคฝ่ายค้านตีรวน

จี้กกต.สอบขนโหวตล่วงหน้า
    
ที่พรรคเพื่อไทย นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย แถลงถึงการลงคะแนนเลือกตั้ง ล่วงหน้าที่จ.สกลนคร เมื่อวันที่ 13 มิ.ย. ที่ผ่านมาว่า ได้พบความผิดปกติของการจัดการเลือกตั้งหลายเรื่อง โดยเฉพาะที่หน่วยเลือกตั้งกลางของ อ.สว่างแดนดิน ได้มีประชา ชนมาใช้สิทธิเลือกตั้งล่วงหน้าจำนวนมาก ตั้งแต่ช่วงเช้าจนกระทั่งเวลาปิดหีบเวลา 17.00 น. พบว่ามีผู้ใช้สิทธิที่ยังไม่ได้หย่อนบัตรลงคะแนน อีกประมาณเกือบ 200 คน แต่กรรมการประจำหน่วยยังอนุญาตให้เข้าไปลงคะแนนได้โดยอ้างว่าเพราะมาถึงหน่วยเลือกตั้งก่อนเวลา 17.00 น.
   
นายพร้อมพงศ์ กล่าวต่อว่า การเลือกตั้งครั้งนี้ปรากฏข้อเท็จจริงว่ามีการนำแบบฟอร์มขอใช้สิทธิเลือกตั้งล่วงหน้า ไปให้ประชาชนกรอกข้อความและถือมาจากบ้าน ทั้งที่ความถูกต้องควรมารับกับเจ้าหน้าที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) และแสดงความจำนงพร้อมเหตุผลความจำเป็นต่อหน้าเจ้าหน้าที่ กกต. นอกจากนี้เมื่อ   ผู้มาใช้สิทธิถึงหน่วยเลือกตั้งและเข้าไปแสดงตนเจ้าหน้าที่ กกต.ไม่ได้สอบถามสาเหตุที่ไม่สามารถใช้สิทธิในวันเลือกตั้งจริง คือวันที่ 21 มิ.ย.ได้   สิ่งเหล่านี้เข้าข่ายขัดต่อ ม. 95 แห่ง พ.ร.บ. ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส.และการได้มาซึ่ง ส.ว. พ.ศ. 2550 และระเบียบ กกต. ว่าด้วยการเลือกตั้ง พ.ศ. 2550

ดึงองค์กรต่างชาติเข้ามาดู
    
“ผู้สมัครเพื่อไทยได้คัดค้านต่อ กกต. จังหวัดและกกต.เขตแล้วเพื่อตรวจสอบโดยเร่งด่วน โดยได้แนบรูปถ่ายการใช้สิทธิเลือกตั้งที่ผิดปกติ และบันทึกการแจ้งความต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจไปแล้ว และยังได้ร้องขอให้กกต.เข้มงวดเรื่องการรักษา   หีบบัตรเลือกตั้งและเวลาการลงคะแนนด้วยเพื่อป้องกันไม่ให้มีการทุจริตอีก” นายพร้อมพงศ์ กล่าว
    
นายพิทยา พุกกะมาน รองโฆษกพรรค กล่าวว่า เมื่อมีผู้มาใช้สิทธิลงคะแนนเลือกตั้งล่วงหน้ามากผิดปกติ เราจึงตั้งข้อสังเกตว่าอาจมีอะไรผิดไปจากปกติหรือไม่ ดังนั้นในการเลือกตั้งวันที่ 21 มิ.ย.พรรคจะเชิญหน่วยงานจากองค์กรระหว่างประเทศเข้าไปสังเกตการณ์การเลือกตั้งครั้งนี้ด้วย ขอยืนยันว่าการเชิญองค์กรระหว่างประเทศเป็นเรื่องปกติของการติดตามการเลือกตั้งเพื่อเป็นหลักประกันว่าการเลือกตั้งจะบริสุทธิ์และขาวสะอาด

สวดกกต.เลิกใช้ 2 มาตรฐาน
    
นายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล ส.ส.เชียง ใหม่ พรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีที่นางสดศรี สัตยธรรม กกต. ออกมาบอกว่าจะตรวจสอบการโฟนอินของพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯในที่ประชุมส.ส.พรรคเพื่อไทย ตนขอถามว่าแล้วกรณีที่นายเนวิน ชิดชอบ แกนนำพรรคภูมิใจไทยไปกอดกับนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกฯ เพื่อร่วมจัดตั้งรัฐบาลโดยปรากฏภาพชัดเจนว่ายุ่งเกี่ยวการเมือง แต่ทำไมกกต.ถึงยกคำร้องของตนทั้งหมด
    
นายสุรพงษ์ ยังระบุว่า อย่างล่าสุดนายเนวินเข้าร่วมการสัมมนาพรรคภูมิใจไทยเรียกประชุมรัฐมนตรีและ ส.ส.ของพรรค โดยปรากฏภาพข่าวและคำพูดอย่างชัดเจนเช่นกัน แต่กกต.ก็ยังเฉย ดังนั้น กกต.อย่าเป็นหน่วยงานที่มีสองมาตรฐาน ต้องมีความจริงใจ อย่าสัมภาษณ์เอามันอย่างเดียว นอกจากนี้ อยากให้ 5 เสือ กกต. บินลงไปดูแล ตรวจสอบการเลือกตั้งซ่อม ส.ส. สกลนคร ในพื้นที่บ้างว่ามีการโกงการเลือกตั้งอย่างไร ขอทำให้เกิดความเป็นธรรมแก่แผ่นดินนี้สักครั้งหนึ่ง

“ลุงจิ้น”เล็งลงพื้นที่หาเสียงซ้ำ
    
นายชวรัตน์ ชาญวีรกูล รมว.มหาดไทย ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่มีข่าวว่าพรรคภูมิใจไทยขนคนไปลงคะแนนจำนวนมากในการเลือกตั้งซ่อมล่วงหน้าที่ จ.สกล นครว่า เขาไปโดยสมัครใจไม่มีการขนคนไปแต่อย่างใด เมื่อถามว่ามีการพาดพิงถึงการจ่ายเงินให้คนไปลงคะแนนล่วงหน้า นายชวรัตน์ กล่าวว่า คิดว่าคงไม่มี และไม่ทราบเพราะตนอยู่ในกรุงเทพฯ ทั้งนี้ในวันที่ 19 มิ.ย. ตนจะลงพื้นที่ไปช่วยผู้สมัครหาเสียงอีกรอบ แต่ตนก็จะดูข้อกฎหมายประกอบด้วยว่าในฐานะเป็น รมต.จะสามารถทำได้หรือไม่ ถ้ามีห้ามไว้ก็จะไม่ไป แต่ถ้าไม่ห้ามก็จะไปช่วยปราศรัยหาเสียง
    
ต่อข้อถามว่ามองอย่างไรที่มีการเปรียบเทียบการเลือกตั้งซ่อมครั้งนี้ว่าเป็นการสู้ระหว่างนายเนวิน กับ พ.ต.ท.ทักษิณ นายชวรัตน์ ตอบว่า ไม่ใช่ เพราะทั้งสองคนที่สื่อพูดถึงไม่ได้อยู่ในวงการการเมืองแล้ว เป็นเรื่องของ 2 พรรคการเมืองมากกว่า และการแข่งขันกันก็เหมือนกับ การเล่นกีฬาถ้าเล่นตามกติกาก็ไม่มีอะไรน่าห่วง

ทยอยไปใช้สิทธิล่วงหน้าคึก
    
ขณะเดียวกันผู้สื่อข่าว จ.สกลนคร รายงานว่า บรรยากาศเลือกตั้งซ่อมล่วงหน้า ส.ส. สกลนคร เขต 3 ซึ่งถือเป็นวันที่ 2 ที่ กกต. กำหนดให้ลงคะแนนล่วงหน้า โดยพบว่า ผู้มี สิทธิเลือกตั้งยังหลั่งไหลออกมาจากหมู่บ้านเพื่อมาใช้สิทธิล่วงหน้า ออกมาเข้าแถวต่อคิวเพื่อลงคะแนนจนล้นหอประชุมที่ว่าการอำเภอสว่างแดนดิน เบื้องต้นคาดการณ์ว่าไม่น้อยไปกว่าประชาชนที่มาใช้สิทธิล่วงหน้าในวันที่ 13 มิ.ย.ที่ผ่านมา โดยมีการระดมเจ้าหน้าที่คอยอำนวยความสะดวกและจัดระเบียบความเรียบร้อยเพื่อไม่ให้เกิดปัญหา
   
นายสัสวิทย์ นามโคตร ประธาน กกต. สกลนคร กล่าวว่า ได้เสริมกำลังเจ้าหน้าที่ให้พร้อมรับสถานการณ์เพราะคาดการณ์ไว้แล้วว่าจะมีผู้ประสงค์มาใช้สิทธิล่วงหน้าเป็นจำนวนมากเช่นเดียวกับในวันที่ 13 มิ.ย. ส่วนการรักษาหีบบัตร ทาง กกต.สกลนครมีมติให้ใช้รถขนผู้ต้องหาของเจ้าหน้าที่ตำรวจเป็นสถานที่เก็บหีบบัตร โดยจะจอดไว้ที่สนามหน้าที่ว่าการอำเภอซึ่งเป็นที่โล่ง พร้อมใช้แผงเหล็กกั้นและวางกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ, อส. ผลัดเปลี่ยนเวรยามตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อรักษาความปลอดภัย และป้องกันการครหาเรื่องการเปลี่ยนหีบบัตรได้อีกด้วย เพราะอยู่ในที่แจ้งเห็นได้ตลอดเวลา

“ไฮโซกึ้ง” เข้าพิธีอุปสมบท
    
ที่วัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม นาย  เฉลิมชัย มหากิจศิริ อดีตรองโฆษกประจำสำนักนายกฯ บุตรชายของนายประยุทธ์ มหากิจศิริ เจ้าของธุรกิจกาแฟสำเร็จรูปรายใหญ่ ได้เข้า พิธีอุปสมบทโดยได้ฉายาว่า “ธีรัชโย” แปลว่า ผู้เปี่ยมล้นไปด้วยความรู้ความสามารถ ซึ่งมีคนดังชั้นแนวหน้าของเมืองไทย ดารา และนักการ เมืองมาร่วมงานเป็นจำนวนมาก อาทิ นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ อดีตนายกฯ นายเสนาะ เทียนทอง หัวหน้าพรรคประชาราช คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ น.ต.ศิธา ทิวารี นางสาววนิดา คุนผลิน และนายพานทองแท้ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร บุตรชาย และบุตรสาวของ พ.ต.ท.ทักษิณ

นายกฯเจอหน้าญาติ “ทักษิณ”
   
ที่ อ.บางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา เวลา 10.30 น. นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกฯ พร้อมด้วยนางพิมพ์เพ็ญ ภริยา ร่วมพิธีหมั้นระหว่าง น.ส.ธีร์พร บุตรสาวนายนิพนธ์ พร้อมพันธุ์ และนายทศพร สิหนาทกธากุล บุตรชายนักธุรกิจโรงแรมดัง ซึ่งในงานดังกล่าวนายอภิสิทธิ์ นางพิมพ์เพ็ญและนายชวน หลีกภัย ประธานสภาที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์ เป็นเจ้าภาพฝ่ายหญิง และมีนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกฯ ฝ่ายความมั่นคง นายชุมพล ศิลปอาชา รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา ร่วมในงานด้วย
    
นอกจากนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในช่วง 16.30 น. นายอภิสิทธิ์ ได้เดินทางไปร่วมพิธี  พระราชทานเพลิงศพพันจ่าเอกวิทูร บุรณศิริ บิดานายวิทยา บุรณศิริ ประธานวิปฝ่ายค้าน ที่วัดวิเวกวายุพัด อ.บางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา โดยภายในงานมี นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ อดีตนายกฯเป็นประธานในพิธี ท่ามกลางแขกสำคัญๆจากอดีตพรรคไทยรักไทยและพลังประชาชน อาทิ พล.อ.ชัยสิทธิ์ ชินวัตร นางเยาวภา วงศ์สวัสดิ์ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง และบุคคลสำคัญในแวดวงการเมืองไทยร่วมพิธีครั้งนี้ โดยนายสมชายและนายอภิสิทธิ์นั่งเก้าอี้ยาวตัวเดียวกัน แต่เว้นว่างห่างกัน 1 ที่นั่ง.


เครดิต :
เครดิต : เดลินิวส์ (อ่านความจริง อ่านเดลินิวส์)


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์