มาร์คแฉตั้งงบ1.5พันล้านพัฒนาที่ไร้พิกัด

มาร์คแฉตั้งงบ1.5พันล้านพัฒนาที่ไร้พิกัด

'อภิสิทธิ์' นำร่องไม่รับหลักการ ร่างพ.ร.บ.งบฯ 57 ชี้ทำงบเพื่อสร้างภาระประชาชน-ขยายอำนาจรัฐ พร้อมแฉตั้งเงิน 1.5 พันล้านทำกองทุนพัฒนาที่ดินราชพัสดุ 1 แปลงไร้พิกัด


นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร อภิปรายในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งมีวาระพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2557 (พ.ร.บ.งบฯ 57) วงเงิน 2.5 ล้านล้านบาท ต่อจากการนำเสนอของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ว่า พรรคร่วมฝ่ายค้านไม่สามารถรับหลักการของร่าง พ.ร.บ.งบประมาณ พ.ศ.2557 ได้ เพราะการเสนอของบประมาณ จำนวนดังกล่าวถือว่าสูงที่สุดในประวัติศาสตร์

นอกจากนั้นแล้วมองว่าหลักคิดการจัดสรรงบประมาณปี 57 ที่ถือว่าเป็นปีที่ 3 ของการจัดทำงบประมาณ สมัยรัฐบาลน.ส.ยิ่งลักษณ์ ผิดพลาด ไม่ได้ใช้โอกาสทองของการใช้งบประมาณอย่างเต็มที่เพื่อแก้ปัญหาของประชาชนและประเทศ

รวมถึงไม่ได้จัดสรรงบเพื่อการบริหารและขับเคลื่อนอนาคตประเทศอย่างแท้จริง โดยงบประมาณ ปี 2557 ที่เสนอขอจัดสรรไม่ได้เปลี่ยนแปลงจากปีที่ผ่านๆมา กล่าวคือ งบประมาณเพื่อรายจ่ายประจำ ร้อยละ 80 , รายจ่ายเพื่อการลงทุน ร้อยละ 17 และเพื่อชำระคืนต้นเงินกู้ ร้อยละ 2

นายอภิสิทธิ์ กล่าวต่อไปว่า กรณีที่รัฐบาลระบุว่าการร่าง พ.ร.บ.งบฯ 57 ถือว่าเป็นการทำงบที่ขาดดุล 2.5 แสนล้านบาท เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา ถือว่าการขาดดุลงบประมาณลดลงถึง 5 หมื่นล้านบาท

เมื่อดูรายละเอียดของร่างพ.ร.บ.งบฯ 57 พบข้อเท็จจริงคือ การลดการขาดดุลดังกล่าวได้สร้างภาระให้กับประชาชน กล่าวคือในเอกสารงบประมาณ เล่มที่ระบุถึงรายรับของประเทศ พบว่า

1. ในเดือนตุลาคม 2556 จะมีการจัดเก็บภาษีสรรพสามิตน้ำมันดีเซล ลิตรละ 1.50 บาท จากที่ได้ยกเลิกการจัดเก็บไปแล้ว เมื่อเป็นเช่นนั้นทำให้ราคาน้ำมันดีเซลเพิ่มสูงขึ้นถึงลิตรละ 1.50 บาท ซึ่งจะทำให้รัฐบาลมีรายได้ปีละ 3 หมื่นล้านบาท และ

2.ขึ้นราคาแก๊สหุงต้ม ตามที่รัฐบาลประกาศว่าแก๊สหุงต้ม จากที่ราคา 18 บาทต่อกิโลกรัม จะปรับเพิ่ม 20 บาทเท่ากับแก๊สในขนส่ง และปรับเพิ่ม 30 บาทเท่าอุตสาหกรรม โดยเฉลี่ยปรับเพิ่มเดือนละ 0.5- 1 บาท ดังนั้นในปีงบประมาณ 57 ประชาชนจ่ายเงินค่าแก๊สแพงขึ้นประมาณ 10 บาทต่อกิโลกรัม ทำให้รัฐบาลมีรายได้ถึงปีละ 3 หมื่นล้านบาท

“วิธีลดการขาดดุล ด้วยการเก็บเอาจากประชาชน สร้างภาระให้กับประชาชน สะท้อนให้เห็นว่าแนวทางการบริหารการคลัง การงบประมาณของรัฐบาล ไม่ได้ขึ้นอยู่กับความเดือดร้อนของประชาชน หลักคิดของรัฐบาลที่เอาเงินไปให้ประชาชนกู้ ปล่อยให้ประชาชนเป็นหนี้ จะไม่ได้สร้างความอยู่ดีกินดีอย่างยั่งยืน และทำให้ความรวยกระจุกตัว” นายอภิสิทธิ์ กล่าว

ผู้นำฝ่ายค้านในสภาฯ กล่าวอีกว่า ตามที่นายกฯ แถลงเรื่องภาวะเศรษฐกิจ ได้ยอมรับว่าใน 1 ปีข้างหน้า แนวโน้มเติบโตลดลง แต่เงินเฟ้อ หรือ ของแพง เพิ่มขึ้น เพราะปัญหากำลังซื้อของประชาชน คือ เกษตรกร ที่พบว่ามีรายได้ลดลงในรอบ 1 ปีที่ผ่านมา เนื่องจากความล้มเหลวของรัฐบาลในการบริหารจัดการพืชผลทางการเกษตร เช่น การจัดสรรเงินให้ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์

เพื่อให้ใช้ในโครงการรับจำนำข้าวทุกเมล็ดเพียงอย่างเดียว โดยไม่มีเรื่องของการบรรเทาภาระของเกษตร องค์กรที่เกี่ยวกับการแก้ปัญหายางพาราให้กับประชาชน ได้รับเงินจัดสรรที่น้อยลง ที่ผ่านมารัฐบาลมุ่งแก้ปัญหาของตนเองมากกว่าประชาชน มีแต่การสร้างโกดังเก็บสินค้าเกษตรเพิ่มขึ้น แต่ไม่มีการขาย รวมถึงผู้ใช้แรงงาน ผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบจากนโยบายขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ 300 บาท


เครดิต :
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดยหนังสือพิมพ์คมชัดลึก

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์