มาร์คเตรียมใช้อำนาจ ทยอยเลิกฉุกเฉินไม่เข้าครม.

“มาร์ค” เตรียมใช้อำนาจตัวเอง ทยอยยกเลิกใช้ พรก.ฉุกเฉินอีก ยันต่อไปนี้ไม่ต้องเข้า ครม. จะใช้อำนาจนายกฯตัดสินเอง สั่ง “เลขาสมช.” รายงานต่อศอฉ. สะพัด“สุเทพ”เทงบหมื่นล้าน ดันตั้งพล.ร.7 คุมแดงป่วนเชียงใหม่ อ้างไอเดีย"อนุพงษ์" จับตาเข้าครม.สัปดาห์หน้า ถ้าสำเร็จเลิกฉุกเฉินพื้นที่จว.เหนือ "ศอฉ."ชี้ข้อเสนอ"คปร."มองคนละด้าน เร่ง"สมช."รวมข้อมูลชง"รบ."ตัดสินใจเอง

 

คปร.แจง"รบ."ใช้กม.มากเกินไป


นายณรงค์ เพ็ชรประเสริฐ คณะกรรมการปฏิรูป (คปร.) ยืนยันที่ประชุมคปร.เมื่อวันที่ 22 กรกฎาคม มีมติร่วมเห็นชอบเสนอให้รัฐบาลพิจารณายกเลิกประกาศใช้พระราชกำหนด(พ.ร.ก.)บริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 โดยเร็ว พร้อมให้สัมภาษณ์เมื่อวันที่ 23 กรกฎาคม ว่าทาง คปร.มีการพูดคุยกันว่า เราควรจะใช้มาตรการทางการเมืองดีกว่ามาตรการทางกฎหมายหรือไม่ เมื่อมีการประชุม คปร.จะมีการพูดทุกเรื่อง ทั้งการเมือง การปกครอง และเศรษฐกิจ ซึ่งประเด็นการยกเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉินนั้น เป็นประเด็นหนึ่งที่อยู่ในความสนใจของประชาชน 
 

"ทาง คปร.จึงมีข้อคิดเห็นร่วมกันว่า พ.ร.ก.ฉุกเฉินนั้น เป็นการเน้นมาตรการทางกฎหมายซึ่งก็มีอยู่แล้ว ถ้าเราจะใช้มาตรการทางการเมืองเสริมเข้าไปจะดีกว่าไหม ซึ่งทุกคนใน คปร.ก็เห็นด้วยว่าดีถ้ายกเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉิน เพราะ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน นั้นเน้นมาตรการทางกฎหมายมากเกินไป โดยมติดังกล่าวเป็นมติร่วมกัน เพราะ คปร.พูดคุยกันเรื่องดังกล่าวมาหลายครั้งแล้ว ซึ่งมีการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นซึ่งกันและกันจึงได้ข้อสรุปนี้มา และคิดว่าถ้าเรารู้จักใช้มาตรการทางการเมืองในกฎหมายที่มีอยู่ก็น่าจะแก้ไขได้" นายณรงค์ กล่าว


"มาร์ค"ไม่รีบเลิกฉุกเฉินหวั่นผลเสีย


 ด้านนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ภายหลังเรียกนายถวิล เปลี่ยนศรี เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) เข้าพบ เวลา 16.00น. ที่ทำเนียบรัฐบาล  ถึงกรณีข้อเสนอแนะของคปร.ที่มีนายอานันท์ ปันยารชุน เป็นประธานให้ยกเลิกพ.ร.ก.ฉุกเฉินโดยเร็ว ว่า นายถวิลบอกว่าจะนำข้อเสนอคปร.ไปประกอบการพิจารณาในที่ประชุมศูนย์อำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน( ศอฉ.)ในเย็นวันเดียวกันนี้ (23 กรกฎาคม) และความเห็นดังกล่าวไม่ได้เป็นเพราะความเห็นของกรรมการปฏิรูป
 

นายอภิสิทธิ์ ยังกล่าวถึงการยกเลิกพ.ร.ก.ฉุกเฉินนั้นที่จริงเป็นความพยายามที่รัฐบาลพยายามทำอยู่แล้ว ต้องการเห็นทุกอย่างกลับสู่ภาวะปกติโดยเร็ว  แต่ขณะเดียวกันตนก็ต้องรับผิดชอบ หากยกเลิกแล้วเกิดความวุ่นวายขึ้น ซึ่งจะเป็นผลเสียมาก ต้องระมัดระวังไม่ให้เป็นปัญหา ในแต่ละวันยังมีการนำเสนอประเด็นที่คลาดเคลื่อนเกี่ยวกับการใช้อำนาจพ.ร.ก.ฉุกเฉิน และต้องยอมรับในบางพื้นที่ บางกรณีเจ้าหน้าที่ใช้อำนาจ พ.ร.ก.ตามกฎหมาย แม้ทำแล้วจะเป็นผลดีด้านความมั่นคงแต่ก็อาจตกเป็นเหยื่อการเคลื่อนไหวที่ต้องการสร้างให้เรื่องนี้เป็นเงื่อนไขของความขัดแย้งให้เกิดขึ้นอีก


ลั่นใช้อำนาจนายกฯทยอยเลิก


ผู้สื่อข่าวถามว่าคิดว่ากรรมการปฏิรูปจะน้อยใจที่รัฐบาลไม่ทำทันทีและอาจมีกรรมการบางคนลาออก นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า คงไม่ใช่เรื่องที่จะทำทันทีทันใด เพราะถ้อยคำที่กรรมการใช้บอกว่า“โดยเร็ว” และการทำงานของกรรมการปฏิรูปก็สอดคล้องกับรัฐบาลอยู่แล้ว ส่วนจะยกเลิกเพียงบางส่วนหรือทั้งหมด นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ถ้าทำทันทีตนตอบได้เลยว่าคงยังไม่ยกเลิกทั้งหมด แต่จะทำเป็นลำดับไป


เมื่อถามว่า สัปดาห์หน้าจะยกเลิกได้กี่จังหวัด นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า “ผมคงยังระบุเป็นตัวเลขไม่ได้ แต่ผมเชื่อว่าจะยกเลิกได้ไปเป็นลำดับ  และต่อไปคิดว่าคงไม่ต้องรอที่ประชุม ครม.เพราะหากฝ่ายความมั่นคงรายงานมาโดยตรงว่าเห็นควรยกเลิกพื้นที่ไหน ผมก็จะใช้อำนาจนายกรัฐมนตรียกเลิกไปเลย ซึ่งการยกเลิกก็จะทำไปเป็นลำดับจนไม่มีจังหวัดไหนใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉินอีก


โฆษก"รบ."ยันต้องประเมิน7ข้อ


 ขณะที่ นายปณิธาน วัฒนายากร รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีคปร.เสนอให้รัฐบาลยกเลิกพ.ร.ก.ฉุกเฉิน ว่าเป็นแนวทางที่รัฐบาลมอบนโยบายให้ศอฉ.อยู่แล้ว ซึ่งในการประชุมครม. เมื่อวันที่ 20 กรกฎาคม ศอฉ. ได้นำเสนอตัวชี้วัด 7 ข้อ คือ 
1. การชุมนุมทางการเมืองที่ขัดรัฐธรรมนูญ 
2. การใช้สื่อบิดเบือนข้อมูลต่างๆ 
3. การปลุกระดมอุดมการณ์และก่อให้เกิดความวุ่นวาย 
4. ความเคลื่อนไหวในต่างประเทศที่จะก่อให้เกิดผลกระทบในประเทศ 
5. การสร้างสถานการณ์ เช่น การใช้อาวุธสงคราม  
6. การการข่มขู่และคุกคามเจ้าหน้าที่ของรัฐ และ 
7. การลอบปองร้ายบุคคลสำคัญ (วีไอพี) 
 

“มีหลายจังหวัดจาก 16 จังหวัดได้เสนอขอยกเลิกพ.ร.ก.ฉุกเฉินเข้ามา ซึ่งมีหลายจังหวัดอยู่ในข่าย เช่น กลุ่มจังหวัดในภาคอีสานและภาคเหนือ แต่ในภาคกลางและปริมณฑลยังไม่มีการนำเสนอเข้ามา แต่เราต้องการคำยืนยันว่าถ้ายกเลิกแล้ว เจ้าหน้าที่โดยเฉพาะตำรวจต้องสามารถทำงานได้ และต้องประเมินปัจจัย 7 ข้อว่าจะไม่มีปัญหาในเรื่องการรักษาความสงบเรียบร้อยและความปลอดภัยให้ประชาชนในจังหวัดนั้น” นายปณิธานกล่าว


อ้างนายกฯพูดไม่ถึงสิ้นปีเลิกหมด


 เมื่อถามว่าข้อเสนอของนายอานันท์จะเป็นตัวเร่งให้รัฐบาลต้องสั่งยกเลิกพ.ร.ก. ฉุกเฉินใน 16 จังหวัดที่เหลือหรือไม่ นายปณิธานกล่าวว่า เข้าใจว่าคปร.คงกังวลในการเดินเรื่องการเมือง โดยเฉพาะการสร้างความปรองดอง ซึ่งความจริงการทำงานเรื่องความมั่นคงกับเรื่องการเมืองต้องเดินคู่ขนานกันไป หากความมั่นคงมี ความปรองดองก็ดี แต่ถ้าพยายามลดพ.ร.ก. ฉุกเฉินลง แล้วความปรองดองยังไม่เกิด ก็คงไม่ใช่  แต่มีความเป็นไปได้ที่จะมีการยกเลิกพ.ร.ก.ฉุกเฉินในพื้นที่ที่เหลือ เพราะนายกฯ ไม่อยากให้ใช้อย่างต่อเนื่องยาวนานชินชาจนกลายเป็นเสพติด ขณะเดียวกันก็ไม่ต้องการยกเลิกไปแล้วพอเกิดปัญหาต้องกลับมาประกาศใหม่
 

เมื่อถามว่ามีการตั้งข้อสังเกตสาเหตุที่ยังคงพ.ร.ก.ฉุกเฉินเอาไว้ เพื่อไล่ล่าแกนนำกลุ่มคนเสื้อแดง นายปณิธานกล่าวว่า ไม่มี เพราะขณะนี้คดีความต่างๆที่มีอยู่ประมาณ 200 คดีตามที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) แถลงเอาไว้ มีผู้เกี่ยวข้องประมาณ 300 คน ซึ่งขณะนี้บุคคลที่ยังหลบหนีอยู่ก็มีไม่มาก การติดตามพยานหลักฐานต่างๆ ก็อยู่ตัวแล้ว ดังนั้นเรื่องการไล่ล่าเพิ่มเติมคงไม่มี
 

เมื่อถามว่า เป็นไปได้หรือไม่ที่ก่อนสิ้นปี 2553 รัฐบาลจะยกเลิกพ.ร.ก. ฉุกเฉินทั้งหมด นายปณิธานกล่าวว่า นายกฯ บอกว่าคงไม่ถึงสิ้นปีแน่นอน เมื่อถามย้ำว่า ประเมินว่าหลังจากนี้ไม่น่าจะมีเหตุการณ์รุนแรงเกิดขึ้นอีกใช่หรือไม่ นายปณิธานกล่าวว่า ก็คงต้องใช้กฎหมายตามปกติ


"ปชป.-มท.1"โหนกระแสหนุน


ที่พรรคประชาธิปัตย์(ปชป.) นพ.บุรณัชย์ สมุทรักษ์ โฆษกปชป. กล่าวถึงกรณีคปร.จี้ให้รัฐบาลรีบยกเลิกพ.ร.ก.ฉุกเฉินว่า  ถือว่าตรงกับความคิดของพรรคที่ต้องการให้ยกเลิกพ.ร.ก.ฉุกเฉินฯโดยเร็วตามความเป็นไปได้ ซึ่งขณะนี้รัฐบาลทยอยเลิกพ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ ก็ไม่ได้ขัดกับข้อเสนอของนายอานันท์ ซึ่งรัฐบาลก็ต้องอาศัยข้อมูลและข้อเท็จจริงในพื้นที่และต้องสร้างความมั่นใจในพื้นที่ว่าหากยกเลิกพ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ แล้วจะไม่เกิดความวุ่นวายอีก เช่น กรณีที่จ.ขอนแก่น มีการจับกุมผู้ก่อวินาศกรรมศาลากลางจังหวัดแล้ว เมื่อมีการดำเนินการแล้ว ก็มีการยกเลิกพ.ร.ก. ฉุกเฉินฯ และหากจะถามว่ารัฐบาลจะยกเลิกได้เมื่อไหร่ก็ควรไปถามคนเคลื่อนไหวว่าจะยุติได้เมื่อไหร่ 
 

านนายชวรัตน์ ชาญวีรกูล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่าในหลักการหากทุกอย่างเรียบร้อย ก็น่าจะมีการยกประกาศการใช้พ.ร.ก.ฉุกเฉินในส่วนของจังหวัดที่เหลือ ส่วนตัวเห็นว่าน่าจะเป็นผลดี โดยเฉพาะภาคการท่องเที่ยว ในส่วนของกระทรวงมหาดไทย  ผู้ว่าราชการจังหวัด ในแต่ละพื้นที่ที่มีการประกาศใช้พ.ร.ก. ยังไม่มีการรายงานความเคลื่อนไหวผิดปกติเข้ามา  เท่ากับว่า NO NEWS IS GOOD NEWS (ไม่มีข่าวถือเป็นข่าวดี)


สปร.แนะรบ.เริ่มก่อนเลิกเร็วยิ่งดี


ขณะที่ นายไพบูลย์ วัฒนศิริธรรม กรรมการสมัชชาปฎิรูป และอดีตรองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงข้อเสนอยกเลิกพ.ร.ก.ฉุกเฉินของคปร.ว่า โดยทั่วไปแล้วพ.ร.ก.ฉบับนี้ควรเลิกใช้โดยเร็วก็ยิ่งดี เพราะเท่ากับว่าประเทศเข้าสู่สภาวะปกติ แต่รัฐบาลก็เกี่ยงว่าสถานการณ์ไม่ปกติ แต่ทุกคนอยากให้ปกติ อย่างไรก็ตามช่วงเวลานี้เป็นโอกาสดีที่ควรใช้กระบวนการสันติวิธีหรือสานติเสวนาเพื่อให้คู่กรณีได้พบปะหารือกันซึ่งเป็นศิลปที่ต้องมีขั้นตอนและวิธีการเหมาะสม และต้องมีคนที่รู้วิธีการมาช่วยทำ จากเรื่องง่ายไปหาเรื่องยาก เช่นขณะนี้เมื่อข้างหนึ่งเลิกพ.ร.ก.ฉุกเฉิน แต่ก็ทำสัญญาประชาคมกับอีกข้างหนึ่งว่าจะต้องไม่ใช้วิธีการรุนแรงที่ทำให้คนอื่นเดือดร้อน หากฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดไม่ทำอย่างที่ตกลงกันไว้ก็กลับไปสู่เงื่อนไขเดิม
 

"ผมคิดว่ากระบวนการเช่นนี้ ควรเริ่มโดยรัฐบาลที่แสดงท่าทีเลิกพ.ร.ก.ฉบับนี้ แต่รัฐบาลก็อาจต้องการหลักประกันว่าจะไม่มีเหตุการณ์รุนแรงเกิดขึ้น ดังนั้นจึงต้องพูดจากันแล้ว หาคนที่ทั้งสองฝ่ายยอมรับ อาจพูดเรื่องง่ายๆ ก่อน อาจใช้คณะกรรมชุดคุณคณิต ณ นคร ก็ได้ ถ้าเป็นที่ยอมของทั้งสองฝ่ายก็ถือว่าเป็นจุดเริ่มต้น"นายไพบูลย์กล่าว

 


"ชทพ."เห็นด้วยขวางปรองดอง


ที่พรรคชาติไทยพัฒนา(ชทพ.) นายวัชระ กรรณิการ์ โฆษกชทพ. แถลงว่าพรรคเห็นด้วยกับข้อเสนอของนายอานันท์เพราะพ.ร.ก.ฉุกเฉิน เป็นอุปสรรคในการสร้างความปรองดอง และเชื่อว่าข้อเสนอของคปร.เป็นโดยสุจริตไม่มีวาระซ่อนเร้นใดแอบแฝง ซึ่งรัฐบาลต้องรับฟัง
 

"มีการตั้งข้อสังเกตเกี่ยวกับการปฏิบัติและบังคับใช้กฎหมายภายใต้พ.ร.ก.ฉุกเฉิน โดยมีเจ้าหน้าที่ของรัฐกรณีการจับกุมนักเคลื่อนไหวที่สี่แยกราชประสงค์ และการจับกุมนักเรียนที่ชูป้ายแสดงความเห็นทางการเมือง หรือแม้กระทั่งกรณีของนายพงษ์พัฒน์ วัชรบรรจง นักแสดงชื่อดัง สิ่งที่เกิดขึ้นสะท้อนว่าพฤติกรรม และการขับเคลื่อนของหน่วยงานของรัฐกำลังสร้างปัญหาให้รัฐบาล โดยเฉพาะเรื่องสิทธิมนุษยชน และปัญหาใหญ่ของรัฐบาลจะเป็นเรื่องสิทธิมนุษยชน"โฆษกพท.ระบุ


ห่วงจนท.ปฏิบัติใช้ผิดคิวทำเจ๊ง


 นายวัชระ กล่าวว่าขณะนี้เริ่มมีสัญญาณที่บ่งบอกชัดว่าเรื่องสิทธิมนุษยชนกำลังจะกลายเป็นเรื่องใหญ่ และจะกลายเป็นปัญหาหนักที่สุดของรัฐบาลชุดนี้ หากไม่มีการแก้ไขให้ทัน แต่เชื่อว่าเจ้าหน้าที่ระดับล่างมีปัญหาการปฏิบัติภายใต้พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ซึ่งมีสภาพเหมือนอยู่ท่ามกลางเขาควาย ไม่ว่าจะขยับซ้าย ขวา หรือนิ่งก็โดน เพราะขาดความรู้ความเข้าใจในการปฎิบัติ
 

"พูดกันตามจริงพ.ร.ก.ฉุกเฉินกับแผนปรองดองของท่านนายกฯ ไปด้วยกันไม่ได้อยู่แล้ว เพราะเป็นคนละเรื่องเดียวกันจึงขอตั้งข้อสังเกตและข้อเรียกร้องว่าปัญหาที่เกิดขึ้นเกิดจากการส่งสัญญาณที่ไม่ชัดเจนจากรัฐบาลหรือเจ้าหน้าที่ระดับสูงของรัฐบาลที่สมควรส่งสัญญาณให้ชัดเจนไปยังเจ้าหน้าที่ว่ากรอบหรือแนวทางที่รัฐบาลต้องการการปฏิบัติแบบไหน เพื่อป้องกันการเกิดปัญหาลักลั่นหรือผิดคิวแบบที่เกิดขึ้น  เนื่องจากพ.ร.ก.ฉุกเฉินเหมือนยาแรง และเป็นมือเหล็กหากใช้ผิดประเภทและผิดวัตถุประสงค์จะทำให้เกิดความเสียหาย เพราะฉะนั้นเจ้าหน้าที่ต้องใช้พ.ร.ก.ฉุกเฉินเหมือนเท้าของช้างที่เหยียบไข่ไม่แตก"


ส.ว.สงสัยไม่เลิกมีผลประโยชน์


นายจิตติพจน์ วิริยะโรจน์ ส.ว.ศรีสะเกษ ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการติดตามสถานการณ์บ้านเมือง วุฒิสภา กล่าวว่า ขอสนับสนุนข้อเสนอคปร. และคณะกรรมการติดตามสถานการณ์บ้านเมือง เคยเสนอต่อรัฐบาลไปเมื่อ 2 อาทิตย์ที่แล้วว่า ให้ยกเลิกพ.ร.ก.ฉุกเฉินโดยเร็ว เพราะความวุ่นวายต่างๆหมดไปแล้ว การยังมีพ.ร.ก.ฉุกเฉินอยู่จะกระทบสิทธิเสรีภาพของประชาชนมาก รวมถึงกระทบเศรษฐกิจ การลงทุน การท่องเที่ยว  ส่วนผลกระทบด้านสังคมก็เป็นเรื่องการรับรู้ข่าวสารของประชาชน แม้แต่ด้านการเมืองเอง ก็อาจส่งผลกระทบต่อการเลือกตั้ง  หรือแม้แต่เรื่องกระบวนการยุติธรรม ที่จะผลส่งกระทบต่อสิทธิมนุษยชน ที่ส่งผลไปถึงการปรองดองกันภายในประเทศอีกด้วย
 

“รัฐบาลอาจกังวลในหลายๆเรื่องอยู่ จึงยังไม่ยกเลิกพ.ร.ก.ฉุกเฉิน และอาจมีเรื่องผลประโยชน์เข้ามาเกี่ยวข้อง แต่เห็นว่า การยังใช้พ.ร.ก.ฉุกเฉินอยู่ มีแต่ข้อเสียมากกว่าข้อดี เพราะเป้าหมายหลักของสังคมคือ การให้บ้านเมืองกลับสู่ความสงบได้โดยเร็ว ฉะนั้นบรรยากาศที่ต้องมีเสรีภาพจึงสำคัญ”นายจิตติพจน์ กล่าว


นักวิชาการชี้คงไว้ระบบกม.พัง


วันเดียวกัน นายพรสันต์ เลี้ยงบุญเลิศชัย อาจารย์ประจำคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ (เอแบค) กล่าวว่า เห็นด้วยเป็นอย่างยิ่งกับข้อเสนอคปร. และอันที่จริงควรจะยกเลิกพ.ร.ก.ฉุกเฉินมาตั้งนานแล้ว เพราะการบังคับใช้พ.ร.ก.ดังกล่าวมีผลกระทบต่อสิทธิเสรีภาพของประชาชนมากมาย  ยังอาจจะขัดรัฐธรรมนูญเพราะจำกัดสิทธิเสรีภาพเกินสมควรแก่เหตุ ตามมาตรา 29
 

"การที่คนพยายามบอกว่าใช้พ.ร.ก.ไปก็ไม่เป็นไร คนก็ยังดำเนินชีวิตไปตามปกติได้นั้น เห็นว่าจะเป็นการทำลายรากฐานของระบบกฎหมายในระยะยาวมากกว่า ซึ่งสร้างความชินชาในภาวะฉุกเฉิน ถ้าต่อไปต้องประกาศภาวะฉุกเฉินอีกจริงๆ คนก็จะเฉยๆเพราะใช้บ่อยจนเฝือ ทั้งหมดนี้หลายฝ่ายส่งเสียงไปยังรัฐบาลมาตั้งนานแล้ว แต่ส.ส.เองที่เป็นตัวแทนประชาชนในการเข้ามาตรวจสอบฝ่ายบริหารในการใช้อำนาจไม่ให้รุกล้ำสิทธิเสรีภาพของประชาชน ทำไมจึงไม่ออกมาพูดเรื่องนี้อย่างจริงจัง" นายพรสันต์กล่าว


ศอฉ.รวมข้อมูลก่อนเลิกฉุกเฉิน


เวลา 18.00 น.ที่กองบัญชาการกองทัพบก พ.อ.สรรเสริญ  แก้วกำเนิด โฆษกศอฉ.) แถลงภายหลังประชุม ศอฉ.ที่มีพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธานว่า ความเห็นจากองค์กรที่ได้นำเสนอเกี่ยวกับพ.ร.ก.ฉุกเฉิน ทางศอฉ.ได้รับฟังข้อมูลทุกส่วน ในช่วงที่ผ่านมาศอฉ.พิจารณาเฉพาะในมุมเรื่องความมั่นคงอย่างเดียว แต่คณะของนายอานันท์ มองในภาพกว้าง ดังนั้นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม จึงสั่งการในที่ประชุมให้ นายถวิล เปลี่ยนศรี เลขาสมช. ในฐานะ เลขา ศอฉ.ได้พิจารณารวบรวมข้อมูลว่าพื้นที่ใดที่ไม่มีการเคลื่อนไหวของกลุ่มที่จะสร้างความวุ่นวายให้เร่งรวบรวมข้อมูล เพื่อรีบนำเสนอให้รัฐบาลรับทราบ เพื่อพิจารณายกเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉินในพื้นที่ต่างๆตามข้อมูลที่มีอยู่ ส่วนรัฐบาลจะพิจารณาอย่างไรก็สุดแล้วแต่รัฐบาล 
 

“เรื่องนี้เป็นนโยบายของรัฐบาลที่สั่งผ่านมาว่า ให้ ศอฉ.พิจารณาในเรื่องนี้ โดยระหว่างที่ ศอฉ.กำลังรวบรวมข้อมูลอยู่ ทางกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน (กอ.รมน.)จะต้องเร่งดำเนินการบูรณาการการปฎิบัติของหน่วยในพื้นที่ เพื่อรองรับสถานการณ์ได้ทันท่วงที หากมีการยกเลิกพ.ร.ก.ฉุกเฉิน”โฆษกศอฉ.กล่าว


“สุเทพ”ดันตั้งพล.ร.7คุมแดงชม.


 รายงานข่าวจากศอฉ.)แจ้งว่า เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาก่อนที่รัฐบาลจะยกเลิกพ.ร.ก.ฉุกเฉินในพื้นที่ 3 จังหวัด คือ  ลำปาง สกลนคร และร้อยเอ็ดนั้น ทางนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีด้านความมั่นคง ในฐานะผอ.ศอฉ.หารือกับ พล.อ.ประวิตร และผู้บัญชาการเหล่าทัพ เพื่อหาแนวทางสกัดการเคลื่อนไหวของกลุ่มคนเสื้อแดงในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ที่มีความพยายามเคลื่อนไหวอย่างต่อเนื่อง ทำให้กำลังทหารและตำรวจไม่เพียงพอในการควบคุมฝูงชนจำนวนมาก พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผู้บัญชาการทหารบก จึงเสนอแนวความคิดที่จะขยายกำลังทหารในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ ด้วยการจัดตั้งกองพลทหารราบที่ 7(พล.ร.7) ขึ้น
 

"โดยจะใช้พื้นที่กรมรบพิเศษที่ 2 เดิม เป็นกองบัญชาการกองพล โดยจะมีหน่วยขึ้นตรง 2 กรม คือกรมทหารราบที่ 7 (ร.7) จ.เชียงใหม่ และกรมทหารราบที่ 17 (ร.17) จ.พะเยา จะมีการบรรจุอัตรากำลังพลที่เกลี่ยมาจากหน่วยต่างๆในพื้นที่ภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จำนวนเกือบ 8,000 นาย 


เทงบหมื่นล้านดันเข้าครม.หน้า


 รายงานข่าวจากศอฉ.แจ้งว่าจะมีการเสนอของบประมาณจำนวนเกือบหนึ่งหมื่นล้านบาท เพื่อให้ครม.อนุมัติงบประมาณภายในเดือนสิงหาคม เพื่อความสะดวกต่อการบรรจุตำแหน่ง ผบ.พล.ร.7 ในการปรับย้ายนายทหารปีนี้  ขณะนี้หน่วยทหารในพื้นที่ภาคเหนือมีเพียงกองพลทหารราบที่ 4 (พล.ร.4) เพียงกองพลเดียว จึงจำเป็นต้องตั้งกรมทหารราบที่ 14 จ.ตากขึ้นมาเพิ่มอีก 1 กรม เพื่อบรรจุให้ครบตามการบรรจุอัตรากำลังพล จากนี้ไปนี้ในพื้นที่ภาคเหนือจะมีหน่วยทหาร 2 กองพลคือ พล.ร. 4 และพล.ร.7 โดยจะขึ้นตรงกับกองทัพภาคที่ 3  
 

"เป็นที่น่าสังเกตว่านายสุเทพต้องการจะสกัดการเคลื่อนไหวของกลุ่มคนเสื้อแดงในพื้นที่ภาคเหนืออย่างจริงจัง และพร้อมจะผลักดันการจัดตั้งพล.ร.7 ให้เข้าที่ประชุมครม.เพื่อพิจารณาอนุมัติหลักการในสัปดาห์หน้า หากมีการจัดตั้งสำเร็จสำเร็จจะประกาศยกเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉินในพื้นที่ภาคเหนือในเร็วๆนี้"แหล่งข่าวศอฉ.ระบุ


ขอนแก่นยังเคลื่อนไหวไม่เลิก


วันเดียวกัน บริเวณศาลากลางจังหวัดขอนแก่น นายพยัต ชาญประเสริฐ รองผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น รักษาราชการแทนผู้ว่าฯพร้อมด้วย พล.ต.สมชาย อัครวณิชชา ผบ.มทบ.23 ร่วมเป็นประธานการฝึกซ้อม “พัชรินทร 53” แผนรักษาความสงบเรียบร้อย จ.ขอนแก่น ซึ่งมีส่วนราชการ องค์กรต่างๆในจังหวัด ผู้บังคับหน่วยทหาร ตลอดจนกำลังพล เข้าร่วมซักซ้อมตามแผนการฝึก และซักซ้อมการปฏิบัติภารกิจรักษาความสงบเรียบร้อย หลังเกิดเหตุการณ์ไม่สงบในช่วงเดือนเมษายนและพฤษภาคมที่ผ่านมา
 

พล.ต.สมชาย กล่าวว่าจากการหารือหลายฝ่ายที่รับผิดชอบใน จ.ขอนแก่น มีข้อสรุปว่ายังมีความเคลื่อนไหวในด้านก่อจลาจลในบ้านเมืองอยู่ ยังมีความเคลื่อนไหวใต้ดิน และรอแสดงออกถ้ามีโอกาสสมควร พ.ร.ก.ฉุกเฉินในขอนแก่นจึงต้องคงไว้เหมือนเดิม ถ้าต้องการให้ยกเลิกต้องหยุดเคลื่อนไหวทันที" พล.ต.สมชาย กล่าว



เครดิต :
เครดิต :เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์มติชน


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์