มาร์คอัดแม้วสับสนตัวเอง ถามเรียกร้องอะไรกันแน่

นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวเมื่อวันที่ 29 มี.ค. ถึงการประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) วันที่ 31 มี.ค. ว่า ในช่วงเช้าวันเดียวกันนี้ 

ตนจะเดินทางเข้าเฝ้าฯ ถวายพระพรสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา สยามบรมราชกุมารี เนื่องจากในวันคล้ายวันพระราชสมภพ วันที่ 2 เม.ย. จากนั้นจะเดินทางไปขึ้นเครื่องบินเดินทางไปประชุมจี-20 โดยในช่วงที่ตนไม่อยู่นั้น ได้มอบหมายให้นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี รักษาการแทน แต่จะติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด ซึ่งแนวทางก็เข้าใจกันดีอยู่แล้วว่ารัฐบาลจะเดินอย่างไร

 
ผู้สื่อข่าวถามว่า สรุปแล้วตั้งแต่วันจันทร์ที่ 30 มี.ค.นี้ ไปจนถึงวันที่จะเดินทางไปประเทศอังกฤษ จะไม่มีกำหนดการเข้าทำเนยบรัฐบาลใช่หรือไม่

นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ไม่มีกำหนดการ แต่ถ้าจำเป็นต้องเข้า ทั้งนี้ ไม่สามารถจะบอกได้ว่า  กลุ่มคนเสื้อแดงจะมีมากขึ้นหรือไม่  เพราะเราเห็นความเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดในเรื่องของตัวเลขของกลุ่มผู้ชุมนุม บางช่วงก็มีมากขึ้น บางช่วงก็มีน้อยลง เป็นธรรมชาติ จะพยายามดูแลไม่ให้กระทบต่อความมั่นคงและความสงบเรียบร้อย   พร้อมย้ำว่า สังคมส่วนใหญ่ไม่ต้องการให้บ้านเมืองเกิดปัญหาอีก และรัฐบาลจะพยายามให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย

 
เมื่อถามว่าจะทำตามข้อเรียกร้องของพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่ให้ยุบสภา หรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ตนยังไม่ทราบว่า เรียกร้องอะไรกันแน่

บางทีพ.ต.ท.ทักษิณบอกว่าให้แก้รัฐธรรมนูญ  ถ้ายุบสภาแล้วจะแก้รัฐธรรมนูญได้อย่างไร พ.ต.ท.ทักษิณยังสับสนตัวเองอยู่ ส่วนแนวทางของร่าง พ.ร.บ.การสร้างความปรองดองแห่งชาติ ในส่วนของกระบวนการตรงนี้ทั้งหมด ถ้าใช้วิธีพูดทีละคน จะมีแต่ความสับสน  ทั้งหมดนี้ต้องเอาเข้ามาอยู่ในกรอบของการทำงานเรื่องการปฏิรูปการเมืองเข้า มาพูดคุยกัน ถ้ามีความบริสุทธิ์ใจในการให้ระบบเดินหน้าและเป็นธรรมกับทุกฝ่าย ก็เอามาคุยกัน เปิดเวทีให้กว้าง  รัฐบาลพร้อมอยู่แล้ว แต่สิ่งที่เรียกร้องกันมาตอนนี้เป็นความพยายามที่จะปลุกระดมมากกว่า

 
เมื่อ ถามว่ารัฐบาลยังมีสมาธิในการทำงานดีอยู่หรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ยังมีสมาธิในการทำงานดี ตนสนใจกับงานของบ้านเมืองเป็นหลัก และมั่นใจว่ารัฐบาลทำงานได้
 
นายกรัฐมนตรี  กล่าวต่อกรณี พ.ต.ท.ทักษิณ  ตำหนิแนวทางการแก้ปัญหาเศรษฐกิจของรัฐบาลที่เน้นการกู้เงิน  ว่า ไม่มีปัญหาอะไร เพียงแต่การกู้ยืมเงินในช่วงที่ผ่านมาของรัฐบาลที่ทำให้ขาดดุลงบประมาณ เป็นเรื่องที่รัฐบาลชุดที่แล้วหรือรัฐบาลชุดก่อนๆก็ทำ เป็นเรื่องปกติ อย่าพยายามบิดเบือนว่าสิ่งนี้ไม่ควรกระทำ ทั้งที่จริงถ้าใครที่เรียนเศรษฐศาสตร์เบื้องต้น จะทราบว่า จังหวะเวลานี้เหมาะสมที่สุดที่จะทำงบประมาณแบบขาดดุล มิฉะนั้นจะไม่มีอะไรมาปกป้องคุ้มครองคนที่ตกงาน คนที่มีรายได้น้อย และเกษตรกรในยามเศรษฐกิจไม่ดีโดยมีปัจจัยจากเรื่องภายนอกและการที่รัฐบาลได้ รับผลกระทบจากการจัดเก็บรายได้
 
ส่วนการกู้ยืมเงินมาเพื่อการลงทุนนั้นเป็นการเตรียมการสำหรับอนาคต นายกรัฐมนตรี  ยืนยัน ว่า จะไม่กระทบต่อวินัยการเงินการคลัง 

ตนเห็นว่าข้อเสนอของพ.ต.ท.ทักษิณไม่ได้พิเศษอะไรที่บอกว่าไม่ให้กู้เงิน แต่ให้ไปแคะกระปุกคือการนำเงินสำรองออกมาใช้  จะมีปัญหาในอีกทางหนึ่ง
เมื่อถามว่า พ.ต.ท.ทักษิณสื่อสารถึงประชาชนในระดับรากหญ้าว่าพร้อมกลับมาแก้ ปัญหาของประเทศ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ก่อนหน้านี้มีผลสำรวจต่างๆรวมถึงเอแบคโพลล์  ตนไม่เชื่อว่าใครมาเป็นนายกรัฐมนตรีล้วจะไม่ต้องกู้เงินตอนนี้ คนส่วนใหญ่เข้าใจเศรษฐศาสตร์ดี

เครดิต :
เครดิต :เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์มติชน


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์