มาร์คลุยค้านแผนที่เขมรเขาวิหาร

วันที่ 25 ก.ค. ที่สถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย ช่อง 11 นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวในรายการเชื่อมั่นประเทศไทยกับนายกฯ อภิสิทธิ์ ว่าขณะนี้จะมีการประชุมคณะกรรมการมรดกโลกที่ประเทศบราซิล วันที่ 28 ก.ค.นี้

ซึ่งจะพิจารณาเรื่องแผนการบริหารในส่วนของปราสาทเขาพระวิหารตามที่ทางการกัมพูชาเสนอ ตนย้ำว่าเรื่องนี้รัฐบาลไม่ได้นิ่งนอนใจ แต่ได้ติดตามสถานการณ์และดำเนินการตามความเหมาะสมอย่างต่อเนื่อง เมื่อใดที่มีการละเมิดเข้ามาในพื้นที่ของเรา กระทรวงการต่างประเทศและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะประท้วงและแสดงออก เพื่อยืนยันสิทธิ์ในพื้นที่ที่แบ่งเขตตามสันปันน้ำในสนธิสัญญา

นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า จุดยืนของรัฐบาลและจุดยืนส่วนตัวที่มีมาโดยตลอดคือเราไม่ได้ยอมรับว่าแผนที่ที่ทางการกัมพูชาใช้โดยเฉพาะในการฟ้องร้องในคดีต่อศาลโลกเป็นแผนที่ที่แสดงเขตแดนที่ถูกต้อง

รวมทั้งได้อิงกับคำพิพากษาของศาลโลกมาตลอดว่าคำพิพากษาในขณะนี้ไม่ได้ตัดสินเรื่องเขตแดน ไม่ได้ยอมรับหรือตัดสินชี้ขาดเกี่ยวกับสถานะของแผนที่ ตนจึงไม่อยากให้เกิดความเข้าใจผิดว่าตัวแผนที่หรือบันทึกความเข้าใจในปีพ.ศ.2543 เป็นผลเสียหรือกระทบกระเทือนกับสิทธิ์ของไทย ในทางตรงข้ามรัฐบาลมีจุดยืนมาตลอดว่าเราต้องการแก้ปัญหาเรื่องเขตแดนเรียบร้อยเสียก่อน และย้ำตลอดว่านับตั้งแต่มีการจดทะเบียนปราสาทเขาพระวิหารเป็นมรดกโลก และมีแผนบริหารจัดการนั้นจากที่ประชาชนทั้ง 2 ประเทศไปท่องเที่ยวได้โดยไม่มีความขัดแย้ง กลับกลายเป็นว่าขณะนี้มีแต่ความขัดแย้งถึงขั้นเกิดเหตุปะทะและมีการสูญเสียกันมาแล้ว

นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า เราย้ำเรื่องนี้มาโดยตลอด และใช้เวลาที่ผ่านมาทำความเข้าใจกับองค์การยูเนสโก คณะกรรมการมรดกโลก และประเทศต่างๆ การคัดค้าน

และเสนอให้เลื่อนการพิจารณาไปจนกว่าเรื่องเขตแดนจะเรียบร้อยจะเป็นแนวทางที่มีเหตุผลในการชะลอหรือคัดค้านกระบวนการที่ขึ้นทะเบียนหรือการจัดทำแผนบริหารจัดการ ขณะนี้เบื้องต้นทราบว่าทางการกัมพูชายื่นสิ่งที่เขาเรียกว่าเป็นแผนผัง ซึ่งถกเถียงมาตลอดว่าเป็นแผนผังหรือแผนที่ ซึ่งจะมีปัญหาเช่นเดียวกับที่เคยยื่นมาแล้ว ยืนยันว่ารัฐบาลจะมีมาตรการและวิธีการอื่นๆ ต่อไปในการแสดงออกถึงการคัดค้านและไม่ยอมรับแผนที่หรือการตัดสินของคณะกรรมการมรดกโลกถ้าเราเห็นว่าไม่เป็นธรรม

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากการที่ในวันนี้เป็นวันที่จะมีการประชุมเกี่ยวกับการที่ประเทศกัมพูชาจะเสนอแผนบริหารจัดการพื้นที่โดยรอบเขาพระวิหารต่อที่ประชุมยูเนสโกที่ประเทศบราซิล

ปรากฏว่าบรรยากาศที่บริเวณด่านเก็บค่าธรรมเนียมอุทยานแห่งชาติเขาพระวิหาร ต.เสาธงชัย อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ทหารไทยได้มีการตั้งด่านตรวจเข้มรถทุกคันที่ผ่านเข้า-ออกเพื่อขึ้นไปที่บริเวณอุทยานแห่งชาติเขาพระวิหาร และไม่อนุญาตให้ผู้ที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องผ่านขึ้นไปได้อย่างเด็ดขาด โดยอ้างว่าขณะนี้สถานการณ์ยังไม่สงบเรียบร้อยและไม่ปลอดภัย ขณะที่บริเวณรอบปราสาทพระวิหาร ทหารไทย-กัมพูชา มีทหารตรึงกำลังเข้มตลอดแนว ซึ่งทหารทั้ง 2 ฝ่ายไม่ได้มีการเสริมกำลังทหารเพิ่มเติมแต่อย่างใด ส่วนชาวบ้านภูมิซรอล ต.เสาธงชัย อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ซึ่งอยู่ใกล้กับเขาพระวิหาร ชาวบ้านก็ยังคงทำมาหากินกันตามปกติและไม่ได้มีความหวาดกลัวว่าการประชุมครั้งนี้จะมีเหตุการณ์รุนแรงเกิดขึ้นแต่อย่างใด

นางมะลิกุล ทำบุญ อายุ 50 ปี ชาวบ้านภูมิซรอลคนหนึ่ง กล่าวว่า ตนอยู่ที่บ้านภูมิซรอลแห่งนี้มาตั้งแต่เกิดแล้ว

และก่อนหน้านี้ก็มีการปะทะกันระหว่างทหารไทยกับทหารกัมพูชาอยู่เสมอ จึงเคยชินกับเสียงปืนและเสียงระเบิดแล้วและเชื่อมั่นว่าทหารไทยทุกนายจะสามารถป้องกันพื้นที่บริเวณนี้ได้เป็นอย่างดี ดังนั้น จึงไม่ได้รู้สึกหวาดกลัวว่าการประชุมครั้งนี้จะมีเหตุรุนแรงเกิดขึ้นแต่อย่างใด

ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า ขณะเดียวกันที่จุดผ่านแดนถาวรไทย-กัมพูชา ช่องสะงำ ต.ไพรพัฒนา อ.ภูสิงห์ จ.ศรีสะเกษ

ซึ่งในวันนี้เป็นวันที่เปิดให้มีตลาดนัดไทย-กัมพูชาที่บริเวณตลาดไทย ปรากฏว่าบรรยากาศการซื้อขายสินค้าไม่ค่อยคึกคักเท่าที่ควร มีชาวกัมพูชาเข้ามาหาซื้อสินค้าค่อนข้างบางตามาก คาดว่าเป็นผลกระทบจากการที่จะมีการประชุมเกี่ยวกับการขอขึ้นทะเบียนปราสาทพระวิหารเป็นมรดกโลก ทำให้ชาวกัมพูชาไม่กล้าที่จะเข้ามาหาซื้อสินค้าที่ตลาดนัดในวันนี้คึกคักเหมือนเช่นทุกครั้งที่ผ่านมา