มาร์ครุดพบกกต. ผวาผิด กม.เลือกตั้งไม่กล้ารับงาน

นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรีหวั่นบทบาทนายกรัฐมนตรีและคณะรัฐมนตรี (ครม.) จะกระทบต่อการหาเสียงเลือกตั้ง
 
จึงเดินทางเข้าหารือถึงความชัดเจนในแนวทางปฏิบัติกับคณะกรรมการการเลือกตั้ง เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 11 พฤษภาคม ที่ห้องวีไอพี ชั้น 9 สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) พร้อมนายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และนางอัญชลี วานิช เทพบุตร เลขาธิการนายกรัฐมนตรี โดยมีนายอภิชาต สุขัคคานนท์ ประธานกกต. นายประพันธ์ นัยโกวิท กกต.ด้านกิจการบริหารงานเลือกตั้ง และนางสดศรี สัตยธรรม กกต.ด้านกิจการพรรคการเมือง ร่วมหารือ โดยให้สื่อมวลชนเข้ารับฟัง 10 คน


นายอภิสิทธิ์ หารือว่า ช่วงเวลาราชการ ผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ไม่สามารถทำกิจกรรมทางการเมืองในช่วงเลือกตั้ง

เพราะอาจก่อให้เกิดปัญหา เช่น การเข้าร่วมกิจกรรมที่หน่วยงานของรัฐและเอกชน เชิญหัวหน้าพรรคการเมืองไปร่วมเวทีกิจกรรมเพื่อแสดงวิสัยทัศน์ กิจกรรมประเภทนี้ ในฐานะนายกรัฐมนตรี และมีตำแหน่งเป็นหัวหน้าพรรคเมือง จะสามารถไปร่วมได้หรือไม่ รวมถึงหากรัฐมนตรีขอลากิจกับนายกรัฐมนตรี จึงเกิดเป็นคำถามว่าหากรัฐมนตรีขอลากิจทุกวันจะทำอย่างไร


"เรียนตรงๆ ว่า ตอนนี้ผมไม่กล้าที่จะรับงานอะไรเลย ไม่ว่าจะเป็นงานมอบนโยบาย หรือการไปร่วมงานแสดงวิสัยทัศน์ที่เป็นหน่วยงานอื่นจัดขึ้นและมีการเชิญหัวหน้าพรรคไปร่วมงาน เพราะกลัวว่าจะติดเรื่องเวลา หรือเรื่องรับของอะไรหรือไม่ รวมทั้งหากผมในฐานะหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ไม่ได้ไปร่วมแสดงวิสัยทัศน์ หรือจัดงานอื่นๆ ที่เป็นงานเฉพาะด้าน พรรคก็ไม่สามารถส่งรัฐมนตรีไปร่วมแสดงวิสัยทัศน์ได้ ผมจึงเห็นว่าตรงนี้ไม่ได้เป็นข้อได้เปรียบของพวกผม แต่เป็นข้อเสียเปรียบมากกว่า จึงอยากรบกวนสอบถามมายังกกต." นายอภิสิทธิ์ กล่าว


จากนั้นนายอภิชาต ตอบข้อหารือของนายกฯ ว่า ส่วนตัวเห็นว่าขณะนี้ นายกรัฐมนตรี ยังเป็นนายกรัฐมนตรีอยู่

การปฏิบัติหน้าที่อะไรที่เคยทำก็ทำได้ปกติ แต่หากมุ่งไปในทางหาเสียงไม่ใช่การปฏิบัติหน้าที่ตามปกติก็สุ่มเสี่ยงที่จะถูกร้องเรียน ส่วนการมอบรางวัล หรือเปิดงานต่างๆ สามารถทำได้ในฐานะนายกรัฐมนตรี แต่ที่น่าเห็นใจคือเรื่องการรักษาความปลอดภัย ก็เป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจที่จะต้องดูแล และใช้ดุลพินิจเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุร้าย ซึ่งทีมรักษาความปลอดภัยอาจใช้ทหารรับจ้างมาทำหน้าที่ตรงนี้แทนได้


"ส่วนรถยนต์กันกระสุนที่เป็นข้อสงสัยว่าจะยังสามารถนำมาใช้ได้หรือไม่นั้น ผมเห็นว่าควรจะใช้ในเวลาราชการเท่านั้น แต่หากนอกเวลาราชการก็ควรใช้รถยนต์อื่น และแยกเป็นค่าใช้จ่ายของพรรค ซึ่งคงไม่มีปัญหา" นายอภิชาตกล่าว


ด้านนายประพันธ์ กล่าวว่า ข้อหารือที่นายกฯ ส่งมาเป็นหนังสือตอนนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาของกกต.
 
และหลังจากพิจารณาแล้วเสร็จก็จะมีความชัดเจนว่าอะไรที่ทำได้หรือทำไม่ได้ ส่วนผู้สมัครพรรคการเมืองอื่นๆ หากมีข้อสงสัยสามารถสอบถามและส่งข้อหารือมาได้ กกต. พร้อมจะตอบทุกเรื่อง ทั้งนี้ เรื่องการทำงานของนายกฯ และครม. มาตรา 181 ของรัฐธรรมนูระบุว่า 1.ไม่กระทำการอันเป็นอำนาจแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการ หรือหากแต่งตั้งกสามารถทำได้ แต่ต้องแจ้งต่อกกต. 2.การอนุมัติงบประมาณสำรองฉุกเฉิน 3.งบประมาณผูกพันต่อครม.ชุดต่อไป และ 4.การใช้ทรัพยากรหรือบุคลากรของรัฐ ยกเว้นในกรณีที่เกิดเหตุภัยพิบัติสามารถทำได้  แต่ขึ้นอยู่กับดุจพินิจของนายกรัฐมนตรี หากสิ่งใดที่ก้ำกึ่งก็ควรระมัดระวัง


เครดิต :
เครดิต :เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์มติชน


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์