ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า การนอนพักค้างคืนที่วัดหนองเงือกนั้นก็หลับสบายดี ไม่มีฝัน แต่ก็ไม่ค่อยสนิท
เนื่องจากเกรงว่าจะไม่ตื่น ทั้งๆที่ได้ตั้งนาฬิกาปลุกไว้แล้วก็ตาม แต่ก็ถือว่านอนหลับดี เพราะเมื่อวันที่ 1 มิ.ย.มีภารกิจตลอดทั้งวัน ส่วนจะมีการไปพักค้างคืนในพื้นที่อื่นเช่นเดียวกันนี้ในจังหวัดอื่นหรือไม่คงต้องพิจารณาดู อย่างการมาครั้งนี้ก็มีปัญหานิดหน่อย เพราะเดินทางหลายจังหวัด ก็มีปัญหาเรื่องของเวลาบ้าง “ผมนอนที่ไหนก็ได้ขอแค่ไม่มียุงก็พอ”
นายอภิสิทธิ์ กล่าวถึงการร้องเรียนของชาวบ้านว่า ชาวบ้านส่วนใหญ่จะร้องเรียนถึงปัญหาราคาสินค้าแพง โดยเฉพาะเนื้อหมู และไข่ ซึ่งตนก็ได้ชี้แจงไปแล้วว่าได้เร่งรัดให้กระทรวงพาณิชย์เข้าไปดูแลซึ่งน่าจะลดราคาได้อีกในเร็วๆนี้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับการนอนพักค้างคืนที่วัดหนองเงือก ต.แม่แรง อ.ป่าซาง จ.ลำพูน ครั้งนี้ของนายอภิสิทธิ์ นั้นได้เริ่มต้นเมื่อเวลา 00.45 น.
หลังจากที่นายอภิสิทธิ์ได้เปิดเวทีปราศรัยที่ จ.พะเยาเสร็จสิ้น โดยเมื่อมาถึงก็ได้กราบพระเจ้าทันใจ และพระสังกัจจายน์ ที่ประดิษฐานอยู่ที่บริเวณด้านหน้าพระอุโบสถ จากนั้นได้ทักทายประชาชนที่มารอ ก่อนที่จะเข้าพักในกุฏิ 60 ปี พระราชจริยาภรณ์ (สิงห์ไชย มูลชีพ) ซึ่งทางคณะทำงานของพรรคและทางวัดได้จัดเตรียมไว้ สำหรับกุฏิฯดังกล่าวนั้นเป็นกุฏิรับรองของผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม กรุงเทพฯ ซึ่งเดิมเป็นชาวบ้านหนองเงือก จึงมีการสร้างกุฏิรับรองไว้ในช่วงเวลาที่เดินทางกลับมาบ้านเกิด โดยกุฏิหลังดังกล่าวมี 2 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ ติดแอร์ 3 ตัว ตัวกุฏิเป็นเรือนไม้ทั้งหลังประตู-หน้าต่างเป็นกระจก ซึ่งนายอภิสิทธิ์ได้นอนร่วมกับนายอิศรา ส่วนนายสาทิตย์นอนห้องเดียวกับนายชัยวุฒิ โดยข่าวแจ้งว่านายอภิสิทธิ์นอนหลับไม่ค่อยสนิท จะตื่นตลอดเวลา และตื่นในเวลา 05.00น. สำหรับการรักษาความปลอดภัยนั้นทาง พล.ต.ต.ชำนาญ รวดเร็ว ผู้ผบก.ภ.จว.ลำพูน ได้บัญชาการเอง มีตำรวจจากสน.พื้นที่ตำรวจจากบชภ.5 และ หน่วยปฏิบัติการพิเศษทั้งในและนอกเครื่องแบบมาอารักขาชั้นสูงสุด
หลังจากเดินตลาดหนองเงือกเสร็จ นายอภิสิทธิ์ ได้กลับเข้ามายังบริเวณวัดเพื่อร่วมกับชาวบ้านตักบาตรอาหารแห้ง
ซึ่งทางวัดได้นิมนต์เจ้าอาวาส หรือรองเจ้าอาวาสจากวัดใน ต.แม่แรง รวม 17 รูป และเณร 2 รูป มารับบาตร โดยเวลา 06.45 น.นายอภิสิทธิ์ นายสาทิตย์ นายชัยวุฒิ และคณะ ได้เข้าไปยังวิหาร หรือพระอุโบสถ เพื่อประกอบพิธีทำบุญสืบชะตา สะเดาเคราะห์ และพิธีบายศรีสู่ขวัญ จากนั้น พระภิกษุได้มอบเหรียญรูปเหมือนพระครูญาณะ อดีตเจ้าอาวาสวัดดังกล่าว และกล่าวทักดวงชะตาของนายอภิสิทธิ์
โดยพระรูปดังกล่าว ทักว่านายอภิสิทธิ์ดวงแข็ง ในช่วงที่มีการต่อสู้ดวงจะสูสีกับคู่แข่ง ดังนั้นนายอภิสิทธิ์จึงต้องกลับมาแก้ดวง แต่ นายกฯ ตอบกลับไปว่า ช่วงนี้ไม่ค่อยมีเวลาเพราะติดภารกิจเลือกตั้ง ซึ่งพระรูปดังกล่าวได้ยืนยันว่า หลังการเลือกตั้ง นายอภิสิทธิ์ต้องกลับมาแก้ดวงชะตา เพราะฝ่ายตรงข้ามมีดวงพิฆาตเหนือกว่ามาก ทำเอานายกฯ มีสีหน้าเคร่งเครียด แต่ยังฝืนยิ้มเจื่อนๆ ออกมา
ต่อมา นายอภิสิทธิ์ กล่าวปราศรัยตอนหนึ่งว่า ตนเป็นนายกรัฐมนตรีไม่ใช้ 1 นิ้วสั่งงาน แต่ใช้ 10 นิ้วประสานและไหว้อย่างนอบน้อม ยุคนี้จำเป็นที่เราทุกคนต้องประสานกัน รวมถึงใช้สมองและ 2 มือเดินหน้าทำงานอย่างเต็มที่
จากนั้น นายอภิสิทธิ์ ได้รับประทานอาหารเช้าคือข้าวเหนียวกับแกงฮังเล อยู่ภายในวัด ก่อนจะเดินมาเยี่ยมชมร้านจันทร์ศรีผ้าฝ้าย ที่ผลิตผ้าฝ้ายทอมือ ซึ่งนายอภิสิทธิ์ ได้นั่งปั่นฝ้ายสีชมพูด้วยตัวเอง เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่าหมายความ ว่าสานความปรองดองใช่หรือไม่ นายอภิสิทธิ์ ยิ้มและกล่าวว่า "สีน่ะใช่"
กระทู้ร้อนแรงที่สุดของวันนี้
กระทู้ล่าสุด
รูปเด่นน่าดูที่สุดของวันนี้
