มาร์คยันฟื้นสัมพันธ์เขมร

เมื่อวันที่ 26 ก.ย. นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวในรายงาน "เชื่อมั่นประเทศไทย กับนายกฯอภิสิทธิ์" 

จากการเดินทางไปยังประเทศสหรัฐอเมริกา ในการพบปะกับนายฮุนเซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ได้หารือในประเด็นกว้างๆ ซึ่งประเทศเพื่อนบ้าน สิ่งสำคัญคือ ความสัมพันธ์อันดี มีความร่วมมือ หลีกเลี่ยงการปะทะกัน ความสูญเสีย ซึ่งเห็นตรงกัน จึงได้หารือว่าอะไรที่จะทำให้เข้าใจกันมากขึ้น คือ การแลกเปลี่ยนการเยือนประเทศกันมากขึ้น ไม่เฉพาะกระทรวงการต่างประเทศ ซึ่งนายฮุนเซนได้เจาะจงว่า ทำอย่างไรให้ผู้สื่อข่าวได้แลกเปลี่ยนกันบ้าง เพราะหลายครั้งการเสนอข่าวอาจทำด้วยความไม่เข้าใจ หรือการทำกิจกรรมทางวัฒนธรรม เช่น การจัดคอนเสิร์ต กีฬา การจัดกิจกรรมอย่างอื่น ซึ่งตนเห็นด้วยว่าหากได้ทำกิจกรรมร่วมกันก็จะเป็นเรื่องดี

"แม้จะมีข้อความเห็นไม่ตรงกัน แต่การค้าชายแดนระหว่างประเทศ ก็มีอัตราการการซื้อขายเพิ่มมากขึ้น จึงเห็นตรงกันว่าอะไรที่เป็นทางบวกก็จะทำ ส่วนเรื่องที่เป็นปัญหา ความจริงมีกติการ่วมกันอยู่แล้ว แต่ได้ขอให้ทำความเข้าใจกระบวนการภายในประเทศ เช่น กระบวนการทางรัฐสภา เช่น มาตรา 190 การเจรจาของไทยต้องผ่านกระบวนการทางสภา แต่ในระยะหลังส่วนหนึ่งทูตก็มีการกลับเข้าประจำการแล้ว เชื่อว่าความสัมพันธ์จะดีขึ้น ซึ่งในระหว่างนี้ ก็ยังมีวาระที่ต้องพบปะกันอีกหลายครั้ง หากไม่เป็นไปตามที่ตกลงก็ยังมีโอกาสหารือกันอีก อย่างไรก็ตาม ต้องยอมรับปัญหาพื้นฐานยังอยู่ เช่น เรื่องมรดกโลก ซึ่งเป็นเรื่องปกติของเขตประเทศที่อยู่ติดกัน ก็ต้องแก้ปัญหากันไป" นายอภิสิทธิ์กล่าว

ที่สถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี

ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีการพบหารือระหว่างนายอภิสิทธิ์กับนายฮุนเซนว่า นายกฯให้ตนมาสรุปเรื่องการหารือดังกล่าวว่า จากการที่นายกฯได้พูดคุยสองต่อสองกับนายฮุนเซนนั้น บรรยากาศเป็นไปด้วยดี และเชื่อมั่นว่าการกระชับความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศจะมีความก้าวหน้ายิ่งขึ้น โดยเฉพาะสิ่งที่นายฮุนเซนคุยกับนายอภิสิทธิ์ เรื่องที่ตนเดินทางไปประสานเบื้องต้น ซึ่งนายอภิสิทธิ์ต้องการให้เร่งดำเนินการ กรณีที่อยากให้มีการทำงานร่วมกันระหว่างผู้สื่อข่าวไทย-กัมพูชา การจัดกิจกรรมด้านการส่งเสริมวัฒนธรรม เช่น ดนตรี ก็ขอให้ดำเนินการต่อไป และเชื่อมั่นว่าปัญหาต่างๆ ที่เป็นปัญหาพื้นฐานของเราในเรื่องชายแดนก็น่าจะสามารถแก้ไขได้

นายหัตถชัย เพ็งแจ่ม ประธานชมรมผู้ประกอบการค้าและการท่องเที่ยวช่องสะงำ จ.ศรีสะเกษ กล่าวว่า

ภาพที่นายกรัฐมนตรีของไทยจับมือกับนายกรัฐมนตรีของกัมพูชา ได้ส่งผลดีต่อบรรยากาศการค้าและการท่องเที่ยวที่บริเวณช่องสะงำ ซึ่งเป็นจุดผ่านแดนถาวรไทย-กัมพูชาที่สำคัญเพียงแห่งเดียวของจ.ศรีสะเกษ เป็นอย่างมาก เพราะว่าทำให้ชาวกัมพูชาไม่ต้องหวาดผวาว่า เมื่อเข้ามาหาซื้อสินค้าในเขตแดนไทยแล้ว จะเกิดเหตุการณ์ที่ไม่ปกติ และอาจจะมีอันตรายกับชาวกัมพูชาเกิดขึ้นได้ ดังนั้น เมื่อชาวกัมพูชามั่นใจในความปลอดภัย จึงเข้ามาหาซื้อสินค้าคึกคักมากกว่าทุกครั้งที่ผ่านมา ขณะเดียวกันนักท่องเที่ยวจากทั่วประเทศก็พากันเดินทางมาที่บริเวณช่องสะงำ เพื่อที่จะเดินทางไปที่ จ.เสียมราฐ ประเทศกัมพูชา ไปเที่ยวชมนครวัด-นครธม ซึ่งเป็นสิ่งมหัศจรรย์ของโลกกันมากกว่าเดิมอีกด้วย

เครดิต :
เครดิต : เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์ข่าวสด


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์