มาร์คมอบถาวรจับตาดูพฤติกรรมเฉลิม-ประชา


ในที่ประชุมส.ส.พรรคประชาธิปัตย์เมื่อเย็นวานนี้ (6 ก.ย.) ที่ผ่านมา นายบัญญัติ บรรทัดฐาน กรรมการสภาที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์ ได้วิเคราะห์สถานการณ์การเมืองถึง การแต่งตั้งโยกย้ายพล.ต.อ.วิเชียร พจน์โพธิ์ศรี ผบ.ตร.ที่ไปกระทบถึงนายถวิล เปลี่ยนศรี อดีตเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.)

และกรณีที่ พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก รมว.ยุติธรรม กับร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี กำกับดูแล สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) ร่วมกันออกมาสำทับให้ข่าวผ่านสื่อว่า การถวายฎีกา เพื่อช่วยเหลือ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่ถูกศาลฎีกาแผนกคดีอาญานักการเมือง ตัดสินมีความผิดลงโทษจำคุก 2 ปี ไปแล้ว แต่พ.ต.ท.ทักษิณ ยังไม่ได้เข้ามอบตัวและรับโทษว่าสามารถทำได้ 


เหตุการณ์การเมืองขณะนี้ควรจะจับตามองเป็นอย่างยิ่ง เพราะเป็นการท้าทายต่อกระแสสังคม หลายกรณีที่เขาไม่ควรทำ เขาก็ทำ รัฐบาลทำทุกเรื่องที่ตั้งเป้าหมายไว้ โดยไม่รอเวลา ดูเหมือนไม่เกรงใจใครแล้ว มีการใช้อำนาจในด้านต่างๆ เช่นกรณีถวายฎีกา ที่เขาเคยทำมาแล้วครั้งหนึ่ง ที่อ้างว่ารวบรวม รายชื่อประชาชนได้กว่า 3 ล้านคนและเอาใส่กล่องห่อผ้าแดง ให้คนเสื้อแดง เดินไปส่งถึงสำนักพระราชวัง ซึ่งหลังตรวจสอบแล้ว พบว่ามีคนที่มีคุณสมบัติ และมีตัวตนตรวจสอบได้ ที่ยื่นถวายฎีกามานั้น มีประมาณ 2 ล้าน คน และขณะนี้ผลการตรวจสอบยังไม่ออกมาอยู่ที่กรมราชทัณฑ์ ที่อ้างว่าทำได้ นั้น ก็ไม่น่าจะทำได้

จึงขอให้จับตาดูว่าการกระทำของ ร.ต.อ.เฉลิม ลุแก่อำนาจ ขอให้ทุกคนติดตามและคอยดู และกรณีนี้เชื่อมั่นว่าจะสร้างกระแสต่อต้านรัฐบาลที่ร้อนแรง ซึ่งก่อนหน้านี้ ร.ต.อ.เฉลิมเคยทำ รัฐบาลสมัยพล.อ.ชาติชาย ชุณหะวัน พังมาแล้ว จากกรณีเอารถโมบายไปดักฟังการสนทนาของนายทหารระดับสูง และเวลานี้ดูเหมือนว่าการบริหารประเทศของรัฐบาลนี้มีนายกรัฐมนตรีถึง 3คน คือ 1.น.ส.ยิ่งลักษณ์ 2.ร.ต.อ.เฉลิม และ 3.คนที่อยู่เบื้องหลังน.ส.ยิ่งลักษณ์

ด้านนายถาวร เสนเนียม ส.ส.สงขลาและรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ได้ลุกขึ้นแสดงความเห็นว่า กรณีการถวายฎีกา เพื่อพยายามช่วยเหลือ พ.ต.ท.ทักษิณ เมื่อดูตามข้อกฎหมายแล้วไม่สามารถทำได้ คนที่หลบหนีคดี ต้องมารับโทษก่อน และยังเป็นที่ถกเถียงของนักกฎหมาย เพราะเป็นเรื่องที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ในกรณีที่ศาลได้สั่งจำคุก แต่จำเลยยังไม่ได้รับการลงโทษ แต่กลับจะมาขอฎีกาเพื่อให้ช่วย เพราะหนีคดีนั้น จึงไม่น่าสามารถทำได้ 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ประชุมก็เห็นพ้องกันว่า น่าที่จะต้องติดตามเรืองนี้อย่างใกล้ชิดเรื่องหนึ่ง นอกเหนือ จากการเร่งรัดเรื่องการช่วยเหลือชาวบ้านที่ประสบอุทกภัย ที่การช่วยเหลือยังไม่ทั่วถึง โดยอาจจะมีการตั่งกระทู้ถามสดในเรืองน้ำท่วมก่อน และหากฝ่ายกฎหมายพร้อมในเรื่องข้อมูล ข้อกฎหมายต่างๆ ก็จะเคลื่อนไหวในเรื่องการถวายฎีกาเพื่อพ.ต.ท.ทักษิณ เพราะถือว่าเป็นเรื่องที่ท้าทายต่อความรู้สึกของสังคม โดยไม่สนใจใครเลย 

ขณะที่นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า เรื่องการโยกย้ายผบ.ตร.เป็นการเคลียร์ทาง โดยทำทุกวิถีทางเพื่อให้ พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ ดามาพงศ์ รองผบ.ตร ได้ขึ้นมาเป็น ผบ.ตร และในเรื่องการถวายฎีกา ขอให้นายถาวร เป็นผู้ไปติดตามเรื่องดังกล่าว



เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์