มาร์คพร้อมเปิดโต๊ะเจรจากับเสื้อเหลือง-เสื้อแดงหาทางออกแม้วไม่เกี่ยว

นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวในรายการเชื่อมั่นประเทศไทยกับนายกฯอภิสิทธิ์

เมื่อวันที่ 4 เมษายน ในการตอบข้อซักถามจากพิธีกรเรื่องการเปิดเจรจารอบ 3 ว่า การเจรจานะมีหรือไม่นั้นเสียงสะท้อนจากทุกฝ่ายต้องฟังอยู่แล้ว รัฐบาลไม่ได้ติดยึดว่าต้องอยู่ครบวาระ การเจรจาต้องเปิดกว้างไม่เฉพาะผู้ชุมนุม ต้องมีเกี่ยวข้องกับผู้ชุมนุมทั้งเสื้อเหลืองเสื้อแดง 


เมื่อถามว่าการเจรจาออกทีวีจะไม่เห็นแล้ว


นายกฯตอบว่า แกนนำไม่ได้แสดงเจตนาจะเจรจาแต่ขีดเส้นตายว่าต้องยุบสภา 15 วัน ซึ่งไม่เป็นประโยชน์แต่ก็รับฟังแนวทางของผู้ชุมนุม  การชุมนุมที่นอกเหนือรัฐธรรมนูญ ประชาชนส่วนหนึ่งคงรับไม่ได้ที่จะยุบสภาจากข้อเรียกร้องของกลุ่มนี้  วันนี้ไม่ใช่เรื่องที่จะเอาชนะกัน และไม่ยอมให้มีการละเมิดกฎหมายอย่างกว้างขวาง แต่จะพยายามไม่ให้เกิดการปะทะกัน มีคนที่มีความรู้สึกต่อการชุมนุมว่าถ้ารัฐบาลไม่ทำประชาชนจะทำเอง รัฐบาลจะทำอย่างต่อเนื่องเพื่อให้สถานการณ์คลี่คลายและให้คนกรุงเทพฯ อดทนอดกลั้น


เมื่อถามว่าหากภาวะเข้าสู่ภาวะปกติก็ใช่ว่านายกฯจะหยุดทำงาน ซึ่งมีนักวิชาการออกมาเสนอว่าอาจจะไม่ต้องถึง 9 เดือน

"ถ้าจะมีการเลือกตั้งแล้วแก้ปัญหาที่เกิดความสับสนมาตลอดไม่ได้เราจะแก้ปัญหาอย่างไร หากมีการเลือกตั้งแล้วเกิดการทุจริตมีการยุบพรรคขึ้นมาก็ไม่ยอมกันอีก จะคิดถึงการเมืองล้วนๆไม่ได้ ก็ต้องมองเรื่องเศรษฐกิจ ต้องมามองกันว่าอะไรที่จะทำให้ประเทศสงบ จะมายึดเอาความคิดตัวเองเป็นหลักไม่ได้" นายกรัฐมนตรีกล่าว


เมื่อถามว่าถ้าทำอย่างนั้นอาจจะ 9 เดือน

"ใช่ครับ อาจจะนานกว่านั้นก็ได้ เรื่องประชามติไม่ใช่เรื่องที่รัฐบาลซื้อเวลา ที่ผมต้องพูดเรื่องงบประมาณ เพราะว่าเงินงบประมาณหายไป 2 แสนล้าน ในช่วงที่ผมเข้ามา  ทำไมต้องประชามติเพราะมีคนอีกจำนวนมากที่ไม่ต้องการให้แก้ไขรัฐธรรมนูญ ที่เสนอเรื่องประชามติเพราะว่าทุกฝ่ายไม่สามารถปฏิเสธประชามติประชาชนได้ เป็นความจำเป็นที่ต้องหาข้อยุติ ตอนนั้นผมพยายามเจรจากับทุกฝ่ายเรื่องการแก้ไขรธน.เป็นเรื่องละเอียดอ่อนต้องทำประชามติ แต่ฝ่ายค้านเสื้อแดงไม่ยอมรับในตอนนั้น ถ้ายอมรับกันตั้งแต่แรกคงเสร็จไปแล้ว " นายกรัฐมนตรีกล่าว


พิธีกรถามว่าแต่เราย้อนอดีตไม่ได้

"ก็ต้องเรียนรู้จากอดีต แต่เราจะมาเรียกร้องกันทำไม รัฐบาลเปิดให้ทุกภาคส่วนทำงานร่วมกัน"  


เมื่อถามว่าการเปิดโต๊ะให้ทุกภาคส่วนเข้ามาพูดคุย พ.ต.ท.ทักษิณ(พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตรอดัตนายกรัฐมนตรี) เกี่ยวไหม

"เราต้องพูดถึงส่วนรวมไม่ใช่ผลประโยชน์ส่วนตัวหรือส่วนหนึ่งส่วนใดต้องเป็นเรื่องของความขุ่นข้องหมองใจ เรื่อง 2 มาตรฐาน แล้วมีความเห็นตรงกันในการเดินหน้าไป เช่นเรื่องประชาธิปไตย เราต้องเอาประเด็นต่างๆมาเป็นตัวตั้ง

เมื่อถามย้ำว่า พ.ต.ท.ทักษิณจะไม่อยู่วงนี้

นายกรัฐมตรีกล่าวว่า "พ.ต.ท.ทักษิณแสดงความคิดเห็นได้ ซึ่งจะเห็นได้จากการที่น้องของพ.ต.ท.ทักษิณ ออกมาพูดเรื่องคดีความการยึดทรัพย์"


ถามว่าเมษายนปีที่แล้วกับเมษยนปีนี้ ปีไหนหนักใจ

"ผมไม่อยากเห็นภาพแบบปีที่แล้วการล้อมกรอบคน การเผา ความตรึงเครียด รถแก๊ส อยากเห็นว่ารัฐบาลได้ตอบสนองผู้ชุมนุมระดับหนึ่งแล้วเขากลับไปตั้งหลัก อยากให้เมษายนี้จบลงอย่างนั้นและทุกคนได้กลับไปเล่นน้ำสงกรานต์" นายอภิสิทธิ์ กล่าว


เครดิต :
เครดิต :เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์มติชน


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์