“มาร์ค”ฝันนายกฯขอคุมพณ.-มท.

วอนประชาชนผู้ใช้สิทธิ ถ้าเบื่อรัฐบาลผสม เลือกประชาธิปัตย์พรรคเดียว

วันนี้ (19พ.ค.)   เมื่อเวลา 18.00 น.  ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ให้สัมภาษณ์ในรายการ“เจาะประเด็น” ออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์สีกองทัพบก ช่อง 7  โดยผู้ดำเนินรายการ ถามว่าถ้าเปรียบเทียบการเลือกตั้งกับการแข่งขันฟุตบอล คิดว่ามีโอกาสที่จะยิงประตูได้มากน้อยแค่ไหน  นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า คงเปรียบเทียบการเลือกตั้งกับการแข่งขันฟุตบอลไม่ได้ เพราะเป็นคนละอย่างกัน  เมื่อถามว่ากำชับให้ลูกพรรคระวังในการหาเสียง เพราะมีคู่แข่งที่เป็นสตรีหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า กำชับให้ลูกพรรคระมัดระวังไม่ให้ทำผิดกฎหมาย พวกตนไม่มีการนำคนไปทุบรถ ทั้งนี้ ตนอยากเชิญให้ทุกพรรคมาแข่งขันบนความสร้างสรรค์เพื่อประโยชน์ของประชาชน โดยงานเร่งด่วนตอนนี้คือปัญหาปากท้องและปัญหายาเสพติด 
    

สำหรับข้อถามที่ว่าคิดอย่างไรต่อข้อเสนของผู้ใหญ่ในบ้านเมืองที่อยากให้สลายขั้วการเมือง โดยให้พรรคประชาธิปัตย์จับขั้วกับพรรคเพื่อไทย
 
นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ถ้าเราทำให้การเลือกตั้งเป็นประเด็นของประชาชนอย่างแท้จริง การเมืองก็เข้ารูปเข้ารอยของมัน แต่ถ้าข้ามขั้นตอนก็อาจนำไปสู่ความขัดแย้งได้ ส่วนการเสนอให้นิรโษกรรม ตนคิดว่าจะยิ่งทำให้เกิดความเสียหายต่อบ้านเมือง มีแต่ความวุ่นวาย ซึ่งถือว่าเป็นสิ่งที่น่าเสียดายโอกาสสำหรับบ้านเมือง สิ่งดีที่สุดคือการมุ่งแก้ปัญหาของประชาชนและประเทศ ส่วนปัญหาของนักการเมืองให้คนกลางมาดูแล จึงจะเหมาะสมกว่า 
               

ต่อข้อถามว่าจะให้เวลาแก่พรรคที่ชนะการเลือกตั้งมาเป็นอันดับ 1 จัดตั้งรัฐบาลนานแค่ไหน

นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า การเชิญแต่ละพรรคมาตั้งร่วมรัฐบาลไม่ได้มีการขีดเส้นไว้ คราวที่แล้วก็เปิดโอกาสให้พรรคอันดับ 1 ในการจัดตั้งรัฐบาล นานพอสมควร แต่เมื่อเขาจัดตั้งไม่ได้ ก็ให้พรรคอันดับ 2 จัดตั้ง ส่วนเรื่องของระยะเวลานั้น ตอนนี้ถือว่าเร็วเกินไปที่จะพูดถึงการจับขั้ว ต้องดูการเลือกตั้งก่อน  เมื่อถามว่าถ้าพรรคประชาธิปัตย์ได้จัดตั้งรัฐบาล จะมีพรรคร่วมรัฐบาลหน้าเดิมๆเข้ามาหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า เรามีจุดหลักคือการยอมรับแนวนโยบายของเราที่ทำเพื่อแก้ปัญหาของประชาชน ถ้าพรรคการเมืองใดมีจุดยืนสอดคล้องกับเรา เราก็ยินดีที่จะเชิญเข้ามาร่วมรัฐบาล ถ้าประชาชนไม่อยากเห็นรัฐบาลผสม ก็ต้องเลือกพรรคการเมืองใดพรรคการเมืองหนึ่งให้ได้คะแนนมากที่สุด  เมื่อถามต่อว่าพรรคประชาธิปัตย์อยากดูแลกระทรวงหลักๆกระทรวงใดหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า เราอยากดูแลกระทรวงหลักๆบางกระทรวงที่เราไม่เคยดูแล เช่น กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงมหาดไทย ซึ่งคิดว่าเป็นเป้าหมายสำคัญที่เราต้องการทำงานเพิ่มเติม เช่น การกระจายอำนาจ การแก้ปัญหาเศรษฐกิจ ซึ่งได้ถ้าเราได้กำกับ 2 กระทรวงนี้ ก็คิดว่าจะทำงานได้คล่องตัวมากขึ้น
               

สำหรับพื้นที่ภาคเหนือและอีสาน จะมีนโยบายเจาะจงหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า  มีนโยบายประกันรายได้เกษตรกร ซึ่งทำให้ผู้ปลูกข้าว มันสำปะหลัง และข้าวโพด ได้รับประโยชน์อย่างแน่นอน

  ส่วนการเตรียมรับมือหาเสียงครั้งนี้ นั้น  ไม่มีการเตรียมอะไร  แต่หวังว่าจะเป็นการแข่งขันอย่างสร้างสรรค์  แม้ว่าจะมีการก่อความรุนแรงอยู่บ้าง แต่ขอให้แสดงสิทธิ์ภายใต้รัฐธรรมนูญ    ทั้งนี้กรณีข้อถามว่าวางอนาคตทางการเมืองไว้อย่างไรนั้น   ถ้าผลออกมาระบุว่าไม่ได้รับเลือกให้เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ในส่วนของระบบของเรา ไม่ค่อยมีปัญหาอะไร พรรคประชาธิปัตย์มีการประชุมใหญ่ และเป็นมติของสมาชิกพรรคทั่วประเทศ ทั้งนี้ ตนเคยพูดไว้ว่าภายใต้การนำของตน จะพยายามทำให้ได้คะแนน 14-15 ล้านเสียง ซึ่งการเลือกตั้งครั้งที่แล้ว เราได้คะแนนประมาณ 12 ล้านเสียง จึงต้องฟังเสียงสมาชิกว่าจะเห็นเป็นอย่างไร  โดยตนมีคำตอบในใจอยู่แล้ว แต่เป็นเรื่องของอนาคตที่ยืนยันว่าทุกก้าวย่างเป็นสิ่งที่อ้างอิงได้  เมื่อถามถึงการที่นายอภิสิทธิ์ เคยระบุว่าหลังเลิกเล่นการเมืองแล้วจะไปเป็นอาจารย์จริงหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ก็เป็นไปได้ แต่ตอนนี้ยังไม่ถึงจุดนั้น ขณะนี้การเลือกตั้งถือเป็นจุดสำคัญของนักการเมืองอาชีพ ทั้งนี้ ตนไม่สนใจว่าอนาคตของตนจะเป็นอย่างไร แต่สนใจการแก้ปัญหาให้ประเทศ และจะทำสิ่งที่ดีที่สุดให้กับประชาชน
               

ผู้สื่อข่าวถามว่ามีเมนูพิเศษอะไรเสริมพลังในการหาเสียงหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ถ้ามีเวลา มีอะไรก็กินได้ทั้งนั้น แค่ไข่เจียวหรือมาม่า ก็ดีแล้ว แต่แค่ครอบครัวได้มารวมพร้อมหน้ากัน ก็เพียงพอแล้ว


เครดิต :
เครดิต : เดลินิวส์ (อ่านความจริง อ่านเดลินิวส์)


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์