มาร์คบอกสุเทพทิ้ง ส.ส.คิดดีแล้ว ส.ส.อื่นไม่ต้องทำตาม ปชป.เล็งส่งน้องชายลงเลือกตั้งสุราษฎร์แทน


นายกฯบอก"สุเทพ"ยื่นหนังสือลาออกส.ส.คิดดีแล้ว อุ้มส.ส.อีก12ชีวิตไม่ต้องทำตาม ฉุนถูกถามให้"กษิต"เอาอย่าง เจ้าตัวลั่นขอทำงานต่อได้ในตำแหน่งรองนายกฯ ชี้ยังมีภาระอีกมากต้องทำ โวจริยธรรมเหนือฝ่ายค้านทุกเวลา ปชป.เล็งดันน้องชายลงสมัครส.ส.สุราษฎร์ "รอศาลรธน.วินิจฉัย

"อภิสิทธิ์"บอก"สุเทพ"ออกส.ส.คิดดีแล้ว ย้ำส.ส.อื่นไม่ต้องทำตาม 
 
เมื่อเวลา 17.20 น. วันที่ 17 ก.ค. นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงการลาออกจากตำแหน่งส.ส.สุราษฎร์ธานี ของนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ด้านความมั่นคงและเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ ว่า เป็นเรื่องเฉพาะตัวของนายสุเทพ ตนเพิ่งเห็นหนังสือที่นายสุเทพทำ ซึ่งอันที่จริงใจตนก็ไม่อยากให้นายสุเทพลาออก แต่เมื่อนายสุเทพตัดสินใจแล้วก็เป็นเอกสิทธิ์

เมื่อถามว่าที่ไม่อยากให้ลาออกเพราะอะไร นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า จริงๆ แล้วเป็นเรื่องที่จะต้องไปดูการวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญก่อน แต่นายสุเทพก็ให้เหตุผลชัดเจนว่าการไปต่อสู้คดี มันจะกระทบกับการทำหน้าที่ในฐานะรองนายกฯ เมื่อถามว่าการลาออกของนายสุเทพเป็นการใช้อารมณ์มากไปหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ไม่น่าจะใช่ เพราะนายสุเทพได้คิดอยู่นานแล้ว และก็เคยคุยกันไว้ คงไม่ใช่การตัดสินใจแบบชั่วครู่ชั่วยาม

เมื่อถามว่านายสุเทพได้ปรึกษาก่อนลาออกหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า นายสุเทพเคยปรารภไว้นานแล้ว แต่ก็ได้ท้วงติงไป แต่ไม่ทราบว่าทำไมถึงตัดสินใจเช่นนี้ เมื่อถามว่าจะยับยั้งใบลาออกหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ยับยั้งไม่ได้ เป็นนักการเมืองเมื่อแสดงเจตนาว่าจะลาออกแล้วก็ต้องทำตาม ส่วนจะส่งนายสุเทพลงเลือกตั้งที่จ.สุราษฎร์ธานีอีกครั้งหรือไม่ เป็นเรื่องของกรรมการบริหารพรรค ส่วนที่มีกระแสข่าวว่าพรรคจะส่งนายธานี เทือกสุบรรณ อดีตนายกอบจ.สุราษฎร์ธานีลงเลือกตั้งแทนนั้น ยังไม่ทราบ

เมื่อถามว่าส.ส.คนอื่นต้องลาออกตามด้วยหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ไม่เกี่ยวกัน เหตุผลไม่ได้เกี่ยวกันเพราะเป็นการตัดสินใจเฉพาะตัว และก็ไม่แนะนำให้ส.ส.คนอื่นลาออก เมื่อถามว่าการลาออกของนายสุเทพจะกระทบกับการคุมเสียงในสภาหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า นายสุเทพไม่ใช่วิปอยู่แล้ว คงไม่เป็นไร
 
เมื่อถามว่า หากนายไตรรงค์ สุวรรณคีรี และนางเฉลิมลักษณ์ เก็บทรัพย์ ส.ส.สัดส่วน กลุ่ม 8 ทั้ง 2 คนต้องหลุดจากตำแหน่ง แต่บัญชีรายชื่อ ส.ส.สัดส่วน กลุ่ม 8 ของพรรค กลับเหลือคนที่เลื่อนขึ้นมาได้เพียงคนเดียว จะทำให้เกิดปัญหาหรือไม่ นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ไม่น่าจะทำให้เกิดปัญหาเพราะถือว่า ส.ส.ในสภาก็จะหายไป 1 คน
 
เมื่อถามว่า พรรคเพื่อไทยประกาศว่าจะหากเลือกตั้งซ่อมจะได้ ส.ส.เพิ่มขึ้น นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า เป็นเรื่องธรรมดา แต่ตนมั่นใจว่าจะได้ ส.ส.เดิมกลับมา เมื่อถามว่า จะนำไปสู่การยุบสภาหรือไม่ นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ไม่คิดอย่างนั้น เมื่อถามว่า คิดว่าเรื่องนี้จะเป็นบทเรียนสำหรับนักการเมืองหรือไม่ นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า คงคิดว่าจากนี้ไปจะทำอะไรต้องปลอดภัยไว้ก่อน หากศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยออกมาแบบเดียวกับมติ กกต. การถือหุ้นคงเป็นเรื่องที่ค่อนข้างอันตราย เพราะบริษัทที่มีสัญญากับรัฐมีมากมายเต็มไปหมด
 
 
เมื่อถามว่าเป็นการแสดงสปิริตให้นายกษิต ภิรมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ผู้ต้องหาในคดีก่อการร้ายจากการยึดสนามบินหรือไม่ นายอภิสิทธิ์หันมามองคนถามด้วยสีหน้าไม่พอใจ พร้อมกล่าวว่า "คนนะเรื่องกันนะครับ"
 
"จุติ"ยันไม่ไขก๊อกตาม รอศาลรธน.ตัดสินก่อน


นายจุติ ไกรกฤษ์ ส.ส.พิษณุโลก  หนึ่งใน 13 ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ที่ถูกคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) โดยเสียงส่วนใหญ่มีมติว่า ขาดคุณสมบัติเนื่องจากถือหุ้นสัมปทานรัฐและธุรกิจสื่อ กล่าวยืนยันว่า ถึงแม้นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายความมั่นคง จะลาออกจากการเป็นส.ส.แล้ว แต่ตนไม่คิดลาออก เพราะกระบวนการทั้งหมดยังไม่สิ้นสุด ต้องรอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยก่อน ซึ่งคาดว่าคงอีกหลายเดือน และยังคงปฏิบัติหน้าที่ส.ส.ต่อ ทั้งนี้ หากมีการเลือกตั้งใหม่นั้นก็พร้อม เพราะที่ผ่านมาได้ลงพื้นที่พบปะประชาชนมาโดยตลอดอยู่แล้ว
 
"สุเทพ"ลาออกส.ส. แต่ขอนั่งรองนายกฯต่อ
 
เมื่อเวลา 15.17 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง ในฐานะเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ ให้สัมภาษณ์กรณีเป็นหนึ่งใน 13 ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ที่ถูกคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) โดยเสียงส่วนใหญ่มีมติว่า ขาดคุณสมบัติเนื่องจากถือหุ้นสัมปทานรัฐและธุรกิจสื่อ โดยหัวเราะอย่างสบายใจก่อนว่า "เรียบร้อยแล้ว ผมขออนุญาตเรียนให้ทราบว่า ผมได้ลาออกจากส.ส.สุราษฎร์ธานีเขต 1 เรียบร้อยแล้ว มีผลวันเดียวกันนี้ ส่วนจะมีการเลือตั้งซ่อมเมื่อไรนั้น เป็นเรื่องของกกต.ไม่ใช่เรื่องของผม”
 
นายสุเทพกล่าวว่า เหตุผลที่ได้ลาออกจากส.ส.นั้น ได้ทำหนังสือกราบเรียนต่อนายชัย ชิดชอบ ประธานสภาฯ ผ่านเป็นหนังสือในช่วงบ่ายวงันเดียวกัน โดยได้อธิบายข้อเท็จจริงทั้งหมดให้ประธานสภาฯทราบในฐานะเป็นประมุขฝ่ายนิติบัญญัติและถือเป็นผู้บังคับบัญชาของตน เมื่อตนถูกกล่าวหาและถูกกกต.มีมติว่าการที่ตนถือหุ้นบริษัท เป็นการขัดต่อกฎหมาย ตนจึงอธิบายเหตุผลในหนังสือลาออกว่า 1.หุ้นทั้งหมดตนซื้อมาตั้งแต่ปี 2538 ซื้อก่อนจะมีกฎหมายที่ห้ามส.ส.ถือครองหุ้นที่มาบังคับใช้ในปี 2550 และซื้อในตลาดหลักทรัพย์เหมือนกับคนที่ซื้อหุ้นทั้งหลาย เพราะเป็นธุรกิจที่สามารถทำได้โดยสุจริต และไม่ได้คิดจะไปเป็นเจ้าของหรือมีส่วนบริหารจัดการบริษัทเหล่านั้นด้วยประการใดๆ

"ตัวอย่างเช่น หุ้นที่ตนถือในบริษัททรูคอร์เปอร์เรชั่น มี 5,000 หุ้น แต่ทั้งบริษัทมีหุ้นทั้งหมด 4,500 ล้านหุ้น 5,000 หุ้นของผมเป็นเศษฝุ่นของทั้งบริษัท และตั้งแต่ซื้อหุ้นมาก็ไม่เคยไปประชุมผู้ถือหุ้น ไม่เคยไปแสดงความคิดเห็นอะไรเกี่ยวกับการบริหารทั้งสิ้น ผมซื้อหุ้นมาก็นึกว่าหุ้นจะมีราคาขึ้นแล้วไปขายในตอนที่มีกำไร แต่ตั้งแต่ซื้อมาราคาไม่ขึ้นสักที แต่ตัดใจไม่ได้เลยเก็บเอาไว้ กฎหมายเรื่องหุ้นมาหลังผมซื้อหุ้นแล้ว 12 ปี และตลอด 12 ปี ผมได้แสดงบัญชีต่อป.ป.ช. ทั้งเมื่อมาเป็นส.ส. กรรมการบริหารพรรค หรือเมื่อพ้นตำแหน่งส.ส. รวมแล้วผมได้แสดงบัญชีไว้ต่อป.ป.ช.ทั้งหมด 12 ครั้ง เป็นการแสดงความสุจริตใจ" นายสุเทพกล่าว

นายสุเทพกล่าวว่า ยังได้อ่านมาตรา 48 ของรัฐธรรมนูญว่า การถือหุ้นที่เข้าลักษณะผิดกฎหมายต้องเป็นแบบที่ตนสามารถเข้าไปมีส่วนได้เสียในลักษณะเป็นเจ้าของกิจการ ซึ่งตนไม่ได้เป็น จึงไม่ดิ้นรนที่จะขาย แต่เมื่อมีคนร้องเรียน ก็ได้แก้ความรำคาญขายไปเมื่อปี 2551

"แต่เมื่อกกต.ก็ยังวินิจฉัยให้ผมขาดคุณสมบัติ ซึ่งขั้นตอนต่อไปต้องส่งเรื่องให้ประธานสภาฯ แล้วนำสู่ศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่งคนที่โดนเรื่องแบบผมก็ต้องไปสู้คดีที่ศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่งการต่อสู้คดีก็ต้องเสียเวลา ต้องรวบรวมพยานหลักฐาน เอกสาร พยาบบุคคลไปสู้คดีที่ศาล ผมเองมีภารหน้าที่เป็นรองนายกฯฝ่ายความมั่นคง ซึ่งทุกวันทำงานทำงานก็ไม่ได้ลืมหูลืมตาอยู่แล้ว ผมไม่อยากไปเสียสมาธิในการเตรียมคดีและไปเสียเวลาในเรื่องนี้ ผมอยากให้เรื่องมันจบเฉพาะกรณีผม จึงตัดสินใจลาออกจากส.ส. แล้วผมขอเรียนให้กกต.ทราบด้วยว่า ผมเป็นส.ส.ติดต่อกันมา 31 ปี ไม่เคยลาออกจากตำแหน่งเลย แต่เมื่อวินิจฉัยผมอย่างนี้ ผมก็ลาออก" นายสุเทพกล่าว

เมื่อถามว่า คิดว่าตัดสินใจลาออกแล้วจะหมดภารหรือไม่ นายสุเทพกล่าวว่า ลาออกแล้วต่อไปก็ไม่ต้องไปขึ้นศาลรัฐธรรมนูญอีกแล้ว จบแค่นั้นสำหรับตน ส่วนส.ส.พรรคประชาธิปัตย์คนอื่นที่โดน คงมีเวลา เพราะขณะนี้อยู่ในช่วงปิดสมัยประชุม ยังสามารถเตรียมคดี หาพยานหลักฐาน อย่างไรก็ตามตนยังมีความคิดเห็นของตน และพร้อมสนับสนุนให้ส.ส.เหล่านั้นได้ต่อสู้คดีในศาลรัฐธรรมนูญ
 
เมื่อถามว่า จะยังลงลงเลือกตั้งซ่อมเขต 1 จังหวัดสุราษฎร์ธานีอีกครั้งหรือไม่ นายสุเทพกล่าวว่า "ยังไม่แน่ ยังไม่รู้ว่าเขาจะให้เลือกเมื่อไร เอาไว้ก่อน ค่อยดูก่อน พรุ่งนี้ค่อยคิด"
 
เมื่อถามว่า หากโดนฝ่ายค้านทวงถามเรื่องจริยธรรมอีกจะทำอย่างไร นายสุเทพหัวเราะก่อนกล่าวว่า "จริยธรรมของผมก็ดีกว่าของฝ่ายค้านทุกวลา ผมไม่ได้ตัดสินใจลาออกเรื่องจริยธรรมนะ ผมลาออกเพราะงานผมที่เป็นรองนายกฯ ก็ปวดหัวมากอยู่แล้ว ความดันขึ้นทุกวันอยู่แล้วทำงานเดี๋ยวนี้ ฉะนั้นถ้าผมต้องมาทำงานรองนายกฯแล้วต้องเตรียมงานสู้คดีอีก อย่างนี้ผมรับไม่ไหว"

เมื่อถามว่า ส.ส.ประชาธิปัตย์ที่เหลืออีก 12 คน ใครจะลาออกตามอีกบ้าง นายสุเทพกล่าวว่า  ตนไม่ได้ปรึกษาใครเพราะคิดว่าเป็นเรื่องส่วนบุคคลของตน แต่ละคนมีปัฐหาไม่เหมือนกัน ตนอยากให้เพื่อนส.ส.คนอื่นอยู่ต่อสู้ในศาลรัฐธรรมนูญ เพราะอีก 12 คน ไม่ได้เป็นรัฐมนตรี ไม่ต้องมารับภารในงานบริหาร คงมีเวลาเตรียมตัวต่อสู้คดีได้
 
เมื่อถามว่า นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี เห็นด้วยกับการลาออกหรือไม่ นายสุเทพกล่าวว่า ไม่ได้เรียนใครเลย ตัดสินใจเอง กรรมการบริหารพรรคคนอื่นก็ไม่ได้ถาม และไม่ต้องขออนุญาตกรรมการบริหารเวลาลาออก ถ้าจะขอ ก็ตอนที่ลงสมัคร
 
เมื่อถามว่า หากในอนาคตศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตรงกันข้ามกับคำวินิจฉัยกกต. จะทำอย่างไร นายสุเทพกล่าวว่า "กกต.ก็ลาออก ถึงรอบกกต.บ้างแล้วตอนนั้น" เมื่อถามว่า ถึงตอนนั้นจะร้องกกต.คืนหรือไม่ นายสุเทพกล่าวว่า ตนไม่ร้องหรอก กกต.ก็ละอายตัวเอง ไม่เป็นไร
 
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายสุเทพให้สัมภาษณ์ด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม พร้อมโชว์เอกสารที่ยื่นลาออกจากส.ส.สุราษฎร์ธานีต่อนายสุเทพให้ช่างภาพถ่ายภาพด้วย

 
ทั้งนี้คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) มีมติให้ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ 13 คน ทั้งหมดจาก 28 คน ขาดคุณสมบัติในการเป็น ส.ส. เนื่องจากการถือครองหุ้นสื่อและหุ้นบริษัทที่ได้รับสัมปทานจากรัฐ โดยหนึ่งใน 13 คนที่ขาดคุณสมบัติ มีนายสุเทพ เทือกสุบรรณ ส.ส.สัดส่วน พรรคประชาธิปัตย์และรองนายกรัฐมนตรี ด้านความมั่นคง
 
ปชป.ดัน"น้องสุเทพ"ลงส.ส.สุราษฎร์ ป้อง12ส.ส.ไม่ต้องออกตาม
 
นายชุมพล กาญจนะ ส.ส.สุราษฎร์ธานี ในฐานะประธานส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงการที่นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกฯ ประกาศลาออกจากการเป็นส.ส.สุราษฎร์ธานีว่า เป็นเรื่องของนายสุเทพ ไม่เกี่ยวกับส.ส.อีก 12 คน ที่ถูกกกต.ชี้ว่าขาดคุณสมบัติในการเป็นส.ส. ที่จะต้องลาออกตาม เพราะทั้ง 12 คน ไม่มีตำแหน่งอะไรในรัฐบาล ดังนั้นก็คงจะต้องรอว่าเมื่อกกต.ส่งเรื่องไปที่ประธานสภาผู้แทนราษฎรแล้ว จากนั้นต้องส่งไปศาลรัฐธรรมนูญ หากศาลรัฐธรรมนูญรับก็ต้องมาพิจารณากันอีกว่าจะปฏิบัติอย่างไร ทั้งนี้ในวันจันทร์ที่ 20 ก.ค.นี้ คงจะได้หารือนอกรอบกับ 12 ส.ส.ที่มีปัญหา แต่ไม่ได้นัดหมายอย่างเป็นทางการ โดยจะพูดคุยกันว่าจะดำเนินการอย่างไร  

นายชุมพล กล่าวอีกว่า ทั้งนี้ในส่วนของผู้ที่จะลงสมัครรับเลือกตั้งแทนนายสุเทพนั้น ตามขั้นตอนของพรรคทางคณะกรรมการคัดเลือกผู้สมัครของพรรคคงจะมอบหมายให้ประธานสาขา และกรรมการสาขา เป็นผู้พิจารณาดูว่าใครเหมาะสม พร้อมให้ส.ส.ในพื้นที่ร่วมพิจารณาถึงความเหมาะสมด้วย ซึ่งในจ.สุราษฎร์ธานีมีคนเหมาะสมหลายคน โดยความเป็นไปได้น่าจะเป็นนายธานี เทือกสุบรรณ หรือกำนันเล็ก น้องชายนายสุเทพ ที่ไม่ได้ลงสมัครรับเลือกตั้งในสนามนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.)สุราษฎร์ธานีอีกครั้ง หลังจากที่ถูกศาลแจกใบเหลืองมาแล้ว ซึ่งจะไม่มีปัญหาทางกฎหมาย เพราะศาลไม่ได้วินิจฉัยว่านายธานี กระทำผิดกฎหมายเลือกตั้ง


เครดิต :
เครดิต :เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์มติชน


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์