มาร์คทิ้งทวน ครม.นัดสุดท้ายกว่า 8 หมื่นล้านบาท

การประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันที่ 3 พฤษภาคม
 
ถือเป็นการประชุม ครม.นัดสุดท้ายของรัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ก่อนประกาศยุบสภาภายในสัปดาห์นี้ ซึ่งมีกระแสวิจารณ์การเสนอวาระเข้าพิจารณากว่า 162 วาระ เป็นการประชุมที่มีวาระมากผิดปกติ จนหลายฝ่ายตั้งข้อสังเกต การประชุมครั้งนี้มีขึ้น 2 ช่วง คือ ช่วงเช้าที่อาคารรัฐสภา 3 และช่วงบ่ายที่ทำเนียบรัฐบาล


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ผลการประชุมในช่วงแรกที่รัฐสภานั้น มีมติอนุมัติงบประมาณทั้งสิ้น รวมวงเงินกว่า 80,024 ล้านบาท โดยนายวัชระ กรรณิการ์ และนายศุภชัย ใจสมุทร รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ร่วมแถลงผลการประชุมที่อาคารรัฐสภา


กระทรวงที่อยู่ในการดูแลของพรรคประชาธิปัตย์ ได้รับงบประมาณไปทั้งสิ้นกว่า 28,701 ล้านบาท อาทิ กระทรวงการคลัง
 
โครงการธนาคารอาคารสงเคราะห์กู้ซื้อบ้านหลังแรกราคาไม่เกิน 3 ล้านบาท ดอกเบี้ย 0% วงเงิน 2.5 หมื่นล้านบาท ช่วยเหลือผู้ประกอบที่ได้รับการผลกระทบจากการชุมนุมวงเงิน 2,000 ล้านบาท และขยายวงเงินสินเชื่อจากเดิมไม่เกิน 5 ล้านบาท เป็นไม่เกิน 15 ล้านบาท ช่วยเหลือผู้ประสบภัยธรรมชาติปี 2553 และ 2554 (เพิ่มเติม) ประกอบด้วย การให้ความช่วยเหลือผู้ประกอบการและผู้เพาะเลี้ยงสัตว์ วงเงิน 2,000 ล้านบาท ช่วยเหลือด้านการเงินผู้ประกอบการธุรกิจเอสเอ็มอี วงเงิน 2,000 ล้านบาท และขยายวงเงินโครงการสินเชื่อเพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบอาชีพอิสระรายย่อย 887.56 ล้านบาท


กระทรวงวัฒนธรรมได้งบประมาณบูรณะซ่อมแซมโบราณสถาน 17 แห่ง
 
ในพื้นที่ 7 จังหวัด วงเงิน 72,350,000 บาท กระทรวงเทคโนโลยี สารสนเทศ และการสื่อสาร (ไอซีที) อนุมัติภารกิจความมั่นคงด้านสารสนเทศเกี่ยวกับธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์เป็นเงิน 258 ล้านบาท กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี โครงการก่อสร้างพิพิธภัณฑ์พระราม 9 เฉลิมพระเกียรติ วงเงิน 1,800 ล้านบาท กระทรวงสาธารณสุข โครงการพัฒนาคุณภาพชีวีตประชาชนในจังหวัดชายแดนภาคใต้ วงเงิน 180 ล้านบาท และส่งเสริมการตั้งครรภ์อย่างมีคุณภาพ 415 ล้านบาท กระทรวงศึกษาธิการปรับอัตราค่าจ้างข้าราชการและพนักงานมหาวิทยาลัยของรัฐ วงเงิน 397 ล้านบาท และโครงการ กทม.เมืองปลอดภัยห่างไกลอาชญากรรม จำนวน 123 ล้านบาท และโครงการปรับปรุงภูมิทัศน์จัดระเบียบหายเร่แผงลอยและมอเตอร์ไซค์รับจ้าง รวมเป็นเงิน 197 ล้านบาท


ขณะกระทรวงที่อยู่ในความดูแลของพรรคภูมิใจไทย ได้รับงบประมาณกว่า 46,816 ล้านบาท ได้แก่ กระทรวงคมนาคม โครงการบริหารจัดการระบบตั๋วร่วมโครงข่ายระบบรถไฟฟ้าขนส่งมวลชน รวมวงเงิน 752.15 ล้านบาท โครงการจัดหาหัวรถจักรและล้อเลื่อนวงเงิน 14,000 ล้านบาท


กระทรวงมหาดไทย การฟื้นฟูและซ่อมแซมที่ทำการเทศบาลนครอุดรธานี วงเงิน 212.65 ล้านบาท โครงการเช่ารถยนต์ของกรมพัฒนาชุมชน รวม 152 ล้านบาท โครงการพัฒนาระบบสายส่งและสถานีไฟฟ้าระยะที่ 9 ของการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) วงเงิน 31,170 ล้านบาท


สำหรับกระทรวงที่อยู่ในการดูแลของพรรคชาติไทยพัฒนา ได้รับจัดสรรงบฯกว่า 2,023 ล้านบาท ได้แก่ กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา โครงการก่อสร้างศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติ จังหวัดเชียงใหม่ วงเงิน 382 ล้านบาท และโครงการแก้ปัญหาเกษตรกรยากจนไม่มีที่ดินทำกิน เป็นเงิน 1,641 ล้านบาท


ด้านกระทรวงที่อยู่ในความรับผิดชอบของพรรคชาติพัฒนาเพื่อแผ่นดิน ได้งบกว่า 2,470 ล้านบาท เป็นโครงการก่อสร้างสายส่งเพื่อซื้อไฟฟ้าจากสหภาพม่าของกระทรวงพลังงาน


เครดิต :
เครดิต :เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์มติชน


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์