มาร์คดักคอยิ่งลักษณ์ดึงแกนนำแดงเข้าครม.

มาร์คดักคอยิ่งลักษณ์ดึงแกนนำแดงเข้าครม.

วันนี้ 15 (มิ.ย.) นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ให้สัมภาษณ์ในรายการฟ้าวันใหม่ ทาง Blue Sky Channel

ถึงการที่ผู้ตรวจการแผ่นดินแจ้งต่อนายกฯ และเตรียมทำหนังสือถึงรัฐสภา ต่อการแต่งตั้งรัฐมนตรีที่ขัดต่อจริยธรรมว่า ในกรณีคุณสมบัติของนางนลินี ทวีสิน รมต.สำนักนายกฯ แม้จะไม่ใช่ประเด็นที่เป็นปัญหา แต่ทางผู้ตรวจการแผ่นดินมีข้อความที่ขมวดท้ายไว้ด้วย ถ้าเกิดความเสียหายอะไร ก็ต้องรับผิดชอบ เพราะทราบข้อเท็จจริงอยู่ในขณะนี้ว่านางนลินีมีปัญหากับมิตรประเทศ ต่างประเทศ

ส่วนกรณีของนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ รมช.เกษตรฯ ทางผู้ตรวจการฯ ได้เอาข้อเท็จจริงและข้อกฎหมายมาย้ำอีกครั้งหนึ่ง

เพราะมีการพูดถึงการชุมนุมปี 52 – 53 ซึ่งขณะนั้นศาลได้ชี้แล้วว่าเป็นการชุมนุมที่ไม่ชอบ ซึ่งนายณัฐวุฒิ ก็มีบทบาทเข้าไปเกี่ยวข้องอะไรอย่างไร วันนี้ถือเป็นหน้าที่ของนายกรัฐมนตรีที่จะต้องมีคำตอบกับสังคมว่าเมื่อรับความเห็นจากทางผู้ตรวจการแล้วจะคิดอย่างไร แน่นอนก็ไม่มีใครไปบังคับการใช้ดุลยพินิจของนายกฯได้ในการที่จะมีการปรับ จะเปลี่ยนหรือไม่อย่างไร อย่างไรก็ตามสิ่งที่จะเกิดขึ้นต่อไปก็คงจะมีคนมาโวยวาย ว่า ผู้ตรวจการฯอย่ามายุ่ง คงไม่ต่างอะไรจากแนวทางที่เขาได้ดำเนินการกับศาล แล้วก็องค์กรต่าง ๆ ที่เข้ามาตรวจสอบ


“แต่ผมเป็นห่วง กรณีของคุณณัฐวุฒิ เรื่องการบริหารจัดการเรื่องยาง ซึ่ง 1. ก็คือไม่ได้เป็นไปตามเป้าหมายที่เคยโฆษณาประกาศไว้ 2. มีความพยายามแก้ไขปัญหาโดยวิธีที่ไม่น่าจะเหมาะสม และน่าจะมีผลประโยชน์เข้าไปเกี่ยวข้อง ซึ่งขณะนี้ก็จะมีการติดตามเรื่องนี้กันพอสมควร” นายอภิสิทธิ์ กล่าวและว่า ขณะนี้จะเห็นว่าการแก้ปัญหาพืชผลของรัฐบาลนั้นมี 2 กลุ่ม กลุ่มหนึ่งรัฐบาลใช้วิธีการจำนำ ซึ่งมีปัญหามาก เช่นไม่ค่อยมีความพร้อม เกษตรกรจริง ๆ ไม่ได้ประโยชน์ แต่ว่ามีผลประโยชน์ที่เกิดขึ้น จากโครงการ ส่วนอีกกลุ่มหนึ่ง ทั้งปาล์ม มะพร้าว ยาง จะมีรูปแบบของการแทรกแซงซึ่งดูจะไม่ค่อยเป็นไปตามแนวทางปกติที่ควรจะเป็น ซึ่งจะมาเกี่ยวข้องกับการนำเข้า และมีผลประโยชน์เกิดขึ้น


เมื่อถามว่าหากนายกฯ ไม่ฟังความเห็นของผู้ตรวจการ ยังคงให้นายณัฐวุฒิ ดำรงตำแหน่งต่อไปและหากมีการพิจารณานำ นายจตุพร พรหมพันธุ์ แกนนำคนเสื้อแดง มาเป็นรัฐมนตรี ด้วยจะเป็นอย่างไร นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ก็จะชัดเจนเลยว่า สรุปแล้วคือนายกรัฐมนตรีก็คือเพิกเฉยต่อประเด็นในเรื่องของจริยธรรม
 

ต่อข้อถามว่าในกรณีดังกล่าวจะถูกมาอ้างว่า อำมาตย์ไม่ให้นายจตุพร เป็นรัฐมนตรีหรือไม่

นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า อยากให้ประชาชนเข้าใจว่า วาทกรรมที่ถูกยกขึ้นมานั้น มันเป็นเพียงการพยายามที่จะโยนความผิดที่ตัวเองทำไปให้คนอื่น เพราะเราจะเห็นว่าการตัดสินแต่ละเรื่อง แต่ละครั้ง ถ้าหากว่าตัวเองพอใจก็เอาประโยชน์ ใช้ประโยชน์ บางทีก็แสดงความขอบคุณยกย่องกัน แต่ว่าองค์กรเดียวกันพอตัดสินอีกทางนึง ก็จะมีการโยนบาปแล้วก็สร้างเรื่องว่ามันเป็นเรื่องของการที่จะมีคนที่มาซ่องสุม อยู่อำนาจนอกระบบอะไรต่าง ๆ เข้ามาล้มล้างรัฐบาล ซึ่งมันไม่ใช่ กรณีของผู้ตรวจการแผ่นดินไม่ใช่สร้างเรื่องขึ้นมาแต่หยิบยกเอามาจากข้อเท็จจริง ถ้าเขาจะจงใจแกล้ง เขาก็คงจะต้องเดินหน้าบอกว่า ต้องหาทางให้มีการถอดถอนพ้นจากตำแหน่ง ดังนั้นจึงต้องดูว่าเราจะว่ากันตามบรรทัดฐาน หลักการ หรือเราจะว่ากันตามความพึงพอใจ


เมื่อถามว่า เรื่องนี้คงจะจบที่ผู้ตรวจการฯแจ้งต่อประธานสภา และวุฒิสภา ทราบเท่านั้นหรือไม่
 
นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ดูแนวโน้มว่าคงจะเป็นอย่างนั้น เพราะว่าถ้าส่งมาอย่างนี้ สภาฯ ก็คงจะรับทราบกันไปแต่ว่าปัญหาก็คือจะมีการตอบสนอง คืออย่างน้อยถ้านายกรัฐมนตรีจะยืนยันดุลพินิจของตนเองก็น่าจะต้องหาเหตุผลมาเพื่อตอบกับสังคมว่า ที่ทางผู้ตรวจการเขาชี้มาอย่างนี้ ท่านคิดอย่างไร ที่จะทำหรือไม่ทำอะไร มีเหตุผลอะไร ตนคิดว่าเป็นความรับผิดชอบต่อสังคมที่นายกฯจะต้องตอบเรื่องนี้ อย่างไรก็ตามผู้ตรวจการฯเป็นคนชี้เรื่องนี้ เพราะถ้ามันผิดร้ายแรง ผู้ตรวจการฯก็จะดำเนินการเข้าสู่กระบวนการของการถอดถอน แต่ดูเหมือนว่าขณะนี้ผู้ตรวจการฯบอกว่ามันมีปัญหา ก็เลยส่งมาที่สภา ก็เป็นดุลยพินิจของผู้ที่เกี่ยวข้องต่อไป


เครดิต :
เครดิต : เดลินิวส์ (อ่านความจริง อ่านเดลินิวส์)


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์