29 พ.ค.55 นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ให้สัมภาษณ์รายการฟ้าวันใหม่ ทาง Blue Sky Channel
เกี่ยวกับการผลักดันเสนอร่าง พรบ.ปรองดองเข้าสู่การพิจารณาของสภา ว่า กฎหมายดังกล่าวจะเป็นกฎหมายที่เป็นปัญหาที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง และหากผลักดันจนเป็นผลสำเร็จก็เท่ากับเป็นการทำให้ระบบความยุติธรรมของบ้านเมืองถูกทำลายไป ซึ่งเรื่องนี้เป็นเป้าหมายของพรรคเพื่อไทยตั้งแต่มาเป็นรัฐบาลแล้ว ดังท่าทีของร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี โดยได้มีการคุยกับพล.อ.สนธิ บุญยรัตนกลิน หัวหน้าพรรคมาตุภูมิด้วย อย่างไรก็ตามร่างพรบ.ปรองดองฉบับพล.อ.สนธิ คงไม่เป็นที่พอใจของทางกลุ่มคนเสื้อแดงนัก เพราะว่ามีการนิรโทษกรรมในส่วนของเจ้าหน้าที่ ที่เข้าไปดูแลจัดการแก้ปัญหาการชุมนุม จึงทำให้แกนนนำเสื้อแดงทั้งนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ รมช.เกษตรและสหกรณ์ และนายจตุพร พรหมพันธ์ ต้องยื่นอีกฉบับมาประกบ อย่างไรตามประธานสภาฯจะต้องตรวจสอบรายชื่อส.ส.ที่ร่วมลงชื่อในร่างพรบ.ว่า ถูกต้องหรือไม่
นายอภิสิทธิ์ กล่าววว่า คนเสื้อแดงมีปฏิกิริยาแน่ เพราะต้องการเห็นกระบวนการยุติธรรมเดินหน้าแต่ปรากฏกว่ามีการเขียนกฏหมายเพื่อนิรโทษกรรม
โดยมีเป้าหมายที่แท้จริงคือ การนิรโทษกรรม พ.ต.ท.ทักษิณ ส่วนที่นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทยออกมาเสนอความเห็นว่าให้พรรคประชาธิปัตย์เสนอร่างกฎหมายมาประกบนั้น ตนเห็นว่า นายพร้อมพงศ์ คงไม่เข้าใจกระบวนการปรองดอง เพราะกรรมาธิการปรองดองจากทุกพรรค เคยมีข้อสรุปตรงกันว่า เรื่องนี้ควรมีจุดเริ่มจากการทำเสวนา ไม่ใช่เสนอกฎหมายเข้ามาในลักษณะนี้ ซึ่งขัดกับสิ่งที่เป็นข้อเสนอแนะของคณะกรรมาธิการจากทุกพรรค อยากให้รัฐบาลถอนร่างกฏหมายออกไปก่อนเพื่อเริ่มเข้าสู่กระบวนการสานเสวนา ซึ่งคาดว่าน่าไม่เกินสิ้นปีนี้ก็จะเสร็จ
ส่วนกรณีที่ 40 สว. ตั้งข้อสังเกตว่า การเสนอกฎหมายในทำนองเป็นการล้มล้างอำนาจตุลาการ ล้มล้างรัฐธรรมนูญ ล้มล้างการปกครองในระบอบประชาธิปไตย จะมีการเสนอศาลรัฐธรรมนูญตีความหรือไม่
นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ขั้นตอนการตีความนั้นจะทำหลังจากที่กฎหมายนี้ผ่านสภาแล้ว จึงจะมีการเสนอให้ตีความได้ แต่การเขียนกฎหมายลักษณะนี้ตนก็คิดว่ามีความสุ่มเสี่ยงต่อการขัดรัฐธรรมนูญเกือบทุกมาตรา
“เรื่องปรองดองเป็นเรื่องที่ทุกคนต้องทำ ไม่ใช่เกิดขึ้นด้วยคนๆเดียวแล้วไปยัดเยียดให้คนอื่นแล้วบอกว่า ปรองดอง แต่วันนี้รัฐบาลตั้งต้นคำว่าปรองดองหมายถึงการช่วยพ.ต.ท.ทักษินพ้นผิด นี่คือปัญหา ทำให้ทุกกลุ่มทุกสีที่สนับสนุนลุกขึ้นมาเคลื่อนไหว แม้วจะเป็นสิทธิที่จะทำได้แต่ต้องเคารพกฏติกา แต่สุดท้ายเมื่อมีการกระทำผิดก็จะออกกฏหมายมาล้างความผิดโดยอ้างว่าเป็นการต่อสู้ทางการเมือง ซึ่งการออกกฏหมายฉบับนี้กระทบต่อไม่เพียงแต่กระทบอำนาจฝ่ายตุลาการ แต่ยังทำลายกระบวนการยุติธรรม ที่ส่งผลถึงประชาชนด้วย
กระทู้ร้อนแรงที่สุดของวันนี้
กระทู้ล่าสุด
รูปเด่นน่าดูที่สุดของวันนี้
