มาร์คชัดจิ๋ว-สมชายหน.ขบวนการ หลังแถลงขอเข้าเฝ้าฯ

จากกรณีที่พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ ประธานพรรคเพื่อไทย (พท.) อดีตนายกรัฐมนตรีและนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ อดีตนายกฯ จะขอเข้าเฝ้าฯพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเพื่อทรงพระกรุณามหาธิคุณแก้ไขปัญหาบ้านเมืองนั้น


นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ ที่กรมทหารราบที่ 11 รักษาพระองค์( ร.11 รอ.) เมื่อวันที่ 20 เมษายน กรณีดังกล่าวว่า "ผมเชื่อว่าเสียงสะท้อนในสังคมจะออกมาเหมือนๆ กันคือ ไม่เหมาะสมในความพยายามที่จะดึงสถาบันลงมาเกี่ยวข้องกับทางการเมือง และหลายคนก็มีความคลางแคลงใจในเจตนาของผู้พูดอยู่แล้ว เท่ากับว่าขณะนี้ทั้งสองท่านได้แสดงตัวว่าเป็นหัวหน้าของขบวนการที่เกิดขึ้นทั้งหมด"


เมื่อถามว่าความรุนแรงที่เกิดขึ้นทั้งหมดถูกปูทางเพื่อการดึงเอาสถาบันลงมาครั้งนี้หรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า คงไม่สามารถตอบแบบนั้นได้

อย่างที่บอกไปแล้วว่าเป้าหมายของการเคลื่อนไหวนั้นมีหลายสิ่งบ่งบอกว่าไปไกลเกินกว่าการยุบสภา หรือเรื่องการเมืองเฉพาะหน้า หรือที่เกี่ยวข้องกับตนและรัฐบาล


"เราต้องจัดลำดับความสำคัญคือ 1.การยืนยันความเป็นนิติรัฐ การบังคับใช้กฎหมายให้สำเร็จเป็นอย่างแรก ตามมาด้วย 2.การดำเนินการที่เกี่ยวกับการนำความสงบ การมีมติกาที่ตกลงกันได้ การแก้ปัญหาพื้นฐานที่มาของความขัดแย้ง และ 3.ปัญหาการเมืองทั่วไป ซึ่งอาจจะมีคำตอบว่ายุบสภาหรือลาออกก็ได้ ในเวลาที่เหมาะสม แต่ต้องทำเรื่องแรกกับเรื่องที่สองให้เสร็จก่อน" นายอภิสิทธิ์ กล่าว


ที่พรรคประชาธิปัตย์ นายชวน หลีกภัย ประธานสภาที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์ และอดีตนายกฯ ให้สัมภาษณ์ว่า

"คิดว่าไม่เหมาะสม ในท่ามกลางความขัดแย้งอย่างนี้ ที่จะเอาความขัดแย้งไปให้พระองค์ท่าน ถ้าจะทำเรื่องที่เกี่ยวข้องกับสถาบันพระมหากษัตริย์ ควรจะเป็นเรื่องที่ปรามบุคคลในกลุ่มที่ทำอะไรก็ตาม ในลักษณะหมิ่นเหม่ต่อการหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ หรือจาบจ้วง แต่เรื่องที่จะนำไปเข้าเฝ้าฯ ทุกคนก็รู้เหมือนกันว่าไม่เหมาะสม และการพูดไปก่อนก็ไม่ค่อยเหมาะเท่าไหร่ เดี๋ยวจะถูกหาว่า ท่านไม่ทรงโปรดพระราชทานให้อย่างนั้นอย่างนี้ ใครคิดเรื่องนี้ต้องระวัง ต้องหารือกับทางสำนักพระราชวัง"


ที่พรรคชาติไทยพัฒนา (ชทพ.) นายบรรหาร ศิลปอาชา อดีตนายกฯ ให้สัมภาษณ์กรณีดังกล่าวว่า 

"ผมไม่เห็นด้วยกับท่านพล.อ.ชวลิต  ที่จะนำหนังสือทูลเกล้าฯ ถือว่าไม่บังควรอย่างยิ่งในเหตุการณ์ขณะนี้ พล.อ.ชวลิตออกข่าวว่าดูแล้วฟังไม่ค่อยจะดีเท่าไร หากไม่โปรดเกล้าให้เข้าเฝ้าฯแล้วอีกกี่วันเกิดเรื่องขึ้นใครจะรับผิดชอบ พี่จิ๋วคิดใหม่และคิดดีๆ หน่อย ผมว่าถอนเรื่องเถอะอย่าไปเข้าเฝ้าฯ มันเรื่องการเมืองให้พวกเราแก้การเมืองเองจะดีกว่า ท่านพล.อ.ชวลิตก็บอกพวกตัวเองถอยมาเถอะบอกง่ายนิดเดียวปัญหาก็จะจบ"


นายปลอดประสพ  สุรัสวดี รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย (พท.) แถลงว่า สาเหตุที่พล.อ.ชวลิต แถลงข่าวดังกล่าวนั้น

เนื่องจากญาติผู้เสียชีวิต จากเหตุการณ์เมื่อวันที่ 10 เมษายนมาที่พรรคพท. หลังเข้ารับพระราชทานความช่วยเหลือค่าใช้จ่ายงานศพ ที่สำนักพระราชวัง ซึ่งญาติผู้เสียชีวิตได้พบกับพล.อ.ชวลิต พร้อมระบุว่า เมื่อพระองค์ท่านทรงพระเมตตาพระราชทานความช่วยเหลือเงินค่ารักษาพยาบาล และค่าใช้จ่ายงานศพแล้ว ญาติผู้เสียชีวิตเลยบอกกับพล.อ.ชวลิตว่าอยากให้ความเข้าถึงพระเนตรพระกรรณอีกครั้งหนึ่ง ถ้าทรงมีพระเมตตาพระราชทานคำแนะนำหรือทำอย่างหนึ่งอย่างใดให้เหตุการณ์คลี่คลายก็จะเป็นบุญต่อญาติของเขาที่ตายไปแล้ว พล.อ.ชวลิต จึงนำเรื่องดังกล่าวมาแถลง


นายชวลิต วิชยสุทธิ์ ส.ส.สัดส่วน พรรค พท.ในฐานะคนใกล้ชิดพล.อ.ชวลิต กล่าวว่า

พล.อ.ชวลิต รู้ข้อมูลภายในว่าไม่มีหนทางใดที่จะคลี่คลายสถานการณ์ไม่ให้คนไทยฆ่ากันอง ท่านเห็นว่าใกล้เกิดกลียุค เลยต้องป้องกันไว้ก่อน ตนสอบถามพล.อ.ชวลิต ท่านก็หัวเราะ เพราะท่านก็รู้อยู่แล้วว่าจะต้องถูกโจมตีว่ากระทำการอันไม่บังควร แต่พล.อ.ชวลิตบอกว่า "พ่อของแผ่นดิน ท่านมีเมตตาต่อลูกๆเสมอดังนั้นใครจะว่าอย่างไรก็ชั่ง"


ด้านนายพายัพ ชินวัตร น้องชายพ.ต.ท.ทักษิณ ปฎิเสธที่จะแสดงความเห็นถึงกรณีดังกล่าวระบุเพียงว่า ถ้าทุกฝ่ายถอยคนละก้าวก็จะเป็นทางออก ถ้าทุกคนแพ้แต่บ้านเมืองสงบสุขก็เป็นสิ่งที่ดีกว่าที่จะมีคนชนะแต่บ้านเมืองไม่สงบ


ผู้สื่อข่าว"มติชน" สอบถามไปยังสำนักราชเลขาธิการเถึงกรณีดังกล่าว ทางเจ้าหน้าที่กองการในพระองค์ สำนักราชเลขาธิการ ชี้แจงถึงขั้นตอนว่า การขอพระบรมราชานุญาตเพื่อเข้าเฝ้าฯพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เป็นกระบวนการภายในที่ไม่สามารถเผยแพร่ออกสู่สาธาณชนได้ แต่ทั้งนี้สำหรับกระบวนการโดยทั่วไป ผู้ขอเข้าเฝ้าฯต้องทำหนังสือชี้แจงจุดประสงค์การขอเข้าเฝ้าฯต่อกองการในพระองค์ สำนักราชเลขาธิการ เพื่อพิจารณารับเรื่อง ซึ่งโดยส่วนใหญ่แล้วมักเป็นการขอเข้าเฝ้าฯ เพื่อถวายพระพรในวันเฉลิมพระชนมพรรษา


ด้านนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายความมั่นคง ให้สัมภาษณ์ ที่ ร.11 รอ.

กรณีพล.อ.ชวลิต และนายสมชาย จะขอเข้าเฝ้าฯ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ว่า ไปถามคนไทยทั้งประเทศ ก็จะตอบเป็นเสียงว่า พล.อ.ชวลิตได้ทำสิ่งที่ไม่บังควรเป็นอย่างยิ่ง ส่วนจะมีเจตนาแอบแฝงอย่างไร ต้องไปถามพล.อ.ชวลิตเอง


นายไตรรงค์ สุวรรณคีรี รองนายกรัฐมนตรี ด้านเศรษฐกิจ กล่าวว่า ไม่ค่อยเหมาะเท่าไร เพราะสร้างปัญหากันเองแล้วก็ไปกวนพระองค์ท่าน พล.อ.ชวลิต ก็มีส่วนในการสร้างปัญหาขึ้นมา เมื่อสร้างแล้วก็ต้องแก้เอง ไม่ควรไปรบกวนพระองค์ 


"ฝ่ายผู้เดินขบวนก็รุนแรง ฝ่ายรัฐบาลก็พยายามที่จะเจรจาเพื่อหาทางออก แต่ฝ่ายผู้เดินขบวนนั้นไม่รู้ว่าคิดอะไรถึงไม่ยอมเจรจา ในที่สุดรัฐบาลก็ต้องนำความสงบ ต้องรักษากฎหมาย ผมว่าแนวโน้มไม่ดีก็แล้วกัน" นายไตรรงค์กล่าว


พล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์ รองนายกฯ กล่าวว่า เป็นเรื่องไม่บังควร แต่พล.อ.ชวลิตเป็นอย่างไรใครก็รู้อยู่ พยายามอย่างนี้มาตลอด

ส่วนจะมีเจตนาแอบแฝงหรือไม่ ไม่ขอวิจารณ์ เรื่องนี้ไม่ควรดึงพระองค์ท่านลงมา เพราะปัญหาที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องทางการเมือง ดังนั้นนักการเมืองควรจะแก้ปัญหากันเอง ส่วนตัวเห็นว่าการแก้ปัญหาต้องใช้การเจรจา เพราะไม่ว่าเหตุ 14 ตุลาคม 2516 , 6 ตุลาคม 2519 หรือพฤษภาทมิฬ ต่างก็จบด้วยการเจรจา เห็นด้วยกับการใช้เวทีรัฐสภาในการแก้ปัญหา


พล.ต.สนั่น กล่าวว่า อยากฝากไปถามพล.อ.ชวลิต และนายสมชาย ว่าไปพูดคุยกับผู้ชุมนุมย้ายเวทีจากสี่แยกราชประสงค์ไปที่อื่นได้หรือไม่

ไม่เช่นนั้นจะทำให้เศรษฐกิจเสียหายมาก เมื่อถามว่าการที่มวลชนออกมาต่อต้านคนเสื้อแดงเกรงว่าจะเกิดเหตุซ้ำรอย 6 ตุลาหรือไม่ พล.ต.สนั่น กล่าวว่า เรื่องนี้อันตรายมาก ขณะนี้มีอยู่ 3 กลุ่ม รัฐบาลน่าจะไปคุยกับกลุ่มที่พอจะพูดคุยกันได้ เช่นกลุ่มเสื้อหลากสีและกลุ่มคนเสื้อเหลือง หากออกมาแล้วปะทะกัน จะทำให้ปัญหาลุกลามใหญ่โต เมื่อถามถึงกระแสข่าวแกนนำพรรคร่วมกำลังหาคนกลางมาเป็นนายกฯแทนนายอภิสิทธิ์ พล.ต.สนั่นรีบปฏิเสธว่า "ไม่มีหรอกครับ"


เครดิต :
เครดิต :เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์มติชน


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์