มาร์คกดดันอภิรักษ์ ยอมออก! เลือกผู้ว่า-11มค.52


ปชป.เล็ง"กรณ์"ลงสนาม พปช.ดันประภัสร์แก้มือ "ไชยา"เกาเหลา"โอฬาร" ฉุนไม่สนองจำนำข้าว

"อภิรักษ์" แถลงลาออกจากผู้ว่าฯกทม. แล้ว หลังหารือเครียดกับแกนนำปชป. อ้างเพื่อสร้างมาตรฐานการเมืองใหม่ แม้ป.ป.ช.จะชี้มูลความผิดคดีรถ-เรือดับเพลิง แต่ไม่ออกก็ได้เพราะศาลยังไม่ตัดสิน "มาร์ค" หนุน "กรณ์ จาติกวณิช" ลงเลือกตั้งแทน "กรณ์" พร้อมแต่ต้องคุยกันก่อน ติดปัญหาต้องลาออกจากส.ส.เขต เผยในวงหารือ "อภิรักษ์" กดดันหนัก "ชวน" กับ "เทือก" หนุนนั่งเก้าอี้ต่อ แต่ "มาร์ค" ยกเหตุผลถ้าอยู่ต่อเจอแรงกดดันถล่มทั้งต่อตัวเองและพรรค จนต้องยอมแถลงลาเก้าอี้ในที่สุด พปช.เชียร์ "ประภัสร์" ลงแก้มือ เจ้าตัวขอคิดและคุยแกนนำก่อนตัดสินใจ กกต.เล็งจัดเลือกตั้งผู้ว่าฯกทม. 11 ม.ค. 52 "ไชยา" ประกาศไม่ร่วมสังฆกรรม "โอฬาร" ฉุนทำงานละเอียดแบบนายธนาคารไม่เข้าใจนักการเมือง แย้มหลังพระราชพิธีพระศพมีปรับ ครม.อีกครั้ง รู้ตัวต้องพ้นจากรมว.พาณิชย์ "โอฬาร" งงอยู่ๆ ได้ซดเกาเหลา ยันโครงการจำนำข้าวทำถูกต้องโปร่งใส ทำงานเพื่อประชาชนไม่จำเป็นต้องเอาใจใคร "พระพยอม" แจงวัดสวนแก้วเป็นกลาง เปิดรับทุกฝ่ายมาให้ความรู้กับสังคม ออกกติกางานความจริงวันนี้สัญจร เสื้อเหลือง เสื้อแดง มือตบ ตีนตบอย่ามา มั่น ใจตำรวจทหารดูแลความปลอดภัยได้

"สมชาย"ไม่วิจารณ์"อภิรักษ์"

เมื่อเวลา 10.15 น. วันที่ 12 พ.ย. ที่ร.พ.ทหาร ผ่านศึก นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีคณะกรรมการ ป.ป.ช.มีมติเป็นเอกฉันท์ 9 ต่อ 0 ว่านายอภิรักษ์ โกษะโยธิน ผู้ว่าฯกทม.มีความผิดคดีทุจริตจัดซื้อรถและเรือดับเพลิงของกทม. มูลค่า 6.7 พันล้านบาทว่า ถือเป็นกระบวนการ ป.ป.ช.เป็นองค์กรอิสระ ต้องปล่อยให้ทำหน้าที่ไป รัฐบาลไม่วิจารณ์หรือแทรกแซง

ผู้สื่อข่าวถามว่าพรรคพลังประชาชนจะส่งผู้สมัครลงแข่งขันอีกครั้งหรือไม่ นายสมชายกล่าวว่า ต้องดูก่อนว่าจะมีเลือกตั้งผู้ว่าฯใหม่หรือไม่ ถ้ามีเลือกตั้งใหม่ คนการเมืองสนใจเลือกตั้งอยู่แล้ว ส่วนจะส่งคนเดิมลงหรือไม่ ต้องรอดูก่อน ตอนนี้ยังไม่รู้และไม่ทราบ

เมื่อถามว่านายอภิรักษ์ควรเลือกตัดสินใจทางใด นายสมชายกล่าวว่า ตนคงไม่วิจารณ์ใคร ต้องตัดสินใจกันเอง ซึ่งประชาชนจะดูเอง ทุกคนที่เข้ามามุ่งหวังว่าสิ่งที่ทำไปนั้นเป็นประโยชน์ แต่เมื่อเรื่องเข้าสู่กระบวน การยุติธรรมแล้ว ต้องปล่อยตามกระบวนการ ส่วนนายอภิรักษ์จะตัดสินใจอย่างไรเป็นเรื่องส่วนตัว

พปช.ได้ทีทวงสปิริตปชป.

ด้านนายวิชาญ มีนชัยนันท์ รมช.สาธารณสุข ในฐานะส.ส.กทม.พรรคพลังประชาชน กล่าวว่า เมื่อ ป.ป.ช.มีมติเอกฉันท์โดยไม่มีเสียงแตกแม้แต่เสียงเดียว พรรคประชาธิปัตย์ต้องทบทวนเรื่องนี้ เนื่องจากที่ผ่านมาพรรคประชาธิปัตย์เคยออกมาเคลื่อนไหวกรณี ป.ป.ช.ชี้มูลหวยบนดินว่า 3 รมต.ไม่ควรอยู่ในตำ แหน่ง ดังนั้นพรรคประชาธิปัตย์ควรทบทวนด้วยเช่นกัน

"ผู้ว่าฯกทม.เป็นตำแหน่งที่ต้องมีความโปร่งใสชัดเจน หากต้องการทำงานเพื่อสังคม ไม่จำเป็นต้องเป็นผู้ว่าฯกทม.ก็ได้ ส่วนนายอภิรักษ์จะอยู่ในตำแหน่งต่อไปหรือไม่นั้น นายอภิรักษ์ต้องพิจารณาเอง ขอฝากถึงผู้รับสมัครเลือกตั้งผู้ว่าฯกทม.ในอนาคตว่า อย่าเพิ่มภาระให้สังคม ถ้าไม่มั่นใจในตนเองว่าโปร่งใส ก็อย่าลงสมัครอีก" นายวิชาญกล่าวและว่า ส่วนพรรคพลังประชาชนจะส่งใครลงสมัครนั้น นายประภัสร์ จงสงวน อาจลงสมัครอีกครั้งก็ได้ ทุกอย่างเป็นไปได้ทั้งนั้น

"อภิรักษ์"ไม่ไปงานหมั้น"องอาจ"

วันเดียวกันเวลา 09.59 น. ที่โรงแรมโอเรียนเต็ล นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ พร้อมด้วยแกนนำพรรค อาทิ นายชวน หลีกภัย ประธานสภาที่ปรึกษาพรรค นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองหัวหน้าพรรค นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการพรรค และสมาชิกพรรคส่วนหนึ่ง เข้าร่วมพิธีหมั้นระหว่างนายองอาจ คล้ามไพบูลย์ ส.ส.กทม. กับน.ส. อโณทัย ศรีกิจจา โดยมีขบวนแห่ขันหมากนำโดยนายอภิสิทธิ์และนายสุเทพ จากนั้นมีพิธีสู่ขอซึ่งนายชวน และนายมารุต บุนนาค อดีตรองหัวหน้าพรรค เป็นเถ้าแก่ฝ่ายชาย ทั้งนี้นายองอาจและน.ส.อโณทัยจะเข้ารับพระราชทานน้ำสังข์จากสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี วันที่ 1 ก.พ. 2552

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายอภิรักษ์ โกษะโยธิน ผู้ว่าฯกทม. ซึ่งป.ป.ช.ชี้มูลความผิดคดีจัดซื้อรถและเรือดับเพลิงของกทม. ไม่ได้มาร่วมงานด้วย ทั้งที่เดิมมีกำหนดมาร่วมแสดงความยินดีกับคู่หมั้น คาดว่ายังอยู่ระหว่างตัดสินใจว่าจะลาออกจากผู้ว่าฯกทม.หรืออยู่ในตำแหน่งต่อไปจนกว่าจะมีคำตัดสินของศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง อย่างไรก็ตามภายหลังเสร็จสิ้นพิธีหมั้นนายอภิสิทธิ์พร้อมด้วยแกนนำพรรคบางส่วนเดินทางไปยังพรรคประชาธิปัตย์ทันที เพื่อประชุมหาทางออกกรณีของนายอภิรักษ์

"ลีน่าจัง"ลุยป่วนทั้งกทม.-ปชป.

ผู้สื่อข่าวรายงานจากพรรคประชาธิปัตย์ว่า ตั้งแต่ช่วงเช้ามีประชาชน 30 คนมาชูป้ายให้กำลังใจนายอภิรักษ์และพรรคประชาธิปัตย์ ทั้งนี้เจ้าหน้าที่พรรคนำรั้วแผงเหล็กปิดกั้นตลอดบริเวณหน้าที่ทำการพรรค นอก จากนี้ยังมีกำลังตำรวจจากสน.บางซื่อประมาณ 10 นายมาดูแลความเรียบร้อย

ช่วงเวลา 12.30 น. นางลีนา จังจรรจา อดีตผู้สมัครผู้ว่าฯกทม. นำทีมงาน 20 คน มาชูป้ายและกล่าวโจมตีเรียกร้องนายอภิรักษ์ลาออก และเรียกร้องนายอภิสิทธิ์และนายอภิรักษ์รับผิดชอบคืนเงินให้กับแผ่นดิน ทั้งนี้นางลีน่าประกาศว่าถ้ามีเลือกตั้งผู้ว่าฯกทม.ครั้งใหม่จะลงสมัครอีกครั้ง ก่อนหน้านั้นเวลา 11.00 น. นางลีน่าไปที่ลานคนเมืองเพื่อเรียกร้องนายอภิรักษ์แสดงความรับผิดชอบ โดยนำธูปขนาดใหญ่ 9 ดอกมาจุดสาปแช่งผู้สร้างความเสียหายให้กับกทม. รวม 9 คน

ขณะที่บรรยากาศภายในศาลาว่าการกทม. เสาชิงช้า เป็นไปด้วยความเงียบเหงา ข้าราชการจับกลุ่มวิจารณ์กันอย่างต่อเนื่อง โดยนายอภิรักษ์ไม่ได้เข้ามาทำงานแต่อย่างใด

มท.1 ชี้ปลัดกทม.รักษาการแทน

ที่สำนักงานป.ป.ส. พล.ต.อ.โกวิท วัฒนะ รมว. มหาดไทย ในฐานะกำกับกทม. กล่าวว่า หากป.ป.ช. ส่งเรื่องมาจะพิจารณาตามอำนาจหน้าที่ ในทางข้อกฎหมาย โดยต้องพิจารณาว่านายอภิรักษ์ ต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่ และให้รองผู้ว่าฯกทม.รักษาราชการแทน ส่วนกรณีที่นายอภิรักษ์ลาออก ปลัดกทม.ต้องรักษา การแทน จากนั้นกกต.ต้องจัดเลือกตั้งผู้ว่าฯใหม่

ผู้สื่อข่าวถามว่าสัญญาต่างๆของกทม.จะเป็นโมฆะหรือไม่ พล.ต.อ.โกวิทกล่าวว่า ป.ป.ช.ต้องแจ้งมาว่าได้พิจารณาความผิดใดบ้าง รมว.และปลัดกระทรวงมหาดไทยจะช่วยกันพิจารณาว่าตามข้อกฎหมายสัญญาต่างๆจะเป็นโมฆะหรือไม่ และต้องฟ้องร้องค่าเสียหายทางแพ่งอย่างไรบ้าง เชื่อว่าป.ป.ช.จะส่งเรื่องมาโดยเร็ว

ด้านนายพีรพล ไตรทศาวิทย์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า ต้องดูข้อกฎหมายของกระทรวงมหาดไทยก่อนว่าจะทำอะไรได้มากน้อยแค่ไหน ขณะนี้เรื่องไม่น่าจะเกี่ยวข้องกับมหาดไทย เพราะป.ป.ช.ชี้มูลความผิดไปแล้ว ต้องให้ป.ป.ช.ดำเนินการตามกฎหมายป.ป.ช.ก่อน

ป.ป.ช.แจงไม่ชี้มูลให้หยุดทำหน้าที่

ที่สำนักงานป.ป.ช. น.ส.สมลักษณ์ จัดกระบวนพล กรรมการป.ป.ช. กล่าวว่า การที่ป.ป.ช.ไม่ชี้ว่านายอภิรักษ์ต้องหยุดการปฏิบัติหน้าที่ตามมาตรา 55 ของพ.ร.บ.ป.ป.ช.หรือไม่นั้น เนื่องจากป.ป.ช.ไม่มีหน้าที่ตัดสินเรื่องการหยุดปฏิบัติหน้าที่ มีหน้าที่เพียงพิจารณาชี้มูลความผิดเท่านั้น เรื่องนี้ต้องเป็นหน้าที่ของรมว.มหาดไทย ในฐานะผู้บังคับบัญชานายอภิรักษ์ว่าจะดำเนินการอย่างไรต่อไป กรณีนายอภิรักษ์เป็นการชี้มูลความผิดสมัยเป็นผู้ว่าฯกทม.สมัยแรก แต่ปัจจุบันนายอภิรักษ์เป็นผู้ว่าฯกทม.สมัยที่สอง ทำให้เกิดปัญหาการตีความว่ามีผลต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่หรือไม่ ซึ่ง ป.ป.ช.ไม่มีหน้าที่ตีความประเด็นนี้ แต่ผู้มีหน้าที่โดย ตรงคือศาลรัฐธรรมนูญ หากป.ป.ช.ตี ความประเด็นดังกล่าวจะก้าวก่ายการทำหน้าที่ขององค์กรอื่น

''อภิรักษ์"แถลงลาออกจากผู้ว่าฯ

ต่อมาเวลา 13.45 น. ที่พรรคประชาธิปัตย์ แกนนำพรรคนำโดยนายอภิสิทธิ์ร่วมหารือกับนายอภิรักษ์ จากนั้นเวลา 15.15 น.นายอภิรักษ์เดินทางออกจากพรรคเพื่อแถลงข่าวที่ศาลาว่าการกทม. โดยกล่าวเพียงสั้นๆว่า จะตัดสินใจบนพื้นฐานที่เป็นประโยชน์ต่อประชาชนมากที่สุด ยืนยันว่าไม่ได้รับการกดดันใดๆจากพรรค

ที่ศาลาว่าการกทม. นายอภิรักษ์แถลงข่าวด้วยสีหน้าเคร่งเครียดว่า ต้องขอโทษต่อประชาชนที่มอบความไว้วางใจเลือกเป็นผู้ว่าฯกทม. แต่เพื่อให้เป็นบรร ทัดฐานทางการเมือง จึงประกาศขอลาออกจากตำแหน่งผู้ว่าฯกทม.

"ขอเรียนให้ทราบว่าผมจะตัดสินใจลาออกจากผู้ว่าฯกทม. และเพื่อเกิดผลกระทบต่อการทำงานให้น้อยที่สุด จะขอให้มีผลหลังวันงานพิธีสำคัญที่กทม.ต้องดำเนินการจนถึง 19 พ.ย. และหลังจากผ่านกระบวน การตรวจสอบความยุติธรรมในศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองแล้ว ผมจะกลับมาอีกครั้ง" (อ่านรายละเอียดหน้า 6)

เลือกตั้งใหม่เพื่อมาตรฐานการเมือง

ส่วนที่พรรคประชาธิปัตย์เมื่อเวลา 16.00 น. นาย กรณ์ จาติกวณิช รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์กล่าวว่า รู้สึกเสียใจที่พรรคต้องสูญเสียบุคลากรทางการเมืองอย่างนายอภิรักษ์ ทั้งนี้พรรคเชื่อมั่นในความบริสุทธิ์ของนายอภิรักษ์มาตลอด และอดคิดไม่ได้ว่าถ้านายอภิรักษ์ไม่ตัดสินใจเปิดแอล/ซี วันนี้อาจทำให้ประเทศชาติเสียหายมากกว่านี้ แต่เมื่อป.ป.ช.มีคำวินิจฉัยออกมาพรรคก็เคารพ จากนี้พรรคจะช่วยเหลือนายอภิรักษ์อย่างเต็มที่ในการพิสูจน์ความบริสุทธิ์ชั้นศาล และเชื่อว่าศาลจะให้ความเป็นธรรม ถ้าศาลพิพากษาว่าบริสุทธิ์ นายอภิรักษ์จะกลับมามีบทบาทในเวทีระดับชาติอย่างแน่นอน

ผู้สื่อข่าวถามว่านายอภิรักษ์ถูกกดดันจากพรรคหรือไม่ นายกรณ์กล่าวว่า นายอภิรักษ์รับฟังความคิดเห็นจากหลายคนในพรรค ซึ่งมีความเห็นหลากหลายแต่การตัดสินใจอยู่ที่นายอภิรักษ์ ซึ่งมีหลายคนเสนอให้ตีความก่อนว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในอดีตมีผลต่อการทำงานในฐานะผู้ว่าฯกทม.ปัจจุบันหรือไม่ แต่เราบอกว่าไม่จำเป็นต้องตีความเพราะกฎหมายชัดเจนอยู่แล้ว ดังนั้นเรื่องการปฏิบัติตามกฎหมายจึงไม่เป็นประเด็นที่พูดคุยกัน แต่ปรึกษากันเรื่องตัดสินใจว่าจะลาออกหรือไม่

เมื่อถามว่าหวั่นเกรงถูกโจมตีเรื่องทำให้ประเทศเสียงบประมาณจัดเลือกตั้งผู้ว่าฯกทม. 150 ล้านบาทหรือไม่ นายกรณ์กล่าวว่า การตัดสินใจของนายอภิรักษ์เพื่อยกระดับมาตรฐานการเมืองไทยตามที่ประชาชนทั้งประเทศต้องการเห็น การตัดสินใจที่ทำ ให้ต้องมีเลือกตั้งใหม่อีกครั้งถือเป็นต้นทุนที่พวกเรายอมจ่ายเพื่อให้ได้การเมืองมีมาตรฐาน

"กรณ์"พร้อมลงสนามถ้าพรรคส่ง

"พรรคโดยเฉพาะคุณอภิรักษ์รับผิดชอบในวิธีที่คิดว่าเป็นการพัฒนาการเมือง จากนี้พรรคจะนำเสนอผู้สมัครที่คิดว่าเหมาะสมที่สุด" นายกรณ์กล่าว เมื่อถามว่าถ้าพรรคขอให้นายกรณ์ลงสมัครผู้ว่าฯกทม.จะรับหรือไม่ นายกรณ์กล่าวว่า ต้องรอให้พูดคุยกันว่าพรรคจะเสนอใคร คาดว่าพรรคจะคุยกันเร็วๆนี้ ถ้าได้ข้อสรุปว่าจะเสนอใคร พรรคจะประกาศต่อประชาชน อย่างไรก็ตามตนพร้อมทำตามมติพรรคเสมอ

ต่อข้อถามว่ามองการเมืองระดับชาติกับระดับกทม.อย่างไร นายกรณ์กล่าวว่า คิดว่าทุกคนที่เข้ามาอยู่จุดนี้มีความพร้อมจะทำทุกเรื่องในทุกตำแหน่ง ตราบใดที่ทำให้ประชาชนได้ประโยชน์

"มาร์ค"เชียร์"กรณ์"เหมาะสม

ด้านนายอภิสิทธิ์กล่าวว่า เราเห็นใจนายอภิรักษ์มาก ปัญหาเปิดแอล/ซี เห็นได้ชัดว่าการตัดสินใจทางหนึ่งทางใดก็เป็นปัญหา เนื่องจากปมต่างๆผูกไว้แล้ว พวกเราเชื่อมั่นในตัวนายอภิรักษ์ และพร้อมช่วยต่อสู้คดีอย่างเต็มที่ ทั้งนี้ดูคำแถลงของป.ป.ช.ยังมีอีกหลายประเด็นซึ่งพรรคจะนำเสนอ เพื่อให้นายอภิรักษ์ใช้ต่อสู้พิสูจน์ความบริสุทธิ์

"การตัดสินใจของคุณอภิรักษ์เป็นบรรทัดฐานหรือมาตรฐานการเมืองไทย เป็นการตัดสินใจที่น่าชื่นชม และอยากเห็นสังคมให้กำลังใจนักการเมืองที่ตัดสินใจเช่นนี้ หลายคนมั่นใจว่าจะชนะคดีและไม่จำเป็นต้องตัดสินใจลาออก แต่ที่คุณอภิรักษ์ตัดสินใจเช่นนี้ ผมคิดว่าถูกต้อง และเปิดโอกาสให้ชาวกทม.ได้เลือกผู้บริหารใหม่ แทนที่จะอยู่กับความไม่แน่นอนเป็นเวลานาน" นายอภิสิทธิ์กล่าว

ผู้สื่อข่าวถามว่าประชาชนอาจเบื่อหน่ายที่ต้องเลือกตั้งใหม่ นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ในวันที่ตัดสินใจส่งนายอภิรักษ์ เราได้รับข่าวสารชัดเจนว่าอนุของคตส. เห็นว่านายอภิรักษ์ไม่ผิด และคงไม่เป็นธรรมถ้าจะปิดโอกาสนายอภิรักษ์ เราเสียใจที่เกิดเหตุการณ์นี้ แต่อนาคตชาวกทม.ต้องตัดสินใจอีกครั้งหนึ่ง

เมื่อถามว่าเลือกตั้งใหม่พรรคยังมั่นใจหรือไม่ว่าจะรักษาที่นั่งผู้ว่าฯกทม.ไว้ได้ นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า เรามีหน้าที่เลือกบุคคลที่คิดว่าดีที่สุด และนายกรณ์เป็นชื่อหนึ่งที่พูดถึง แต่ยังไม่ได้คุยกับนายกรณ์ ทั้งนี้พรรคจะพิจารณาว่าใครจะทำงานต่อจากนายอภิรักษ์ได้ ต่อข้อถามว่าหากนายกรณ์ลงสมัครก็ต้องเลือกตั้งซ่อมส.ส. ในเขตของนายกรณ์อีก นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า เรื่องค่าใช้จ่ายการเลือกตั้ง ในประเทศประชาธิปไตยถือเป็นต้นทุนอย่างหนึ่งที่ต้องแลกกับการที่จะมีการเมืองที่ยืดหยุ่นและเคลื่อนไหวได้ เป็นการเมืองที่ทำให้คนกล้ารับผิดชอบ หรือกล้าตัดสินใจเพื่อมาตรฐานทาง การเมืองมากขึ้น คิดว่าเรื่องใหญ่กว่านั้นคือหาบุคคลที่ดีที่สุดให้กับชาวกทม. ซึ่งพรรคจะหาให้เร็วที่สุด หากเห็นว่าใครเหมาะสมก็จะทาบทามไม่ว่าคนในหรือนอกพรรค

เบื้องหลัง"อภิรักษ์"แถลง

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนที่นายอภิรักษ์จะแถลงข่าว มีสมาชิกสภากทม.จากพรรคประชาธิปัตย์ นำ โดยนายกิตพล เชิดชูกิจกุล ประธานสภากทม. พร้อมด้วยข้าราชการและประชาชนมาต้อนรับและมอบดอกไม้ให้กำลังใจ แล้วเข้าไปฟังแถลงจนล้นห้อง หลังจากนายอภิรักษ์แถลงลาออกได้รับเสียงปรบมือดังกระหึ่ม

จากนั้นนายอภิรักษ์พร้อมคณะผู้บริหารเดินไปขอบคุณข้าราชการกทม. ซึ่งหลายคนพากันปล่อยโฮด้วยความเสียใจ ขณะที่นายพงศ์ศักติฐ์ เสมสันต์ ปลัดกทม.เดินเข้ามาจับมือนายอภิรักษ์ด้วยสีหน้าเศร้าสลด นายอภิรักษ์กล่าวเพียงสั้นๆว่า "ขอบคุณครับ ผมฝากกทม.ด้วย"

นายอภิรักษ์ให้สัมภาษณ์อีกครั้งว่า การประกาศลาออกซึ่งจะมีผลวันที่ 19 พ.ย.นั้น ถือว่าได้ยุติบทบาทนับตั้งแต่วันนี้ ทั้งที่จริงๆแล้วไม่จำเป็นต้องลาออกก็ได้ แต่สาเหตุที่ให้การลาออกมีผลวันที่ 19 พ.ย.เพื่อให้ข้าราชการเตรียมตัวทำงาน อีกทั้งไม่ทำให้การบริหารงานของกทม.ต้องโดนกระทบไปด้วย

ผู้สื่อข่าวถามว่าจะสนับสนุนใครลงสมัครผู้ว่าฯกทม.เป็นพิเศษหรือไม่ นายอภิรักษ์กล่าวว่า เป็นสิทธิ์ของพรรค เชื่อว่าจะพิจารณาคนที่ดีที่สุด การตัดสินใจครั้งนี้ไม่ได้ส่งสัญญาณไปถึงใคร ไม่ว่ารมต.คดีหวยบนดิน แต่เป็นสิ่งที่ตนตัดสินใจและเชื่อมั่น

ชวน-เทือกให้อยู่ต่อ-มาร์คให้ออก

รายงานข่าวจากพรรคประชาธิปัตย์เปิดเผยว่า ก่อนที่นายอภิรักษ์จะแถลงลาออก ได้ถูกกดดันจากแกนนำพรรค อาทิ นายชวนและนายสุเทพเพราะไม่เห็นด้วยกับการลาออก โดยให้เหตุผลว่าศาลยังไม่พิจารณา รวมทั้งนายอภิรักษ์ยังได้รับคะแนนจากชาวกทม.อย่างท่วมท้น ขณะที่นายอภิสิทธิ์เลือกแนวทางจะให้ลาออก เพราะเป็นจุดยืนที่พรรคยืนยันมาตลอด เนื่องจากที่ผ่านมาเคยเรียกร้องรมต.ที่ป.ป.ช.ชี้มูลว่ามีความผิดต้องยุติการปฏิบัติหน้าที่และลาออกจากตำ แหน่ง

รายงานข่าวเปิดเผยอีกว่า การหารือระหว่างนายอภิรักษ์ นายอภิสิทธิ์ นายสุเทพ นายกรณ์ นายนิพนธ์ หร้อมพันธุ์ และนายประกอบ จิรกิติ นั้น ทั้งนายอภิรักษ์และนายสุเทพต่างไม่เห็นด้วยกับการลาออก โดยนายสุเทพเห็นว่าคดียังไม่สิ้นสุดและกฎหมายไม่ได้บังคับให้ลาออก ขณะที่นายอภิสิทธิ์ พยายามบอกว่าหากไม่ลาออก นายอภิรักษ์จะเจอแรงกดดันหลายเรื่องไม่ว่าสปิริตของนักการเมืองรุ่นใหม่ การสร้างบรรทัด ฐานการเมืองตามมาตรฐานของพรรค รวมทั้งการบริหารงานในกทม.จะทำไม่ได้และเกิดสุญญากาศ นายอภิสิทธิ์ถามนายอภิรักษ์ว่าจะทนแรงเสียดทานเหล่านี้ได้หรือไม่ หากสุดท้ายศาลตัดสินว่าไม่ผิดอาจต้องจบอนาคตทางการเมืองไปเลย และพรรคจะถูกกดดันอย่างหนัก แต่ถ้าลาออกจะสร้างบรรทัดฐานใหม่ และถ้านายอภิรักษ์พ้นคดีก็ยังมีเวทีระดับชาติรออยู่

เสนอ 4 ชื่อลงสมัครผู้ว่าฯ

ทั้งนี้นายกรณ์สนับสนุนเหตุผลนายอภิสิทธิ์ หลังจากรับฟังเหตุผลทั้งหมดนายอภิรักษ์ยังไม่บอกว่าจะตัดสินใจลาออกหรือไม่ ทำให้นายอภิสิทธิ์ต้องรอลุ้นการแถลงข่าวของนายอภิรักษ์จนนาทีสุดท้าย ส่วนสาเหตุที่นายอภิรักษ์ไปแถลงที่กทม.เพื่อลดกระแสไม่ได้ถูกพรรคกดดัน

รายงานข่าวแจ้งด้วยว่า ในที่ประชุมยังพูดถึงบุคคลที่จะลงสมัครผู้ว่าฯกทม. โดยเสนอ 4 รายชื่อคือ นายกรณ์ นายพนิช วิกิตเศรษฐ์ อดีตรองผู้ว่าฯกทม. นายประกอบ จิรกิติ รองผู้ว่าฯกทม. และม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ส.ส.สัดส่วน แต่ยังเห็นว่ากระแสตอบรับนายกรณ์มีมากกว่าคนอื่น แต่ติดที่นายกรณ์เป็น ส.ส.เขต ถ้าลาออกไปสมัครผู้ว่าฯ ต้องเลือกตั้งซ่อมใหม่ พรรคจึงต้องพิจารณาประเด็นนี้อีกครั้งว่าจะมีผลได้ผลเสียอย่างไร

กทม.เสนอวันรับสมัคร 2 ช่วง

ด้านนายยศศักดิ์ คงมาก ผอ.สำนักงานปกครองและทะเบียน กทม. เปิดเผยว่า ตามมาตรา 7 พ.ร.บ. การเลือกตั้งผู้บริหารท้องถิ่น พ.ศ. 2545 กำหนดให้กกต.จัดการเลือกตั้งภายใน 60 วันนับตั้งแต่สมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่นพ้นจากตำแหน่ง เมื่อนายอภิรักษ์ประกาศลาออกมีผลวันที่ 19 พ.ย. เบื้องต้นกทม.เตรียมกำหนดวันรับสมัครและวันเลือกตั้งเบื้องต้น เพื่อนำเสนอกกต. โดยกำหนดวันรับสมัครไว้ 2 ช่วง คือ วันที่ 26-30 พ.ย. หรือวันที่ 1-5 ธ.ค.นี้ ส่วนวันเลือกตั้ง คือวันที่ 11 ม.ค. 2552

นายพิงค์ รุ่งสมัย ประธานกกต.กทม. เปิดเผยว่า แม้นายอภิรักษ์จะประกาศลาออก แต่ข้อร้องเรียนของนายอภิรักษ์ทั้งหมด 4 เรื่อง กกต.กทม.จะพิจารณาต่อไปตามขั้นตอน หากตรวจพบว่ามีการกระทำความผิดจริงจะต้องถูกใบแดง มีผลให้ถูกเพิกถอนสิทธิ์เลือกตั้งและต้องจ่ายชดเชยค่าจัดการเลือกตั้งใหม่ 154 ล้านบาทด้วย แต่ขึ้นกับกกต.กลางจะพิจารณา

นายกฤษฎา กลันทานนท์ ผอ.สำนักงานกฎหมายและคดี กทม. เปิดเผยว่า การยกเลิกสัญญานั้น ป.ป.ช. แนะกทม.หารือกระทรวงมหาดไทยและอัยการสูงสุด อย่างไรก็ตามกทม.ต้องรอสำเนาการชี้มูลของป.ป.ช. ก่อน จากนั้นจะส่งให้อัยการสูงสุดดำเนินการต่อไป

รายงานข่าวแจ้งว่า หากกทม.จะยกเลิกสัญญาจัดซื้อฯ ตามกระบวนการสัญญา จะตั้งคณะอนุญาโตตุลา การหาข้อยุติ หากตกลงกันไม่ได้ กทม.ต้องไปฟ้องศาลประเทศออสเตรียเพื่อให้สัญญาเป็นโมฆะ

กกต.เล็งจัดเลือกตั้ง 11 ม.ค. 52

เมื่อเวลา 16.30 น. ที่อาคารศรีจุลทรัพย์ นายประพันธ์ นัยโกวิท กกต. ด้านบริหารงานเลือกตั้ง กล่าวถึงภายหลังนายอภิรักษ์ประกาศลาออกจากผู้ว่าฯกทม.ว่า ตามพ.ร.บ.ว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่น และผู้บริหารสภาท้องถิ่น พ.ศ.2545 ระบุเมื่อผู้ว่าฯกทม.ลาออก ต้องจัดการเลือกตั้งภายใน 60 วัน นับจากวันที่ตำแหน่งนั้นว่างลง ส่วนการกำหนดวันเลือกตั้งใหม่นั้น คาดว่าจะเป็นวันที่ 11 ม.ค. 2552 ทั้งนี้หากจัดเลือกตั้งในเดือนธ.ค.อาจไม่สะดวก เนื่องจากมีงานเฉลิมพระชนมพรรษา และช่วงปลายเดือนธ.ค.ยังมีงานฉลอง ทั้งคริสต์มาสและปีใหม่ อย่างไรก็ตามกกต.กทม.จะเป็นผู้กำหนดวันรับสมัคร และวันเลือกตั้งที่ชัดเจนอีกครั้ง

นายประพันธ์กล่าวว่า การเลือกตั้งครั้งใหม่นี้ นายอภิรักษ์ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่าย เนื่องจากลาออกจากตำแหน่ง ไม่ใช่ถูกเพิกถอนสิทธิ์เลือกตั้ง(ใบแดง) ซึ่งกกต.กทม.จะออกค่าใช้จ่ายเอง โดยงบที่ใช้จัดเลือกตั้งผู้ว่าฯกทม.ประมาณ 154 ล้านบาท น่าจะเท่ากับเลือกตั้งเมื่อวันที่ 5 ต.ค.ที่ผ่านมา

นายประพันธ์กล่าวอีกว่า ส่วนเรื่องร้องเรียนร้องคัดค้านทุจริตเลือกตั้งของนายอภิรักษ์ มีทั้งสิ้น 4 เรื่อง ขณะนี้สำนวนดังกล่าวเสนอมายังกกต.กลางแล้ว 1 เรื่อง คือกรณีป้ายประชาสัมพันธ์ ส่วนที่เหลือกำลังดำเนินการสืบสวนสอบสวน ดังนั้นการพิจารณาสำ นวนยังค้างอยู่ กกต.ต้องทำต่อไปตามปกติ ทั้งนี้หากผลสอบสวนพบว่าการเลือกตั้งที่ผ่านมาไม่บริสุทธิ์ยุติธรรม จนทำให้นายอภิรักษ์ต้องถูกใบแดง กกต.ก็ไม่สามารถถอดถอนนายอภิรักษ์และสั่งเลือกตั้งใหม่ได้ เพราะนายอภิรักษ์ลาออกไปแล้ว และคงไม่ต้องจ่ายค่าเลือกตั้งใหม่ แต่ในส่วนของคดีอาญาและการเพิกถอนสิทธิ์เลือกตั้ง กกต.จะดำเนินการตามขั้นตอนต่อไป

เตือนระวังซื้อเสียงช่วงปีใหม่

นายประพันธ์กล่าวต่อว่า การเลือกตั้งผู้ว่าฯครั้งใหม่ซึ่งจะจัดช่วงหลังเทศกาลปีใหม่ การแจกของรางวัล จัดเลี้ยง อาจกระทบต่อผู้สมัครได้ ดังนั้นขอเตือนผู้สมัครระมัดระวัง อาจถูกร้องเรียนได้ แต่ยอมรับว่าการเลือกตั้งอาจมีผลกระทบอยู่บ้าง ประชาชนอาจมาให้สิทธิ์น้อยกว่าครั้งที่ผ่านมา เนื่องจากกทม. เพิ่งผ่านเลือกตั้งส.ส.กทม.เขต 11 และส.ก.เขตดินแดง อาจทำให้ประชาชนเบื่อหน่าย ทั้งนี้ กกต.จะเร่งประชาสัมพันธ์อย่างเต็มที่

ผู้สื่อข่าวถามว่าจากกรณีนายอภิรักษ์ กกต.จะตรวจสอบคุณสมบัติผู้สมัครให้ละเอียดกว่านี้หรือไม่ เพื่อไม่ให้เสียงบจัดเลือกตั้ง นายประพันธ์กล่าวว่า กกต.คงไม่สามารถสั่งห้ามผู้สมัครได้ เพราะการต้องคดีอาญานั้น ไม่ได้เป็นเหตุให้เสียสิทธิ์เป็นผู้สมัคร นอกจากศาลจะพิพากษาจำคุกเท่านั้นถึงจะไม่สามารถสมัครได้ เรื่องนี้เป็นดุลพินิจและจิตสำนึกของผู้สมัครเอง

อัยการรอรับสำนวนจากป.ป.ช.

ขณะที่นายธนพิชญ์ มูลพฤกษ์ โฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด กล่าวถึงกรณีป.ป.ช.ชี้มูลความผิดนายอภิรักษ์ในคดีรถ?เรือดับเพลิงของกทม. ว่า อัยการเตรียมพร้อมหากป.ป.ช.ส่งสำนวนมาให้อัยการสูงสุดพิจารณาสั่งคดี โดยนายชัยเกษม นิติสิริ อัยการสูงสุด อาจแต่งตั้งคณะทำงานตรวจสำนวนเหมือนการพิจารณาสำนวน คตส. ซึ่งแต่งตั้งนายวัยวุฒิ หล่อตระกูล รองอัยการสูงสุด เป็นประธานคณะทำงาน

นายธนพิชญ์กล่าวถึงการพิจารณาสำนวนว่า ตามกฎหมายเมื่ออัยการได้รับสำนวนจากป.ป.ช.แล้ว มีเวลาต้องพิจารณาเพื่อมีความเห็นให้เสร็จภายใน 30 วัน แต่หากอัยการพบข้อมูลไม่สมบูรณ์สามารถเสนอความเห็นตั้งคณะทำงานร่วมกับป.ป.ช.พิจารณาสำนวน ซึ่งคณะทำงานร่วมมีเวลาต้องพิจารณาให้แล้วเสร็จภายใน 14 วัน

"ประภัสร์"ขอคิด-คุยก่อนตัดสินใจ

วันเดียวกันนายประภัสร์ จงสงวน อดีตผู้สมัครผู้ว่าฯกทม.ของพรรคพลังประชาชน กล่าวว่า ถือเป็นเรื่องดีที่นายอภิรักษ์แสดงจุดยืนทางการเมืองโดยลาออกจากตำแหน่ง ซึ่งจะเป็นจุดเริ่มที่ดีในการเปลี่ยน แปลงนักการเมืองให้มีมาตรฐานทางการเมืองที่สูงขึ้น เรื่องดังกล่าวเป็นสิ่งที่นายอภิรักษ์ และพรรคประชาธิปัตย์ทราบดีอยู่แล้วว่าการลงสมัครรับเลือกตั้งผู้ว่าฯกทม.ครั้งนี้ สุ่มเสี่ยงและอาจเกิดปัญหากระทบถึงการเลือกตั้งได้ จึงควรส่งคนอื่นลงรับสมัครแทนตั้งแต่ต้น เพื่อไม่ให้ประเทศต้องเสียค่าใช้จ่ายเลือกตั้งใหม่

"เมื่อพรรคประชาธิปัตย์มั่นใจว่ามีคนเก่ง มีความสามารถ มีคุณภาพทุกคน ก็น่าจะส่งคนอื่นลงเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมา ซึ่งผมเห็นด้วยกับสิ่งที่นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ เคยเรียกร้องไว้โดยให้นายอภิรักษ์เคลียร์ตัวเองก่อน เพราะยังมีคดีที่ค้างอยู่จะเสี่ยงที่ประเทศต้องใช้งบประมาณเลือกตั้งใหม่" นายประภัสร์กล่าวและว่า สำหรับอนาคตทางการเมืองของตนขณะนี้ยังไม่ได้หารือกับพรรคว่าจะทำอย่างไรต่อไป แต่จะคุยกับทุกฝ่ายอย่างแน่นอน ส่วนตัวแล้วตนเป็นนักทำงานพร้อมสำหรับการทำงานเสมอ ขณะนี้ยังมีเวลาคิดและปรึก ษากันว่าจะทำอย่างไรต่อไป

"หมอวันชัย"เข้าสานเสวนาปธ.วุฒิฯ

เมื่อเวลา 09.30 น. ที่รัฐสภา น.พ.วันชัย วัฒน ศัพท์ ผอ.ศูนย์สันติวิธีและธรรมาภิบาล สถาบันพระปกเกล้า เข้าหารือกับนายประสพสุข บุญเดช ประธานวุฒิสภา ถึงแนวทางสานเสวนา เพื่อยุติความรุนแรง จากนั้นน.พ.วันชัยพร้อมด้วยนายประสพสุขร่วมกันแถลงข่าว โดยน.พ.วันชัยกล่าวว่า วุฒิสภาทั้งประธาน รองประธานวุฒิสภาทั้ง 2 คน และส.ว.ทุกคนเห็นด้วยและจะร่วมขับเคลื่อนกับแนวทางของกลุ่ม ซึ่งประธานวุฒิฝากข้อห่วงใยถึงเงื่อนไขที่จะสร้างความขัดแย้งให้เกิดขึ้น โดยเฉพาะการเสนอร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญเพื่อตั้งส.ส.ร.3 รวมถึงกรณีจะเสนอกฎหมายนิรโทษกรรมแก่นักการเมือง ดังนั้นการจัดเวทีสานเสวนาครั้งต่อไปจะเชิญตัวแทนส.ว.มาร่วมแสดงความคิดเห็น พร้อมกันนี้ประธานวุฒิสภารับปากสนับสนุนการรณรงค์ผ่านสื่อของรัฐสภาทั้งวิทยุและโทรทัศน์

ผู้สื่อข่าวถามว่าเท่าที่ได้หารือกับหลายฝ่าย เห็นว่าจุดยุติปัญหาความขัดแย้งอยู่ที่ไหน น.พ.วันชัยกล่าวว่า ทุกฝ่ายเห็นด้วยกับแนวทางของเรา ขณะนี้อยู่ระหว่างประสานเพื่อพูดคุยกับกลุ่มพันธมิตร แต่อยากฝากสื่อว่าคนที่ยกนิ้วก้อยเดินเข้าไปหาแล้วบอกว่าดีกัน ไม่ใช่คนขี้ขลาด แต่เป็นวิถีของคนกล้า การดำเนินการของเราไม่ใช่ไปเจรจาให้คนที่ถูกลงโทษได้ลดโทษ แต่ทุกฝ่ายไม่อยากเห็นความรุนแรง ใครทำอะไรเราไม่ว่า ขออย่าใช้ความรุนแรงเข้าหากัน ไม่ว่าการปาระเบิดหรือชี้หน้าด่ากัน เราไม่อยากให้เกิดประเด็นนำไปสู่ตรงจุดนั้น ดังนั้นต้องทำให้สังคมเข้าใจในเรื่องเหล่านี้

ทุกคนห่วงใย"แม้ว"โฟนอินอีก

เมื่อถามว่านายกฯเห็นด้วยกับแนวทางสานเสวนา แต่ยังผลักดันการแก้ไขรัฐธรรมนูญ จะต้องคุยกับนายกฯใหม่หรือไม่ น.พ.วันชัยกล่าวว่า ให้สื่อไปคุยแทนได้หรือไม่ เอาไว้ว่างๆค่อยไปคุย เราบอกสังคมได้แต่เราไม่มีหน้าที่ไปบอกให้นายกฯหยุดดำเนินการสิ่งใด ได้แต่บอกสื่อถึงข้อห่วงใยของสังคม วันนั้นนายกฯพูดชัดว่าเห็นด้วยกับการยุติความรุนแรง เมื่อถามว่าเป็นห่วงเรื่องโฟนอินของพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตรที่จะมีอีกหรือไม่ น.พ.วันชัยกล่าวว่า บอกไม่ได้ว่าจะเกิดความรุนแรงหรือไม่ ไม่รู้ว่าพ.ต.ท.ทักษิณ จะพูดอย่างไร แต่ทุกคนก็ห่วงใย

ตอนนี้ไม่เหมาะสมควรหยุดแก้รธน.

ด้านนายประสพสุขกล่าวว่า วุฒิสภาเห็นด้วยและสนับสนุนเต็มที่ แต่คงไม่ใช่ผู้จัดเวทีเอง เมื่อถามถึงการออกกฎหมายนิรโทษกรรมและการแก้รัฐธรรมนูญจะกลายเป็นชนวนความขัดแย้ง นายประสพสุขกล่าวว่า คิดว่าทั้ง 2 เรื่องจะทำให้เกิดความรุนแรง เมื่อถามว่าจะประสานกับนายกฯและประธานสภายุติเรื่องนี้ก่อนหรือไม่ นายประสพสุขกล่าวว่า เท่าที่ฟังทุกฝ่ายคิดเหมือนกัน แม้แต่ฝ่ายรัฐบาลคงเห็นว่าจะมีความขัดแย้งเพิ่มขึ้น เมื่อถามว่าส.ส.พรรคพลังประชาชนยืนยันจะเสนอแก้รัฐธรรมนูญในสมัยประชุมสมัยวิสามัญ นายประสพสุขกล่าวว่า น่าจะหยุดไว้ก่อน เพราะไม่ใช่เวลาเหมาะสม หลังวันที่ 28 พ.ย.ก็ปิดสมัยประชุมแล้ว ส่วนที่รัฐบาลจะขอเปิดสมัยประชุมวิสามัญเพื่อพิจารณาเรื่องเงินอัดฉีดแสนล้านนั้น เป็นเรื่องของสภา เมื่อถามว่าจะคุยกับประธานสภาก่อนหรือไม่ว่าจะไม่เอาเรื่องแก้รัฐธรรมนูญเข้ามาช่วงนั้น นายประสพสุขกล่าวว่า เรื่องยังไม่เกิด

ต่อข้อถามว่าการประชุมร่วมรัฐสภาวันที่ 24 พ.ย. เพื่อพิจารณาข้อตกลงร่วมไทย-เกาหลี อาจมีสอดไส้การแก้รัฐธรรมนูญเข้ามาด้วย นายประสพสุขกล่าวว่า สอดไส้คงไม่มี เพราะวิปทั้ง 2 ฝ่ายต้องหารือกันก่อน และคงใช้เวลาพิจารณา เพราะเรียกประชุมเพียงวันเดียว เมื่อถามว่ามีกระแสข่าวจะเกิดความรุนแรงหลังงานพระราชพิธี นายประสพสุขกล่าวว่า เชื่อมั่นในแนวทางของกลุ่มสานเสวนาว่าจะหาทางยุติความรุนแรงได้

ส.ว.เสนอแก้รธน.ตั้งนายกฯคนนอก

ที่รัฐสภา นายวิชาญ ศิริชัยเอกวัฒน์ ส.ว.สรรหา แถลงว่า ปัญหาวิกฤตการเมืองขณะนี้ ตนห่วงว่าหลังงานพระราชพิธีพระราชทานเพลิงพระศพ จะยิ่งเกิดความรุนแรงมากขึ้น แม้จะมีเลือกตั้งใหม่ รัฐบาลคงชนะเลือกตั้งกลับเข้ามาอีก หรือหากเปลี่ยนขั้วรัฐบาล เสื้อแดงคงออกมายึดทำเนียบรัฐบาล ถ้าทหารออกมา ก็ไม่ใช่ทางแก้ปัญหา จึงขอเสนอทางออก 9 ข้อคือ 1.รัฐสภาแก้รัฐธรรมนูญเฉพาะมาตรา 171 วรรคสอง ให้นายกฯไม่ต้องมาจากส.ส. และมาตรา 291 เพื่

เครดิต :
เครดิต : เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์ข่าวสด


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์