มาร์ค แนะเด็กนำคำขวัญเป็นแนวพัฒนาตน-ชาติ

นายกฯ ให้โอวาทเด็ก-เยาวชนดีเด่น ย้ำคำขวัญวันเด็ก "รอบคอบ รู้คิด มีจิตสาธารณะ" เพื่อให้นำไปเป็นแนวทางพัฒนาตัวเองและประเทศ

เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 6 ม.ค. ที่ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวให้โอวาทแก่เด็กและเยาวชนดีเด่นและนำชื่อเสียงสู่ประเทศชาติ จำนวน 730 คน ที่เข้าเยี่ยมคารวะ ตอนหนึ่งว่า เด็กและเยาวชนเป็นกำลังของชาติและเป็นอนาคตของประเทศ รัฐบาลจึงให้ความสำคัญต่อเด็กและเยาวชนเป็นพิเศษ โดยในแผนการปฏิรูปประเทศไทยรัฐบาลได้ให้ความสำคัญอย่างยิ่งกับการพัฒนาคุณภาพชีวิตของเด็กและเยาวชน ซึ่งเริ่มตั้งแต่มารดาที่ตั้งครรภ์ เด็กแรกเกิด เด็กเล็กและเยาวชน ทั้งการเลี้ยงดู อบรมสั่งสอน การพัฒนาทักษะไปจนถึงการช่วยเหลือสงเคราะห์เด็กที่มีความต้องการพิเศษ ซึ่งแนวทางดังกล่าวนอกจากที่จะเป็นการสร้างโอกาส เพื่อความเสมอภาคเท่าเทียมแล้ว ยังเป็นการสร้างรากฐานที่สำคัญที่สุดสำหรับความเข้มแข็งของประเทศต่อไป สำหรับวันเด็กแห่งชาติประจำปี 2554  ตนได้มอบคำขวัญวันเด็กว่า "รอบคอบ รู้คิด มีจิตสาธารณะ" ซึ่งคำขวัญดังกล่าวตนได้ให้ความสำคัญกับสถานการณ์ความเป็นจริงของโลกปัจจุบัน จึงมีความจำเป็นที่เด็กและ เยาวชนต้องมีความสามารถในการอยู่ในโลกปัจจุบันและเติบโตมาอย่างมีคุณภาพ

นายกรัฐมนตรี กล่าวต่อว่า โลกปัจจุบันเป็นโลกของข้อมูลข่าวสารและเป็นโลกของการแข่งขัน ในแต่ละวันเด็กและเยาวชนต้องรับข้อมูลข่าวสารมากมาย

ขณะเดียวกันก็อยู่ในภาวะการแข่งขันทั้งด้านการเรียน การศึกษาหรือด้านอื่น ๆ ซึ่งเราต้องการเห็นเด็กและเยาวชนเผชิญกับสภาวะนี้ได้โดยสามารถพัฒนาตัวเอง และเป็นสมาชิกที่ดีของสังคม การรับข้อมูลข่าวสารเป็นเรื่องดีและสำคัญ แต่จำเป็นที่จะต้องศึกษาค้นคว้าอย่างรอบด้าน หากการรับข้อมูลข่าวสารเป็นเพียงด้านใดด้านหนึ่งก็จะทำให้เกิดความรู้ความเข้าใจที่ผิด การที่ตนมอบคำขวัญว่า "รอบคอบ" นั้น เพราะต้องการให้ทุกคนตระหนักถึงความเป็นจริงว่าหลายสิ่งนั้นมีความสลับซับซ้อน มีหลายแง่มุม การที่จะตัดสินใจในข่าวสารหรือมีความคิดเห็นในเรื่องใดก็จำเป็นต้องอาศัยความรอบคอบ สำหรับ "รู้คิด" นั้นเป็นเรื่องที่จะต้องมีการยับยั้งชั่งใจในการที่จะพิจารณาอย่างถ่องแท้ในสิ่งที่เป็นข้อมูลข่าวสารหรือเหตุการณ์ต่าง ๆ ที่เกิดขึ้น ต้องรู้จักคิด กลั่นกรอง พิจารณาว่าสิ่งใดเป็นคุณ สิ่งใดเป็นโทษ โดยเฉพาะสิ่งใหม่ ๆ ที่เกิดขึ้นนั้นเราต้องไม่ตกเป็นเหยื่อ แต่สามารถนำมาใช้ให้เกิดประโยชน์ได้อย่างเต็มที่

นายกรัฐมนตรี กล่าวต่ออีกว่า สำหรับการ "มีจิตสาธารณะ" นั้นเป็นเรื่องที่สำคัญมากท่ามกลางการแข่งขันที่เข้มข้นรุนแรง

ถ้าแต่ละคนคิดถึงแต่ตัวเอง เราก็จะอยู่ในสังคมที่มีแต่ความเห็นแก่ตัว สุดท้ายเรื่องของส่วนรวมในสังคมและบ้านเมืองก็จะถูกละเลย คนที่อยู่ร่วมกันก็จะขาดน้ำใจไมตรี สุดท้ายก็จะกลายเป็นสังคมที่มีแต่การแก่งแย่ง มีแต่ความเลวร้ายและสุดท้ายก็ทำให้ชีวิตของทุกคนไม่มีความสุข ไม่สามารถมีคุณภาพได้ แต่ถ้าทุกคนตระหนักถึงหน้าที่ ความรับผิดชอบ มีจิตสาธารณะ คำนึงถึงส่วนรวม ร่วมใจกันรักษาสถาบันหลักของชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และวัฒนธรรม เป็นหลักชัยและรากฐานความมั่นคงและความเป็นไทยก็จะทำให้ทุกคนเติบโตขึ้นมาในสังคมที่ดีที่มีความเข้มแข็ง มีความเอื้ออาทรต่อกัน ตนจึงมอบคำขวัญ "รอบคอบ รู้คิด มีจิตสาธารณะ" ให้กับเด็กในยุคปัจจุบัน เพื่อเป็นแนวทางในการปฏิบัติตนและนำไปสู่การพัฒนาตนเองและการพัฒนาสังคมที่ดียิ่งขึ้น

"สำหรับเด็กและเยาวชนที่นำชื่อเสียงมาสู่ประเทศชาติจนได้รับรางวัลนั้น ขอให้ทุกคนภาคภูมิใจเพราะความสำเร็จดังกล่าวมาจากความขยันหมั่นเพียร ตั้งใจเรียนรู้ ฝึกฝนทักษะ การปฏิบัติตนเป็นคนดี มีคุณธรรม จริยธรรม มีความกตัญญู ทำตนให้เป็นประโยชน์ต่อสังคมและส่วนรวม ผมขอให้ทุกคนดำรงรักษาคุณความดีให้ยั่งยืนต่อไป และเชื่อว่ายังมีเด็กและเยาวชนอีกจำนวนมากที่เป็นคนดีมีความรู้ มีความสามารถแต่อาจยังไม่มีโอกาสได้รับรางวัลก็ขอเป็นกำลังใจให้กับทุกคน รัฐบาลให้ความสำคัญอย่างมากกับการพัฒนาเด็กและเยาวชนทุกคน มุ่งมั่นที่จะให้มีการพัฒนา เรียนรู้ เพิ่มศักยภาพในด้านต่าง ๆ อย่างมีคุณภาพ ต้องการเห็นบุคคลากรของประเทศมีความคิดที่ก้าวหน้า สร้างสรรค์  ใช้ชีวิตอย่างมีเหตุผลและพอเพียง และขออวยพรให้เด็กและเยาวชนทุกคนประสบแต่ความสุข ความเจริญ มีสุขภาพกาย สุขภาพใจ พลังปัญญาที่สมบูรณ์แข็งแรง เข้มแข็ง มั่นคง สามารถแก้ไขปัญหาต่าง ๆ ได้สำเร็จลุลวงได้อย่างมีประสิทธิภาพ เป็นเด็กและเยาวชนที่มีอนาคตสดใสเป็นกำลังสำคัญของชาติตลอดไป" นายกรัฐมนตรี กล่าว.


เครดิต :
เครดิต : เดลินิวส์ (อ่านความจริง อ่านเดลินิวส์)


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์