“มาร์ค-สุเทพ”ปัดข้อหาพยายามฆ่า “น้องอีซา”

วันนี้ (15 พ.ค.)  นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ให้สัมภาษณ์ในรายการฟ้าวันใหม่ ทางสถานีโทรทัศน์บลูสกายแชแนล

ถึงการเดินทางไปรับทราบข้อกล่าวหา ที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ) เมื่อวันที่ 14 พ.ค.ที่ผ่านมา กรณีเจ้าหน้าที่ยิง ด.ช.คุณากร ศรีสุวรรณ หรือน้องอีซา เสียชีวิตในเหตุการณ์รุนแรงทางการเมืองเมื่อวันที่ 15 พ.ค.2553 และข้อหาร่วมกันก่อให้ผู้อื่นพยายามฆ่าคนตายโดยเจตนาเล็งเห็นผล กรณีเจ้าหน้าที่ยิงนายสมร ไหมทอง คนขับรถตู้ได้รับบาดเจ็บสาหัส ในเหตุการณ์เดียวกับ ด.ช.คุณากร ว่า ทุกอย่างเรียบร้อย ตนและนายสุเทพ เทือกสุบรรณ ส.ส.สุราษฎร์ธานี พรรคประชาธิปัตย์ ให้การปฏิเสธเพราะในเรื่องของข้อเท็จจริงนั้นยืนยันได้ว่า คำสั่งศาลไม่ได้มีตรงไหนเลยที่พูดถึงเรื่องของการเจตนาฆ่าคน ส่วนข้อหาพยายามฆ่านั้นถือเป็นข้อหาใหม่ ทั้งนี้ตนแปลกใจในเรื่องที่บอกว่าจะให้เวลาตนกับนายสุเทพ 30 วัน ในการจัดทำคำให้การเป็นลายลักษณ์อักษร แต่กลับมีสื่อมวลชนเสนอข่าวว่า ดีเอสไอบอกจะส่งเรื่องนี้ให้อัยการได้ใน 30 วัน ตนจึงรู้สึกว่าหากทำคำให้การไปก็คงเท่านั้น เพราะคงไม่ต้องอ่านเลย เขาคงส่งให้อัยการเลย ตนก็เลย งงๆ อยู่เหมือนกัน

นายอภิสิทธิ์ กล่าวด้วยว่า ดีเอสไอทราบดีอยู่แล้วว่าตัวเองไม่มีอำนาจในการทำคดีนี้

เพราะที่บรรยายมาทั้งหมดไม่มีพฤติกรรมไหนที่เป็นเรื่องของนายอภิสิทธิ์ และนายสุเทพ กระทำการเป็นการส่วนตัวเลย ล้วนแล้วแต่เป็นเรื่องของการใช้อำนาจหน้าที่ในการออกคำสั่ง ดังนั้นการที่บรรยายข้อกล่าวหา และข้อเท็จจริง กล่าวหาว่าการกระทำผิดนี้เป็นการกระทำโดยการออกคำสั่งหรืออะไรก็ตามนั้น มันก็ต้องไปดำเนินคดีในฐานะเจ้าหน้าที่ของรัฐ แต่ดีเอสไอ จงใจหลีกเลี่ยงตรงนี้ ซึ่งเป็นการขัดต่อบทบัญญัติของกฎหมาย และน่าจะขัดต่อรัฐธรรมนูญด้วย เพราะเป็นอำนาจของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ฉะนั้นยืนยันว่าสิ่งที่ดีเอสไอทำอยู่นี้ผิดกฎหมาย เพราะแทนที่จะทำอย่างคดี 7 ตุลาฯ ของนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ อดีนายกฯ ที่ถูก ป.ป.ช.สอบ และชี้มูลความผิด หรือกรณีอื่นๆ ในเหตุการณ์ที่เทียบเคียงกันได้

ซึ่งตนจะปรึกษากับฝ่ายกฎหมายว่าจะใช้สิทธิ์ต่อสู้ทางกฎหมายอย่างไร จะต้องยื่นฟ้องเพิ่มหรือไม่ เพราะเคยยื่นฟ้องดีเอสไอ ฐานปฏิบัติหน้าที่มิชอบไปแล้ว.