มาร์ค จี้ คปค.เช็กบิลคดี แม้ว หมิ่นเบื้องสูงฯ

อภิสิทธิ์ เสนอ คปค.เร่งดำเนิน 4 คดีอดีตรัฐบาล ทักษิณ


ที่เกียวกับการทุจริตคอร์รัปชัน โดยเฉพาะคดีละเมิดสถาบันพระมหากษัตริย์ที่ถูกแจ้งความร้องทุกข์ไว้ก่อนหน้านี้ เพราะถือเป็นหนึ่งเหตุผลที่นำมาซึ่งการรัฐประหารในครั้งนี้

วันนี้ (25 ก.ย.) นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์


กล่าวเรียกร้องให้คณะกรรมการปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ให้ดำเนินการภาระกิจเร่งด่วนตามกระบวนการของกฎหมาย คือ


1.เริ่มต้นสอบสวนกรณีการทุจริตต่างๆ เช่น CTX โดยหากจำเป็นต้องมีการอายัดทรัพย์สินในชั้นนี้ ก็ดำเนินการได้แต่การยึดทรัพย์ควรให้เป็นอำนาจของศาล


2.เร่งรัดการสอบสวนต่างๆ ที่เคยถูกฝ่ายการเมืองแทรกแซง ไม่ว่าจะเป็นกรณีของกระทรวงพาณิชย์กับปัญหาการถือหุ้นแทนต่างชาติ กรมสรรพากรกับการเรียกเก็บภาษีจากการซื้อขายหุ้นในราคาต่ำกว่าตลาด ฯลฯ


3.เร่งรัดคดีที่เกี่ยวข้องกับการละเมิดสถาบันพระมหากษัตริย์ที่มีการแจ้งความไว้ ซึ่งเป็นหนึ่งในเหตุผลในการรัฐประหาร และ 4.ดำเนินคดีกับผู้ที่ใช้ความรุนแรงในทุกรูปแบบก่อนหน้านี้ ไม่ว่าจะเป็นที่เซ็นทรัลเวิลด์ อาคารเดอะเนชั่น เชียงใหม่ อุดรธานี ซึ่งถูกละเลยมา เพราะบุคคลเหล่านี้แสดงท่าทีสนับสนุนผู้มีอำนาจในขณะนั้น รวมไปถึงปัญหาการฆ่าตัดตอน การอุ้มฆ่า แม้แต่กรณีของชิปปิ้งหมู

นายอภิสิทธิ์ กล่าว


ผมเชื่อว่า การทำสิ่งเหล่านี้โดยกระบวนการที่ถูกต้องตามกฎหมาย ไม่มีเจตนาจะกลั่นแกล้งใคร จะเป็นการปรามผู้ที่คิดสร้างความวุ่นวาย และเป็นการพิสูจน์ให้เห็นถึงปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้นก่อนหน้าการปฏิรูปการปกครอง ตลอดจนเป็นการเปิดโอกาสให้คณะปฏิรูปฯ จะสามารถเริ่มผ่อนคลายการจำกัดสิทธิเสรีภาพของประชาชนทั่วไปได้ด้วยความมั่นใจมากขึ้นที่สำคัญ จะเป็นการยืนยันว่า เหตุผลที่ให้ในการรัฐประหาร มิได้เลื่อนลอย ทุกฝ่ายจะได้เดินหน้าในภารกิจสำคัญของการรื้อฟื้นความเชื่อมั่น และการปฏิรูปการเมือง เพื่อคืนอำนาจให้ปวงชนชาวไทยต่อไป

นายอภิสิทธิ์ ยังกล่าวถึงคณะกรรมการตรวจสอบทรัพย์สิน คณะรัฐมนตรี (ครม.)


พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ซึ่งมี นายสวัสดิ์ โชติพานิช เป็นประธาน ว่า ยังไม่เห็นว่าผู้แทนหน่วยงานที่จะไปร่วมเป็นใครบ้าง แต่ลำพังตัวนายสวัสดิ์เป็นที่ยอมรับ และเท่าที่ดูโครงสร้างแล้วเห็นว่ามีองค์ประกอบที่ครอบคลุม แต่ต้องให้มั่นใจว่าคนเหล่านี้ปฏิบัติหน้าที่โดยเที่ยงธรรม ไม่ช่วยใคร หรือกลั่นแกล้งใจ


ซึ่งหากพิสูจน์ตรงนี้ได้ ตนคิดว่าจะช่วยให้เกิดความเชื่อมั่นกลับคืนมา แต่ขอย้ำว่าอำนาจในการจะตัดสินใจใคร ขอให้กลับไปอยู่ที่ศาล เพื่อให้เกิดการยอมรับ เพราะในอดีตเมื่อมีการใช้อำนาจพิเศษแล้วจะมีปัญหาในภายหลัง และอาจจะเป็นที่โต้แย้ง ส่วนอำนาจการอายัด หากเห็นว่าจำเป็นก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง

นายอภิสิทธิ์ กล่าว


ผมอยากให้ทุกอย่างเป็นไปตามกระบวนการของศาล ตรงนี้จะทำให้ทุกฝ่ายยอมรับ และไม่เป็นปัญหาในภายหลัง ผมถึงบอกว่าในอดีต เช่น รสช.เคยดำเนินการ และสุดท้ายพอสถานการณ์ผ่านพ้นไป กระบวนการศาลก็มายกเลิกคำสั่งอยู่ดี และเป็นกระบวนการที่อาจจะถูกมองว่าไม่ชอบ

ขอบคุณข้อมูลและภาพจาก: ผู้จัดการออนไลน์ ( manager.co.th )

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์