มาร์ค-กรณ์โล่ง ป.ป.ช.ไม่ฟันคดีเอสเอ็มเอส สั่งสอบเพิ่มหลังถกมาราธอนกว่า 6 ชั่วโมง แถลงใหญ่วันนี้

ผู้สื่อข่าว "มติชนออนไลน์"รายงานว่า กรณีคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.)

ได้ประชุมพิจารณคดีถอดถอนนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี และ นายกรณ์ จาติกวณิช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กรณีขอให้บริษัทผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ 3 ราย ส่งข้อความสั้นหรือเอสเอ็มเอสให้กับประชาชน จำนวน 17.2 ล้านหมายเลข โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆ อันอาจเข้าข่ายความผิด พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 .มาตรา 103 ที่ห้ามมิให้เจ้าหน้าที่ของรัฐรับทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใด มูลค่าเกิน 3 พันบาท ซึ่งที่ประชุม คณะกรรมการ ป.ป.ช.ได้พิจารณาในวันที่ 15 กรกฎาคมนั้นที่ประชุมได้พิจารณาเรื่องดังกล่าวเสร็จแล้วและจะแถลงข่าวในวันที่ 16 กรกฎาคม เวลาประมาณ 10.00 น.พร้อมกับคดีอื่นที่พรรคฝ่ายค้านยื่นเรื่องให้ถอดถอนรัฐมนตรีคนอื่นอีกหลายคน อาทิ นายกรณ์ จาติกวณิช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง และนายประดิษฐ ภัทรประสิทธิ์  รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง รวมทั้งผลการทำงานของคณะกรรมการ ป.ป.ช.ในรอบ 9 เดือนด้วย 
  
แหล่งข่าวจากสำนักงาน คณะกรรมการ ป.ป.ช. เปิดเผยว่า การพิจารณาในชั้นนี้เป็นเพียงขั้นตอนการพิจารณาเบื้องต้นว่าคดีมีมูลหรือไม่เท่านั้น  ยังไม่มีผลต่อการปฏิบัติหน้าที่ของนายกฯ โดยมีแนวทางพิจารณา 3 แนวทางคือ 

1.ถ้ากรรรมการ ป.ป.ช.เห็นว่า การรวบรวมพยานหลักฐานในช่วงที่ผ่านมายังไม่ครบถ้วนสมบูรณ์ อาจมีความเห็นให้อนุกรรมการไปรวมรวมพยานหลักฐานเพิ่มเติม  หลังจากนั้นให้นำเรื่องเข้าที่ประชุมกรรมการ พิจารณาอีกครั้ง

2.ถ้ากรรมการ ป.ป.ช.เห็นว่าข้อมูลหลักฐานที่พิจารณาในวันนี้ครบถ้วนแล้ว และเห็นการส่งข้อความสั้นน่าจะเข้าข่ายกระทำความผิดตามกฏหมาย ป.ป.ช. 103 กรณีห้ามรับของขวัญของกำนัลเกิน มูลค่า 3,000 บาท  ป.ป.ช.จะต้องเรียกตัวนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ มารับทราบข้อกล่าวหา ตามกระบวนการไต่สวน และผู้ถูกร้องแก้ข้อกล่าวหา ซึ่งถ้าไต่สวนเสร็จแล้วถึงขั้นตอนลงมติชี้มูลว่า เป็นการกระทำความผิด  เมื่อถึงตอนนั้นจะต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่นายกฯทันที   และป.ป.ช.จะต้องส่งเรื่องให้อัยการฟ้องศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง เหมือนกรณีคดีซื้อที่ดินรัชดาฯ 

แนวทางที่ 3. ถ้า กรรมการ ป.ป.ช.เห็นว่าการรวบรวมข้อมูลเบื้องต้น  "ไม่มีมูล" เรื่องก็ตกไป

แหล่งข่าวจาก ป.ป.ช.เปิดเผย "มติชนออนไลน์" ว่า ในส่วนคดีถอนถอนนายกฯและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการ คณะกรรมการ ป.ป.ช.มีความเห็นให้สอบสวนเพิ่มเติม เนื่องจากสำนวนที่อนุกรรมการเสนอขึ้นมายังไม่ครบถ้วนแล้วเสนอให้ที่ประชุมพิจารณาอีกครั้ง

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า คดีนี้ที่ประชุมกรรมการ ป.ป.ช. (ป.ป.ช.ชุดใหญ่) เห็นชอบให้มีการตั้งคณะอนุกรรมการไต่สวนแบบเต็มคณะ โดยกรรมการ ป.ป.ช.ทั้ง 9 คนเป็นอนุกรรมการ โดยมีนายกล้านรงค์ จันทิก เป็นประธานอนุกรรมการไต่สวน ซึ่งในช่วงที่ผ่านมา คณะอนุกรรมการ ป.ป.ช. ยังไม่มีการเรียกนายอภิสิทธิ์ และนายกรณ์มาชี้แจงทั้งด้วยวาจาและเอกสารแต่อย่างใด

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าการประชุมพิจารณาของ คณะกรรมการ ป.ป.ช.เริ่มตั้งแต่ 10.00 น. จนถึง 13.30 น.ยังไม่แล้วเสร็จ จึงประชุมต่อในช่วงบ่าย กระทั่งมาเสร็จในช่วงค่ำซึ่งใช้เวลานานหลายชั่วโมง


คดีนี้ ส.ส.พรรคเพื่อไทย.และนายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ ส.ว.สรรหา เป็นผู้ยื่นคำร้องต่อป.ป.ช. รวม 7 คดี


เครดิต :
เครดิต :เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์มติชน


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์