มอง 111 คัมแบ๊ก ข้ามช็อต รบ.ปู อนาคต เพื่อไทย

มอง 111 คัมแบ๊ก ข้ามช็อต รบ.ปู อนาคต เพื่อไทย

ในราวเดือนพฤษภาคม 2555 สมาชิกบ้านเลขที่ 111 ที่ถูกศาลรัฐธรรมนูญพิจารณา "ตัดสิทธิทางการเมือง" เป็นเวลานาน 5 ปี อันเป็นผลเนื่องมาจากการ "ยุบพรรค" ไทยรักไทย เมื่อปี 2550 จะกลับออกมา "สูดอากาศ" ทางการเมืองอีกครั้ง

หลายคนมองว่าการเมืองจะเปลี่ยนแปลง เพราะจะได้ "มืออาชีพ" เข้ามาบริหารประเทศในนามพรรคเพื่อไทย

แต่หลายคนมองว่า จะไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงไปจนกว่าจะมีการเลือกตั้งใหม่อีกครั้ง หลังรัฐบาล "ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร" ยุบสภา หรือครบวาระ

หากมองไปที่ "มือดี" ในรัฐบาล "ยิ่งลักษณ์" จะพบว่า มีน้อยนิด

ขนาด พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ยังเปรยว่า รัฐบาลคงมี "ตัวเลือก" ไม่มากนัก

เหตุเพราะบางคนคติดโทษแบน 5 ปี

แต่บางคนที่มีความรู้ ความสามารถก็ "แหยงๆ" อำนาจนอกระบบ จะเหมารวมว่าเป็นส่วนหนึ่งของระบอบทักษิณ

เพราะฉะนั้น ภาพรัฐบาล จึงออกมาอย่างที่เห็น

ทำไมหลายคนมองว่า การกลับมาของคนบ้านเลขที่ 111 จะทำให้ภาพลักษณ์รัฐบาลเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้น

แน่นอนหากได้คนระดับนี้มาเป็นรัฐมนตรี จะช่วยเสริมสร้างประสิทธิภาพของรัฐบาลในทาง "บวก" อย่างแน่นอน

เพราะคนเหล่านี้ ล้วนเป็นกระบี่มือหนึ่งในรัฐบาล พ.ต.ท.ทักษิณ ที่ถูกเคี่ยวกรำ ปลูกฝังแนวคิดจาก พ.ต.ท.ทักษิณ แทบทั้งสิ้น

แต่หากดีดลูกคิด ดูตัวตน คนที่เหลือ ซึ่งยังคงช่วยพรรคอยู่ จะพบว่ามีอยู่ไม่กี่คน

อย่าง จาตุรนต์ ฉายแสง, วราเทพ รัตนากร, พงษ์เทพ เทพกาญจนา, ภูมิธรรม เวชชยชัย, พรหมมินทร์ เลิศสุริย์เดช, สุรนันท์ เวชชาชีวะ, เยาวภา วงศ์สวัสดิ์

รวมทั้ง "สุดารัตน์ เกยุราพันธุ์"

ไม่ต้องไปถามถึง สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รวมถึงกลุ่มเนวิน ชิดชอบ กลุ่มสมศักดิ์ เทพสุทิน กลุ่มสุชาติ ตันเจริญ ฯลฯ ที่หัวเด็ดตีนขาดคงไม่กลับมาร่วมงานกันได้อีก

ซึ่งนายใหญ่จากดูไบ ย้ำนักย้ำหนาว่า "ตายก็คงไม่เผาผีกัน"

กอปรกับ พรรคเพื่อไทย ยังอยู่ในสภาวะ "โฮม อะโลน"

ทำให้เกิดคำถามว่า "มืออาชีพ" เหล่านี้จะออกมา "เปิดหน้าชน" หรือไม่


ต้องยอมรับว่า คนเหล่านี้เคยเป็นรัฐมนตรีกันมาหมดแล้ว หลายยุคหลายสมัย อาการกระเหี้ยนกระหือรือในสภาวะการเมืองที่ยังไม่นิ่ง จึงเป็นเรื่องที่ให้ "คิดหนัก"

หลายคนยืนยันว่า ขอเป็น "ผู้อยู่เบื้องหลัง" ความสำเร็จของคนสนิทในกลุ่มจะดีกว่า

นั่นหมายความว่า คนบ้านเลขที่ 111 บางคน ต้องการอยู่เบื้องหลัง มากกว่าที่จะเปิดหน้าในสภาวะที่การเมืองยังไม่แน่นอน

จึงมีความเป็นไปได้ว่า การกลับมาของคนบ้านเลขที่ 111 รัฐบาลยิ่งลักษณ์ อาจจะ "พึ่งพา" ในฐานะ "นักคิด" มากกว่าจะให้เป็น "นักปฏิบัติ"

ซึ่งจะช่วยประคับประคองรัฐบาลให้เดินหน้าไปอย่างตลอดรอดฝั่ง

และอาจเป็นอย่างที่หลายคนมองว่า คงไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงไปจนกว่าจะเลือกตั้งใหม่

เพราะหากมององค์ประกอบทางการเมือง หลายฝ่ายมองว่า รัฐบาลยิ่งลักษณ์ อยู่ได้ และสามารถเดินหน้าไปได้แบบเรื่อยๆ ไม่หวือหวา

ท่ามกลาง "ความอ่อนแอ" ของฝ่ายตรงข้าม

ไม่ว่าจะเป็น กองทัพ ที่ถูกมองว่าเป็น "ศัตรูหมายเลข 1" ของรัฐบาลที่อยู่ภายใต้การกำกับดูแลของเทรนเนอร์ "ทักษิณ"

แต่ด้วยบาดแผลที่เกิดขึ้นจากการปฏิวัติ 19 กันยายน 2549 เรื่อยมาจนถึงความขัดแย้งจนนองเลือดเมษายน-พฤษภาคม 2553 "คนในกองทัพ" ล้วนเกี่ยวข้องและสร้าง "บาดแผล" ให้สังคมทั้งสิ้น

จะเห็นว่าหลังเลือกตั้งเสร็จสิ้น "ผู้มีอำนาจในกองทัพ" แม้จะมีแนวคิดทางการเมืองที่แตกต่างจากรัฐบาลปัจจุบัน จำต้องถอยไปหลบอยู่ด้านหลัง ไม่สบตา ไม่ปรากฏกาย

ที่สามารถกู้ภาพขึ้นมาได้ในระดับหนึ่ง คือการช่วยเหลือประชาชนที่ประสบภัยน้ำท่วม

5 ปีที่ผ่านมา คนในกองทัพคงได้รับบทเรียนจากการกลายเป็น "เครื่องมือ" ของกลุ่มผู้แสวงหาอำนาจทางการเมืองมาแล้วไม่มากก็น้อย

เชื่อว่าจุดนี้คือ "บาดแผลในใจ" ที่กองทัพจะขยับเขยื้อนอะไรไม่ได้มาก

ไม่ต้องพูดถึง "ม็อบเสื้อเหลือง" หรือแม้แต่พรรคฝ่ายค้านอย่างพรรคประชาธิปัตย์ ที่ตกอยู่ในสภาพอ่อนแอ เช่นเดียวกัน


ดังนั้น รัฐบาลยิ่งลักษณ์ไม่จำเป็นต้อง "ปรับใหญ่" เพื่อต่อสู้ทางการเมือง

เพียงแค่อาศัยประคับประคองให้เดินไปได้เรื่อยๆ

และการกลับมาของคนบ้านเลขที่ 111 คงไม่มีผลมากนักต่อรัฐบาลยิ่งลักษณ์ในระยะใกล้ คงต้องรอให้มีการเลือกตั้งใหม่อีกครั้ง

นั่นแหละ การเมืองจะกลับมามีสีสันอีกครั้ง

เครดิต :
เครดิต :เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์มติชน


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์