มนต์ดำจากโกเต๊กซ์ของโกตั๊บถึงเลือดสาดแดงทั้งแผ่นดิน

โดย ชฎา ไอยคุปต์

เรื่องของอาถรรพ์ มนต์ขาว มนต์ดำ เรื่อง "ไสยศาสตร์ ฮวงจุ้ย" เข้ามามีอิทธิต่อการเมืองไทยในการสาดกระสุนความเชื่อเข้าใส่กันด้วยพิธีกรรมต่างๆ อันส่งผลในทางบวกหรือลบ ส่งเสริมคนเองหรือทำให้ฝ่ายตรงข้ามเสื่อมลง


พิธีกรรมความเชื่อเหล่านี้เข้ามามีอิทธิพลต่อการเมืองไทยเป็นอย่างมากในการต่อสู้ทั้งในทางลับและที่แจ้ง อันแสดงให้ปรากฎเห็นกันบ่อยครั้ง อาจจะเป็นเรื่องบังเอิญหรือตั้งใจสุดแล้วแต่ใครจะคิดเห็นและตีความใส่ร้ายกัน ส่วนอีกฝ่ายก็ต้องหาทางแก้เคล็ดป้องกันศาสตร์มืดกลายเป็นอาวุธโจมตีกันราวกับอยู่ในโลกแห่งไสยเวทย์ ร่ายอาคม มนต์คาถา สะกดจิต เสกหนังควายเข้าท้อง


เหมือนกับวรรณคดีพื้นบ้านของไทยที่มีพ่อมด หมอผี เป็นจอมขมังเวทย์ หรือวรรณคดีเรื่อง "ขุนช้าง ขุนแผน"  โดยเฉพาะ"ขุนแผน"ผู้มีเวทย์เป่าคาถา "มหาละลวย" ไปที่ "นางวันทอง" จนยอมเก็บเสื้อผ้าหนี"ขุนช้าง"ตามขุนแผนไป แล้วยังร่ายมนต์วิเศษกำบังนางวันทองไว้ไม่ให้ใครเห็น ถอนหญ้าแพรกมาแล้วเสกเป็นคนได้อีก เอาชนะ "ขุนช้าง"ทั้งเรื่องรบและเรื่องรักผู้ด้อยวิชาอาคม
 

การต่อสู้ของนักเคลื่อนไหว นักการเมืองมีการอิงเรื่องศาสตร์ของ "ฮวงจุ้ย" เอามาเป็น เกราะ โล่ กำบังสิ่งชั่วร้ายหาสิ่งศักดิ์สิทธิ์มาคุ้มครองอีกชั้น ขณะเดียวกันก็พึ่ง "ไสยศาสตร์" หวังจะได้เป็นคมหอกคมดาบทิ่มแทงศัตรูให้พังพินาศไป


เช่นเดียวกับสถานการณ์การเมืองที่เดือดเลือดผล่านอยู่ในขณะนี้ หลังที่กลุ่มคนเสื้อแดงที่สนับสนุนพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ออกมาชุมนุมเคลื่อนไหวขับไล่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ นายกรัฐมนตรี ให้ยุบสภาเพื่อเลือกตั้งใหม่ แต่ดูท่าทีนายอภิสิทธิ์จะไม่ยอมง่ายๆ จึงใช้วิธี "หลั่งเลือดทาแผ่นดิน" เป็นสัญลักษณ์การประกาศสงครามมวลชนที่พร้อมสละเลือด  จากนั้นผู้ชุมนุมนำเลือดมาเทรวมกันเพื่อไปราดสกัดทุกที่ที่นายกฯผ่าน โดยมีพรามหณ์เป็นผู้ประกอบพิธีกรรมร่ายคาถาก่อนเทราดลงพื้น จะด้วยคาถาอาถรรพ์หรืออะไรก็แล้วแต่ การหลั่งเลือดชะโลมแผ่นดินครั้งนี้ส่งผลให้ภาพการประท้วงขจรไกลไปทั่วโลก  


นอกจากนี้การสละเลือดยังลุกลามไปทั่วประเทศเมื่อกลุ่มคนเสื้อแดงในต่างจังหวัดสละเลือด นำไปละเลงใส่สถานที่ราชการและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ในอีกหลายแห่ง



จะบังเอิญหรือจงใจก็สุดแล้วแต่เสื้อแดงจะคิดลงมือทำนำเลือดสดๆไปเทราดสาดใส่ที่ทำการพรรคประชาธิปัตย์ อันมี "พระแม่ธรณีบีบมวยผม" สิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่พรรค จึงมีการจัดกำลังอารักขาองค์พระแม่ธรณีห้ามเสื้อแดงเล็ดลอดเข้ามาสาดเลือดเด็ดขาด พร้อมทั้งนำผ้าใบผืนใหญ่มาคลุมปิดทับอีกชั้น ซึ่งเสื้อแดงก็ทำได้เพียงแค่เทลงบนพื้นหน้าที่ทำการพรรค 


วันุร่งขึ้นบรรดาแกนนำพรรคซึ่งนำโดยนายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการพรรคฯได้เป็นประธานนำเครื่องเซ่นไหว้มาสักการะเพื่อขอขมา "พระแม่ธรณีบีบมวยผม"เป็นการใหญ่ ซึ่งมวยผมที่บีบจะเห็นว่าเป็นมี"สีแดง"พันอยู่ ซึ่งนายเทพไท เสนพงศ์ โฆษกส่วนตัวนายอภิสิทธิ์ เคยบอกว่า  เป็นความเชื่อของแต่ละคนไม่ได้คิดว่าสีดำหรือสีแดงเป็นการแก้เคล็ด เพราะผู้ที่ดูแลองค์พระแม่ธรณีจะเป็นคนเปลี่ยนเครื่องทรง สีผม ให้ดูทันสมัย เปลี่ยนโฉมใหม่ในโอกาสครบรอบ 63 ปี พรรคประชาธิปัตย์ จนถึงขณะนี้พระแม่ธรณียังคงบีบมวยผมแดง มาเกือบครบ 1 ปีแล้ว
 

"ไม่เชื่อก็อย่าลบหลู่ความเชื่อถือศรัทธาของระดับผู้นำประเทศ"

ทางฝากพรรคไทยรักไทยที่เคยรุ่งเรืองในสมัย พ.ต.ท.ทักษิณ ยังเป็นนายกรัฐมนตรีนั้น มีความเชื่อเรื่องฮวงจุ้ยไม่แพ้กัน หลังจากที่ย้ายที่ทำการพรรคไปใช้ตึกที่ถนนเพชรบุรีฯ ซึ่งมีการวิเคราะห์ไว้ว่า ทิศทางของตึกไม่ดี หมดยุคความรุ่งเรือง เมื่อเข้าไปอยู่แล้วจะแตกแยกและเสื่อมลงเรื่อย ๆ ซึ่งก็มีการพยายามแก้เคล็ด ติดผ้าสีขาว ตั้งพระภูมิเจ้าที่ใหม่  นำสิงห์คู่มาวางหน้าอาคาร แต่ก็เป็นการแก้ไม่ถูกจุด ไม่ถูกหลักวิชาฮวงจุ้ย จนต้องมีการย้ายอีกครั้ง จากตึกไอเอฟ ซีทีย่านถนนเพชรบุรีตัดใหม่ เปลี่ยนไปอยู่ที่เลขที่ 111/1 ชั้น 1 อาคารนวสร ถนนพระราม 3 เขตบางคอแหลม


อีกหนึ่งสัญลักษณ์พิธีกรรมสุดฮิต "การสาปแช่ง" ด้วยการเผาพริกเผาเกลือเป็นพิธีกรรม และความเชื่อพื้นบ้าน โดยมีความเชื่อว่าทั้งพริกและเกลือ เป็นของรักของหวงสำหรับคนโบราณ ถือว่าเป็นของศักดิ์สิทธิ์ประจำบ้าน การนำพริกกับเกลือมาเผา หมายถึง เป็นการเกลียดชัง ชนิดเรียกว่า ตายไปก็ไม่ร่วมเผาผีกันเลยทีเดียว


ก่อนจะเผานั้น จะมีการบวงสรวงดวงวิญญาณและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ให้มาเป็นสักขีพยาน สิ่งหนึ่งที่ขาดไม่ได้ คือ ต้องดูฤกษ์อัปมงคลสำหรับผู้ถูกกระทำ หรือเรียกว่า "ฤกษ์ที่ใช้กระทำย่ำยี"


หลังจากที่กลุ่มคนเสื้อแดงได้ชี้แจงแถลงไขประกาศว่าไม่เอารัฐบาลและกลุ่มอำมาตย์ เรียกร้องให้ยุบสภาแต่เมื่อไม่ได้ดั่งใจ จึงเกิดความเคียดแค้น ชิงชัง ไม่พอใจ ใช้วิธีการสาปแช่ง ด้วยการเผาพริกเผาเกลือ อย่างน้อยก็เป็นการระบายความคับแค้นในใจให้คลายลงไปบ้าง


สลับไปที่เสื้อเหลือง ของ กลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย เมื่อครั้งที่ออกมาเรียกร้องขับไล่รัฐบาลพ.ต.ท.ทักษิณ ตามมาไล่รัฐบาลนายสมัคร สุนทรเวช และนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ นำโดยนายสนธิ ลิ้มทองกุล มีชื่อจีนว่า "โกตั้บ แซ่ลิ้ม"  แกนนำพันธมิตรฯลุกขึ้นมานุ่งขาวห่มขาวเสมือนผู้ทรงศีลพรมน้ำมนต์ทำพิธีสะเดาะเคราะห์ปัดรังควานไล่สิ่งอัปมงคลและสิ่งไม่ดีต่างๆ ให้พ้นไปจากทำเนียบรัฐบาล ให้แก่ผู้ชุมนุมภายในทำเนียบรัฐบาล


นายสนธิ ยังมีพระดีคอยคุ้มครองหนังเหนียวยิงไม่เข้า รอดตายจากห่ากระสุนกระหน่ำนับร้อยนัดแต่ไม่เสียชีวิต


อีกหนึ่งกรณีที่แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยนำผ้าอนามัยของผู้หญิงที่ใช้แล้วไปวางไว้หน้าลานพระบรมรูปทรงม้ารัชกาลที่ 5 ซึ่งเชื่อกันว่าเป็นพิธีกรรมแก้เคล็ด โดย พล.อ.พัลลลภ ปิ่นมณี  อดีตรองผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน (กอ.รมน.) ออกมาบอกว่าในฐานะที่เป็นนักเรียนโรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า ซึ่งเป็นทหารที่ก่อตั้งโดยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว อันเป็นที่เคารพบูชาของทหารทุกคน   เรื่องอย่างนี้เป็นเรื่องที่ถือมาก เพราะไม่ถูกต้อง และเสียใจสุดๆ 
 
หลังจากกลุ่มพันธมิตรฯ เคลื่อนออกจากทำเนียบเจ้าหน้าที่ทำเนียบฯ พบว่า มีการทำพิธีทางไสยศาสตร์สะกดและข่มสิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำทำเนียบ ทั้งปืนใหญ่บริเวณหน้าตึกไทยคู่ฟ้า ท้าวมหาพรหมบนหลังคาตึกไทยคู่ฟ้า ที่มีการควักดวงตาออกไปจนหมดทั้ง 4 หน้า  นอกจากนี้ ยังพบเครื่องไสยศาสตร์ตามจุดต่างๆ โดยรอบทำเนียบ อีกประมาณ 10 จุด จากนี้ไปเจ้าหน้าที่จะหาโอกาสทำพิธีแก้ทางพิธีพราหมณ์ เพื่อแก้ไขที่มีการทำไว้ให้เป็นสิริมงคลต่อไป


กระทั่งพระราชครูวามเทพมุนี หัวหน้าพราหมณ์เทวสถานโบสถ์พราหมณ์ ออกมายืนยันว่า ท้าวมหาพรหมบนตึกไทยคู่ฟ้า ที่ถูกดีควักดวงเนตรออกทั้ง 4 ทิศ  ไม่อยากให้ประชาชนตื่นตระหนก เพราะท้าวมหาพรหมเป็นเทพที่ศักดิ์สิทธิ์ เป็นผู้สร้างโลกและมีเมตตา มุทิตาและอุเบกขาต่อมวลมนุษย์ การกระทำที่เกิดขึ้นไม่ทำให้ความศักดิ์สิทธิ์ของพระองค์ลดลง

ต้องยอมรับว่าศึกครั้งนี้ "เสื้อเหลือง" เป็นฝ่ายกำชัยร่ายมนต์คาถาเรียกรถถังออกมาขับไล่และยึดอำนาจจาก พ.ต.ท.ทักษิณได้สำเร็จแถมยังไล่บรรดานอมินีออกจากเก้าอี้นายกฯได้ต่ออีกถึง 2 รัฐบาล  บางที "เสื้อแดง" อาจจะต้องไปเรียนวิชาศาสตร์มืดเพิ่มเติมเพื่อข้อเรียกร้องจะได้บรรลุผลเช่นเดียวกับพันธมิตรบ้าง



เครดิต :
เครดิต :เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์มติชน


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์