มนตรีอ้างเบื้องสูงบีบ2รัฐมนตรี ตั้งตัวเองเป็นบอร์ดปตท.-กสท.

มนตรีอ้างเบื้องสูงบีบ2รัฐมนตรี ตั้งตัวเองเป็นบอร์ดปตท.-กสท.

11 มิ.ย. 58 เมื่อเวลา 10.00 น. ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) พ.ต.อ.อัคราเดช พ.ต.ท.ต่อศักดิ์ สุขวิมล รักษาการ ผกก.ปพ.บก.ป.พร้อมกำลังตำรวจคอมมานโดได้ควบคุมตัว นายมนตรี โสตางกูร หรือหลุยส์ อายุ 54 ปี ตำแหน่งกรมวังผู้ใหญ่ สำนักพระราชวัง อดีตกรรมการบอร์ดการปิโตรเลี่ยมแห่งประเทศไทย หรือ ปตท. ตามหมายจับศาลอาญากรุงเทพใต้ ที่ จ.288/2558 และ ที่ จ.289/2558 ลงวันที่ 8 มิถุนายน 2558 ข้อหาหมิ่นประมาท ดูหมิ่นรัชทายาท (หมิ่นพระบรมเดชานุภาพ) , เป็นเจ้าพนักงานใช้อำนาจในตำแหน่งโดยมิชอบ ข่มขืนใจหรือจูงใจเพื่อให้บุคคลใดมอบให้ หรือหามาซึ่งทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใดแก่ตนเองหรือผู้อื่น , เป็นเจ้าพนักงานเรียกรับ หรือยอมรับทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใดสำหรับตนเองหรือผู้อื่นโดยมิชอบ เพื่อกระทำการหรือไม่กระทำการใดในตำแหน่ง ไม่ว่าการนั้นจะชอบหรือมิชอบด้วยหน้าที่ , เป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติ หรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบเพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือ ปฏิบัติ หรือ ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริตตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112, 148, 149, 157 มาส่งมอบให้ พล.ต.ท.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (ผบช.น.) โดยมี พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผบ.ตร.ร่วมรับมอบตัว
 
พล.ต.อ.สมยศ กล่าวว่า วันนี้เจ้าหน้าที่กองปราบได้จับกุม นายมนตรี ตามหมายจับของศาลอาญา และศาลอาญากรุงเทพใต้ รวม 4 หมายจับ แล้วนำตัวมาส่งมอบให้พนักงานสอบสวน บช.น.ในฐานะเจ้าของคดี เพื่อดำเนินคดีต่อไป ส่วนตำรวจจะคัดค้านการประกันตัวผู้ต้องหาหรือไม่นั้นก็ให้เป็นไปตามเงื่อนไขในกฎหมาย ซึ่งผู้ต้องหาอาจหลบหนี หรือไปยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐานได้ ส่วนจะมีการขยายผลไปถึงผู้ใดหรือไม่นั้นต้องรอฟังผลการสอบสวนก่อน และหากพบว่าคดีนี้เข้าข่ายมูลฐานความผิดตาม พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินก็จะต้องดำเนินการตามกฎหมายต่อไป โดยเจ้าหน้าที่จะตรวจสอบว่าทรัพย์สินที่ได้มาจากการกระทำความผิดหรือไม่
 
ด้าน พล.ต.ท.ศรีวราห์ กล่าวว่า เมื่อวันที่ 5 มิ.ย.ที่ผ่านมา พ.อ.วิจารณ์ จดแตง นายทหารพระธรรมนูญ ได้มาพบพนักงานสอบสวน บช.น.เพื่อแจ้งความดำเนินคดีกับ นายมนตรี ตามความผิดข้อหาหมิ่นเบื้องสูง, เป็นเจ้าพนักงานเรียกรับสินบน, เป็นเจ้าพนักงานจูงใจหรือข่มขืนใจให้บุคคลอื่นให้สินบน, เป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112, 148, 149 และ 157 และ พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 มาตรา 123 และ123/1 โดยพบการกระทำความผิดใน 4 ท้องที่ได้แก่ สน.บางซื่อ สน. ทุ่งสองห้อง สน.บางรัก และ สน.ทองหล่อ ซึ่งได้นำตัว นายมนตรี  ไปให้แพทย์ตรวจร่างกายและพบว่ามีร่างกายปกติ
 
พล.ต.ท.ศรีวราห์ กล่าวต่อว่า จากนั้นจะได้นำตัว นายมนตรี ไปให้พนักงานสอบสวนสอบปากคำต่อที่ บช.น. คาดว่าจะใช้เวลาตลอดทั้งวันเนื่องจากมี 4 หมายจับ ส่วนจะให้การอย่างไรก็ขึ้นอยู่กับผู้ต้องหา หากให้การรับสารภาพก็จะมีการทำแผนประกอบการรับสารภาพ คาดว่าพรุ่งนี้จะนำตัวไปฝากขังที่เรือนจำ รวมทั้งจะทำหนังสือไปยังสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เนื่องจากเป็นคดีที่ข้าราชการทุจริต เพื่อขอสำนวนกลับมาให้พนักงานสอบสวนดำเนินการส่วน ป.ป.ช.จะให้หรือไม่ก็แล้วแต่ ทั้งนี้คาดว่าจะสามารถสรุปสำนวนได้สัปดาห์หน้า
 
ทั้งนี้ ขณะที่ นายมนตรี ดำรงตำแหน่งกรมวังผู้ใหญ่ ประจำพระองค์อดีตพระวรชายาฯ ได้แอบอ้างเบื้องสูงและใช้ตำแหน่งหน้าที่ซึ่งบุคคลทั่วไปเข้าใจว่าเป็นเช่นนั้นไปแสวงหาผลประโยชน์เพื่อตนเองและพวกพ้อง โดยนายมนตรีได้แอบอ้างตัวเองว่าเป็นคนรับใช้ใกล้ชิดในสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร ไปขอให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร แต่งตั้งตนเองให้เป็นกรรมการในการปิโตรเลียมแห่งประเทศไทย และการสื่อสารแห่งประเทศไทย การกระทำของนายมนตรีนั้นเป็นการแอบอ้างทำให้ผู้อื่นหลงเชื่อว่านายมนตรีเป็นคนของพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร
 
อย่างไรก็ดี พนักงานสอบสวนได้มีการเชิญนายพิชัย นริพทะพันธุ์ อดีต รมว.กระทรวงพลังงาน และ น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ อดีต รมว.กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร มาให้ข้อมูลถึงสาเหตุที่รัฐมนตรีทั้งสองได้ตั้งนายมนตรี ไปดำรงตำแหน่งเป็นกรรมการในรัฐวิสากิจทั้งสองแห่ง เพราะเชื่อหรือหลงเชื่อว่าสิ่งที่นายมนตรีกล่าวอ้างเป็นความจริง พฤติกรรมของนายมนตรี จึงมีความผิดฐานหมิ่นสถาบันเบื้องสูงตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์