มติศาลรัฐธรรมนูญรับคดี 32 ส.ส. ถือหุ้นสื่อ รับพิจารณาแล้ว!

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติรับคำร้องคดีสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) จำนวน 32 คน ถือหุ้นในธุรกิจสื่อมวลชนไว้พิจารณาและส่งสำเนาให้ผู้ถูกร้องยื่นคำชี้แจงแก้ข้อกล่าวหาภายใน 15 วันนับแต่วันที่ได้รับสำเนาคำร้อง

อย่างไรก็ตามศาลรัฐธรรมนูญไม่ได้มีมติให้ ส.ส. กลุ่มนี้หยุดปฏิบัติหน้าที่จนกว่าศาลจะมีคำวินิจฉัย เหมือนกรณีนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ส.ส. แบบบัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ (อนค.) ที่อยู่ระหว่างถูกตรวจสอบกรณี "โยกหุ้น" ในธุรกิจสื่อเช่นกัน โดยให้เหตุผลว่า "ไม่เข้าเงื่อนไขที่จะสั่งให้ผู้ถูกร้องทั้ง 32 คนหยุดปฏิบัติหน้าที่" ส่วน ส.ส. อีก 9 คน ศาลไม่ได้รับคำร้องไว้พิจารณาวินิจฉัย ในจำนวนนี้มี น.ส. ปารีณา ไกร์คุปต์ ส.ส. ราชบุรี พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) รวมอยู่ด้วย

คดีนี้ นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการพรรคอนาคตใหม่ (อนค.) กับพวก เป็นผู้ยื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญผ่านประธานสภาผู้แทนราษฎร เมื่อ 4 มิ.ย. เพื่อขอให้วินิจฉัยสมาชิกภาพของ ส.ส. ทั้ง 41 คน โดยใช้สิทธิตามมาตรา 82 ของรัฐธรรมนูญฉบับปี 2560 ต่อมาวันที่ 12 มิ.ย. นายชวน หลีกภัย ประธานสภา ได้ส่งคำร้องต่อไปยังศาลรัฐธรรมนูญ

ตามรัฐธรรมนูญฉบับปี 2560 มาตรา 98 (3) และพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ (พ.ร.ป.) ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. มาตรา 42 (3) กำหนดห้ามมิให้ผู้สมัคร ส.ส. "เป็นเจ้าของหรือผู้ถือหุ้นในกิจการหนังสือพิมพ์หรือสื่อมวลชนใด ๆ"

สำหรับ ส.ส. 41 คน ที่ถูกฝ่ายค้านยื่นตรวจสอบล้วนมาจากพรรคร่วมรัฐบาล ประกอบด้วย พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) 27 คน, พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) 10 คน, พรรครวมพลังประชาชาติไทย (รปช.), พรรคภูมิใจไทย (ภท.) พรรคชาติพัฒนา (ชพน.) และพรรคประชาภิวัฒน์ พรรคละ 1 คน

ในจำนวนนี้มีอย่างน้อย 3 คน จาก 3 พรรค ที่มีชื่อปรากฏในโผคณะรัฐมนตรี (ครม.) "ประยุทธ์ 2/1" ตามการรายงานข่าวของสื่อมวลชนหลายสำนักคือ นายณัฎฐพล ทีปสุวรรณ ส.ส. บัญชีรายชื่อ พปชร., นายสาธิต ปิตุเตชะ ส.ส. ระยอง ปชป. และ ม.ร.ว. จัตุมงคล โสณกุล ส.ส. บัญชีรายชื่อ รปช.

นอกจากกรณีนายธนาธร และ 41 ส.ส. พรรคร่วมรัฐบาล นักการเมืองสังกัด พปชร. ยังเตรียมยื่นคำร้องขอให้ตรวจสอบการถือหุ้นสื่อของ 55 ส.ส. ใน 7 พรรคฝ่ายค้าน ขณะเดียวกันสมาชิก พท. ยังเข้ายื่นหนังสือต่อคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ขอให้ตรวจสอบสมาชิกภาพของ 21 สมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) ที่อาจต้องสิ้นสุดลงแล้ว เนื่องจากเป็นเจ้าของหรือผู้ถือหุ้นในกิจการหนังสือพิมพ์หรือสื่อมวลชน ถึงขณะนี้จึงมีสมาชิกรัฐสภาอยู่ในข่ายถูกตรวจสอบ/กำลังถูกตรวจสอบถึง 118 คน จากทั้งหมด 750 คน