ภราดรชี้จับสุเทพทันทีถ้ามีโอกาส

ภราดรชี้จับสุเทพทันทีถ้ามีโอกาส

"เลขาสมช." ชี้จับ "สุเทพ" ทันทีหากสภาพแวดล้อมเป็นใจ หวังม็อบชาวนาไม่รวมกับ กปปส. เชื่อแยกแยะความเดือดร้อนออก

วันที่ 11 ก.พ.57  เมื่อเวลา 08.50 น. ที่กองบัญชาการกองทัพอากาศ (บก.ทอ.) พล.ท.ภราดร พัฒนถาบุตร เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) กล่าวก่อนการประชุมคณะรัฐมนมตรี(ครม.) ถึงสถานการณ์การชุมนุมของกปปส. ว่า สถานการณ์การชุมนุมยังคงเข้มข้นต่อไป จึงต้องอยู่ในสภาวะที่จะต้องเร่งประชาสัมพันธ์ทำความเข้าใจกับประชาชนเพื่อให้รู้เท่าทันสถานการณ์และหาทางออกได้ 

ส่วนการจับกุมแกนนำกปปส. นั้นจะต้องทำอย่างต่อเนื่อง เพราะเป็นการปฏิบัติตามหน้าที่อยู่แล้ว

ส่วนการประกันตัวนายสนธิญาณ ชื่นฤทัยในธรรม แกนนำกปปส.ต้องขึ้นอยู่กับพนักงานสอบสวนที่มีอำนาจตามพระราชกำหนดบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน (พ.ร.ก.ฉุกเฉิน) ที่สามารถควบคุมได้ภายใน 7 วัน แต่หากสอบสวนยังไม่แล้วเสร็จ ก็สามารถขออนุมัติต่อศาลได้ 7 วัน แต่ทั้งหมดต้องไม่เกิน 30 วัน 

พล.ท.ภราดร กล่าวด้วยว่า ขณะที่แผนการจับกุมนายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการกปปส. ขณะนี้ได้มีการติดตามอยู่ตลอดอย่างใกล้ชิด แต่ก็ต้องขึ้นอยู่กับสถานการณ์และสภาพแวดล้อม หากเอื้อต่อการจับกุมก็จะดำเนินการทันที
"แต่ขณะนี้จะต้องเฝ้าระวังเพื่อไม่ให้กลุ่มชาวนามาร่วมชุมนุมกับกลุ่มกปปส. เชื่อมั่นว่าพี่น้องชาวนาสามารถแยกแยะออก เพราะที่ผ่านมากลุ่มชาวนาค่อนข้างเข้าใจประเด็นที่เรียกร้องเป็นคนละเรื่องกัน ซึ่งรัฐบาลได้พยายามทำความเข้าใจมาโดยตลอด"เลขาสมช. กล่าว

เมื่อถามถึงกระแสข่าวกองกำลังภายนอกที่จะนำอาวุธร้ายแรงมาใช้ในพื้นที่ พล.ท.ภราดร กล่าวว่า

ตนยอมรับว่ากังวลในเรื่องดังกล่าว แต่เมื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงจากกองอำนวยรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) และกองทัพยืนยันว่ายังไม่มีกองกำลังภายนอกเข้ามาเกี่ยวข้อง ส่วนอาวุธหนักที่หายไปจะมีการนำมาใช้หรือไม่นั้น อยู่ระหว่างการสืบสวน ซึ่งขณะนี้ยังไม่ปรากฎข้อเท็จจริงเพียงพอ ส่วนกรณีการปะทะที่เขตหลักสี่นั้นขณะนี้มีความคืบหน้า แต่ต้องใช้กระบวนการทางนิติวิทยาศาสตร์ในการพิสูจน์ทราบ ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าวยังไม่มีความชัดเจนว่าจะเกี่ยวข้องกับคนมีสีหรือไม่
ผู้สื่อข่าวถามว่า วันนี้จะมีการเปิดรายชื่อนายทุนที่เป็นท่อน้ำเลี้ยงให้กับกลุ่มผู้ชุมนุมกปปส. พล.ท.ภราดร กล่าวว่า ในกระบวนการทางธุรการได้ดำเนินเสร็จแล้ว แต่เรื่องดังกล่าวขึ้นอยู่กับนายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ)

ต่อข้อถามที่ว่าฝ่ายความมั่นคงมีการประเมินการก่อเหตุรุนแรงในช่วงนี้อย่างไร

พล.ท.ภราดร กล่าวว่า เมื่อมีการชุมนุมและมีภาคการเมืองเข้ามาเกี่ยวข้อง และขณะนี้มีการร่วมกันหลายฝ่าย ดังนั้นความสุ่มเสี่ยงที่จะมีมือที่สามแฝงตัวเข้ามาในกลุ่มผู้ชุมนุมเพื่อพยายามทำให้เกิดความรุนแรง ส่งผลให้สถานการณ์เปลี่ยนแปลง เราจึงต้องเฝ้าระวังต่อไป

ส่วนที่ภาคธุรกิจและเอกชนต้องการให้ยกเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ เพราะกระทบต่อเศรษฐกิจภาพร่วมนั้น รัฐบาลมีการพิจารณาอย่างชัดเจนอยู่แล้วว่าถ้าสถานการณ์คลี่คลายก็สามารถยกเลิกได้ทันที แต่ตอนนี้ยังมีความจำเป็นอยู่

เมื่อถามว่าการชุมนุมจะยืดเยื้อหรือไม่ พล.ท.ภราดร กล่าวว่า คงจะประเมินค่อนข้างยาก แต่ก็จะใช้การเจรจาตามนโยบายสันติวิธีเพื่อหาทางออก

พล.ท.ภราดร กล่าวถึงกรณีเหตุความรุนแรงในภาคใต้ อาจมีการมองว่ารัฐบาลให้ความสำคัญกับการชุมนุมในกรุงเทพฯ จนไม่มีการดูแลพื้นที่ภาคใต้ว่า เรามีการแยกแยะและดูแลอย่างชัดเจน ด้านหน่วยงานความมั่นคงก็ดูแลอย่างเต็มที่ ส่วนเป้าหมายที่เปลี่ยนไปเป็นโรงเรียนและเด็กนั้น เราได้ติดตามสถานการณ์มาโดยตลอด ซึ่งตนยืนยันว่ากอ.รมน. 4 ส่วนหน้า ได้ดูแลรักษาความปลอดภัยอย่างเข้มข้นให้ประชาชน ส่วนการเจรจากับกลุ่มบีอาร์เอ็นยังคงดำเนินต่อไป


เครดิต :
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดยหนังสือพิมพ์คมชัดลึก

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์