ฟิวส์ขาดนายอำเภออัดม็อบปิดถนน(มีคลิป)

นายอำเภอสมเด็จโมโหถูกม็อบปิดถนนขว้าง ฉุนจัดกระโดดถีบผรท.กระเจิง แกนนำสั่งถอยหวั่นเหตุร้าย

ผู้ สื่อข่าวรายงานว่าเมื่อเวลา 12.00 น.วันที่ 5 เม.ย. กลุ่มผู้ร่วมพัฒนาชาติไทย (2) หรือ ผรท.4 ภาค นำโดย นายบุญใส ก้อนดินจี่ แกนนำกลุ่มผู้ร่วมพัฒนาชาติไทย (2) 4 ภาค ได้นำกลุ่มผู้ร่วมพัฒนาชาติไทย จ.กาฬสินธุ์ สกลนคร และนครพนม จำนวนกว่า 500 คน ทำการปิดถนนบริเวณสี่แยกอำเภอสมเด็จ จ.กาฬสินธุ์ เพื่อประท้วง นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี และ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายความมั่นคง โดยอ้างปัญหาความเดือดร้อนที่รัฐบาลไม่สนใจการจ่ายเงินชดเชยค่าประกอบอาชีพ ให้กับผู้ร่วมพัฒนาชาติไทย ที่ตกค้างใน จ.กาฬสินธุ์ สกลนคร ยโสธร นครพนม อุดรธานี หนองบัวลำภู และมุกดาหาร หลังทั้งหมดผ่านการพิจารณาคัดกรองไปแล้ว แต่ยังไม่ได้รับเงินช่วยเหลือแม้แต่รายเดียว โดยการปิดถนนส่งผลให้รถยนต์ที่จะเดินทางไปจังหวัดสกลนคร และจังหวัดมุกดาหาร ไม่สามารถเดินทางได้
 
ทั้งนี้ ในระหว่างที่กลุ่มผู้ชุมนุมกำลังปิดถนน และแกนนำกำลังกล่าวปราศรัยอยู่นั้น นายรักษ์ ลี้ทรงศักดิ์ นายอำเภอสมเด็จ จ.กาฬสินธุ์ ซึ่งแต่งกายชุดข้าราชการสีกากี ได้ขับรถยนต์ประจำตำแหน่งบีบแตรขับฝ่าด่านผู้ชุมนุมเข้ามา พร้อมตระโกนด่า และลงจากรถกระโดดถีบกลุ่มผู้ชุมนุม จนเกิดเหตุการณ์ชุลมุน ท่ามกลางบรรยากาศที่ตกตะลึงของชาวบ้าน ซึ่งเจ้าหน้าที่ อส. ตำรวจ ได้พยายามแยกตัวนายอำเภอสมเด็จออกไป โดยหลังจากเกิดเหตุการณ์ แกนนำได้ประกาศยุติการชุมนุมทันที เพราะเกรงว่าจะเกิดเหตุร้าย พร้อมนัดมาร่วมตัวกันอีกครั้งในวันที่ 11 เม.ย.นี้

นายบุญใส ก้อนดินจี่ แกนนำกลุ่มผู้ร่วมพัฒนาชาติไทย หรือ ผรท.(2) 4 ภาค กล่าวว่า สาเหตุที่มาชุมนุมวันนี้ เนื่องจาก ผรท.ใน 8 จังหวัดภาคอีสาน ประกอบด้วย จังหวัดกาฬสินธุ์ สกลนคร ยโสธร นครพนม อุดรธานี หนองบัวลำภู และจังหวัดมุกดาหาร จำนวนหลายพันคน ซึ่งได้ผ่านการพิจารณาตามขั้นตอนของระบบราชการไปแล้ว จนเรื่องได้ผ่านความเห็นชอบจาก ครม. เมื่อวันที่ 9 มี.ค. ซึ่งต่อมารัฐบาลได้ดำเนินการจ่ายเงินช่วยเหลือ ผรท.ไปแล้วหลายจังหวัดในภาคเหนือ ภาคใต้ และภาคอีสานบางจังหวัด แต่ยังเหลือกลุ่ม ผรท.ภาคอีสานในอีก 8 จังหวัด ที่ยังไม่ได้รับเงินช่วยเหลือ และขณะนี้ยังไม่มีความชัดเจนว่าจะจ่ายหรือไม่ ซึ่งการกระทำดังกล่าว ถือเป็นสองมาตรฐาน และเลือกปฏิบัติของรัฐบาล ดังนั้น กลุ่ม ผรท.ที่เหลือ จะเดินหน้าเรียกร้องความยุติธรรมต่อไป.