ฟันธงเกิดวิกฤติรธน.ปี 2550 2 หัวหน้าพรรค-นักวิชาการฟันธง

นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวในรายการ "ถึงลูกถึงคน" ทางสถานีโทรทัศน์โมเดิร์นไนน์ทีวี เมื่อเวลา 23.45 น.ที่ผ่านมา (20 ธ.ค.) เรื่อง "อนาคตประเทศไทย 2550" ว่า หากคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ (คมช.) และ รัฐบาล ปฏิบัติภารกิจสำคัญ คือ การนำประเทศกลับไปสู่ความเป็นประชาธิปไตยและการมีรัฐธรรมนูญ รวมถึงมีการเลือกตั้งโดยรวดเร็วที่สุด บวกกับการสะสางปัญหารัฐบาลที่ผ่านมา ตามเหตุผลการยึดอำนาจของ คมช.อ้างยึกดอำนาจ คิดว่าสถานการณ์ของประเทศในปี 2550 จะไม่หนักหนา อย่างไรก็ตาม หาก คมช. และ รัฐบาล เบี่ยงเบนภารกิจไปจากนี้ คือ การไม่ส่งคืน ประชาธิปไตย ไม่สะสางปัญหา ทำให้ประชาธิปไตยเข้มเข็งขึ้นเสี่ยงเกิดวิกฤติขึ้นได้

ปัญหาปี 2550 การเมืองจะเป็นปัญหาหลัก และหนักหนากว่าปี 2549 หากว่า คมช.คิดสืบทอดอำนาจ โดยพิจารณาจากการร่างรัฐธรรมนูญ ที่เปิดช่องให้ คมช. หรือไม่ โดยเฉพาะประเด็น นายกรัฐมนตรี ต้องมาจากการเลือกตั้ง หากไม่ถูกใส่เอาไว้ในรัฐธรรมนูญ คมช.จะถูกกล่าวหาว่าต้องการต่อท่อสืบทอดอำนาจอย่างแน่นอน และถือว่าประเด็นนี้เป็นระเบิดลูกใหญ่ รวมทั้งกรณีการเกิดพรรคการเมืองใหม่ หากมี สมาชิก คมช.คนใดคนหนึ่งเข้าไปมีส่วนร่วมทั้งทางตรงและทางอ้อม จะถูกมองว่าคิดสืบทอดอำนาจทันที คิดว่า คมช.จะเรียนรู้ความผิดพลาดในประเด็นนี้จากสภารักษาความสงบเรียบร้อยแห่งชาติ (รสช.) เมื่อ 14-15 ปีที่แล้ว

หากรัฐธรรมนูญใหม่ ถอยหลังไปจากรัฐธรรมนูญไป 2540 มาก จะเกิดปัญหาอย่างแน่นอน เพราะขั้นตอนหลังการร่างรัฐธรรมนูญจะเป็นการลงประชามติ รับหรือไม่รับรัฐธรรมนูญทั้งฉบับ หากไม่รับ อำนาจทั้งหมดจะกลับไปที่ คมช. นำเอารัฐธรรมนูญฉบับหนึ่งไปแก้ไขและนำมาประกาศใช้ ถือเป็นระเบิดเวลาทั้งสิ้น เพราะยิ่งนานไปคะแนนนิยมคมช. 3 เดือนที่ผ่านมา ตกลงไปมาก รวมทั้งเชื่อว่าต่อจากนี้ไปคะแนนนิยมจะยิ่งตกลงไปมากกว่านี้

ที่คาดว่าจะมีขึ้นประมาณ เดือน มี.ค.-พ.ค.2540 ที่จะเป็นเรื่องใหญ่มาก เนื่องจากจะมีผลให้กรรมการบริหารพรรคการเมืองที่ถูกประกาศยุบพรรค ต้องเว้นวรรคทางการเมือง หมดสิทธิ์ลงเลือกตั้ง 5 ปี นอกจากนี้ เหตุผลการรัฐประหารเมื่อวันที่ 19 ก.ย. เรื่องการทุจริตคอรัปชันหากไม่สามารถหาหลักฐานกรณี พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีต นายกรัฐมนตรี ทุจริตคอรัปชันได้จะมีปัญหามาก

คิดว่า ปี 2550 จะมีปัญหา 2 เรื่องสำคัญ คือ ปัญหาความเดือดร้อนของประชาชน และปัญหาประชาธิปไตย โดยเฉพาะปัญหาการคืนประชาธิปไตยให้ประชาชน ประเด็นการร่างรัฐธรรมนูญให้ก้าวหน้ากว่ารัฐธรรมนูญปี 2540 ที่ปัจจุบันเริ่มมีการพูดถึงความเลวร้ายของการเลือกตั้ง พรรคการเมือง และ นายกรัฐมนตรี รวมทั้ง ส.ว.ไม่ต้องมาจากการเลือกตั้ง ส.ส.ไม่ต้องสังกัดพรรคการเมือง ถือเป็นแนวคิดที่มีอคติต่อการเลือกตั้ง และมีแนวโน้มที่น่าเป็นห่วง

รัฐธรรมนูญที่กำลังร่างอยู่ในปัจจุบันมีประเด็นที่น่าสนใจคือ ขั้นตอนการลงประชามติ เห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วยกับรัฐธรรมนูญทั้งฉบับ ทั้งที่หลายคนอาจจะเห็นด้วยกับรัฐธรรมนูญฉบับนี้หลายมาตรา และไม่เห็นด้วยหลายมาตรา แต่ก็ต้องลงมติไม่เอาด้วยกับร่างรัฐธรรมนูญทั้งฉบับ ทำให้ คมช.สามารถหยิบยกรัฐธรรมนูญฉบับใดฉบับหนึ่งขึ้นมาแก้ไขและประกาศใช้ก็ได้ยิ่งถือว่ามืดมน และไม่มีอนาคต ทำให้เกิดวิกฤติใหญ่ได้