วานนี้ (23เม.ย.) นายพิชัย นริพทะพันธุ์ อดีต รมว. พลังงาน ในฐานะคณะทำงานเศรษฐกิจ พรรคเพื่อไทย แถลงว่า
ตั้งแต่ที่พรรคเพื่อไทยได้ชนะการเลือกตั้งในวันที่ 3 ก.ค.และรัฐบาลน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีเริ่มบริหารราชการในเดือน ส.ค. นับเป็นเวลาประมาณ 8 เดือนสภาวะทางเศรษฐกิจมีแนวโน้มที่จะฟื้นตัวอย่างเห็นได้ชัด ไม่ว่าจะเป็นการผลิต การบริโภค การส่งออก การลงทุนจากต่างประเทศ ดัชนีทุกตัวบ่งชี้ให้เห็นการฟื้นตัว โดยดัชนีตลาดหลักทรัพย์ก็เป็นตัวชี้วัดอีกอันหนึ่งที่แสดงให้เห็นความมั่นใจของนักลงทุนต่างชาติต่อเศรษฐกิจไทย โดยมีดัชนีที่เพิ่มสูงขึ้นมากประกอบกับการลงทุนของนักลงทุนต่างชาติเป็นยอดลงทุนสุทธิตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. ถึงวันที่ 20 เม.ย. มีปริมาณสุทธิ 83,387.47 ล้านบาท ดัชนีอยู่ที่ 1,194.60 จุด โดยคาดว่าจีดีพีในปี 2555 นี้จะเพิ่มขึ้นน 6.5-7% ได้ โดยเฉพาะการลงทุนจากต่างประเทศมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างชัดเจนจากปีที่แล้ว และจะเพิ่มมากขึ้นจากการที่ท่านนายกเดินทางไปประเทศจีน และ ประเทศญี่ปุ่น ในส่วนความสัมพันธ์ระหว่างประเทศกับประเทศต่างๆ โดยเฉพาะประเทศเพื่อนบ้านเป็นไปอย่างราบรื่นและดียิ่ง ทำให้การดำเนินนโยบายที่จะทำให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางของอาเซียนเป็นไปได้สูงและรวดเร็วขึ้น
“ถ้าเปรียบกับรัฐบาลชุดที่แล้วที่บริหารมากว่า 2 ปี ประชาชนแทบจำไม่ได้เลยว่าได้ทำอะไรบ้าง ยกเว้น แจกเงิน 2,000 บาทและชั่งไข่ขาย แม้แต่โครงการไทยเข้มแข็งที่กู้เงินใช้ไป 400,000 ล้านบาท ประชาชนก็ไม่รู้เลยว่าได้อะไรจากการลงทุนนี้ นอกจากข่าวคราวการคอรัปชั่นอย่างมโหฬารในทุกเรื่อง ดังนั้นรัฐบาลเพื่อไทยทำงาน 8 เดือนก็มีผลงานมากกว่ารัฐบาลประชาธิปัตย์ที่ทำมา กว่า 2 ปี อย่างเห็นได้ชัด” นายพิชัย กล่าว
กระทู้ร้อนแรงที่สุดของวันนี้
กระทู้ล่าสุด
รูปเด่นน่าดูที่สุดของวันนี้
