พันธมิตรฯย้ำ ทักษิณ หมดความชอบธรรมต้องพ้นการเมือง

พันธมิตรฯย้ำ ทักษิณ หมดความชอบธรรมต้องพ้นการเมือง

โดย ผู้จัดการออนไลน์ 9 พฤษภาคม 2549 14:05 น.

5 แกนนำพันธมิตรฯ แถลงย้ำท่าทีให้กำลังใจ 3 ศาลแก้วิกฤติบ้านเมืองต่อไป ขณะเดียวกัน เรียกร้องให้ ทักษิณ ออกพ้นการเมือง เนื่องจากหมดความชอบธรรมและเป็นต้นเหตุของปัญหาในขณะนี้ พร้อมทั้งให้ กกต.ลาออก โดยทันที ย้ำรัฐบาลใหม่ต้องมีภารกิจปฏิรูปการเมืองโดยประชาชนมีส่วนร่วม

วันนี้ (9 พ.ค.) เมื่อเวลาประมาณ 13.00 น. 5 แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย อันประกอบด้วย พล.ต.จำลอง ศรีเมือง นายสนธิ ลิ้มทองกุล นายสมศักดิ์ โกศัยสุข นายพิภพ ธงไชย และนายสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ ได้ร่วมแถลงข่าวที่บ้านพระอาทิตย์ โดยย้ำจุดยืนเดิมคือ ให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ออกจากการเมือง เนื่องจากหมดความชอบธรรมและเป็นต้นเหตุทำให้เกิดวิกฤตในบ้านเมืองทุกวันนี้ และคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ต้องลาออก เพื่อแสดงความรับผิดชอบ ขณะเดียวกัน ให้กำลังใจ 3 ศาลที่กำลังร่วมกันหาทางออกอยู่ในเวลานี้

นายสนธิ กล่าวว่า พันธมิตรฯ ยอมรับที่ศาลจะเข้ามาจัดการเลือกตั้งแทนคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) จนกว่าจะได้รัฐบาลใหม่ เพราะเราเชื่อมั่นว่าศาลจะสามารถเดินหน้าปลดล็อกวิกฤตต่างๆ ในขณะนี้ได้ และนำไปสู่การปฏิรูปการเมืองโดยประชาชนมีส่วนร่วม

เรายืนยันว่า เราไม่ต้องการให้คุณทักษิณกลับเข้ามาสู่การเมืองอีก เพราะจะส่งผลเสียต่อชาติทุกด้านอย่างมากมายมหาศาล แกนนำพันธมิตรฯ ผู้นี้ ระบุ

ถามว่า ถ้า พ.ต.ท.ทักษิณ ยืนยันจะลงเลือกตั้งอีก จะดำเนินการอย่างไร พล.ต.จำลอง กล่าวว่าการที่ไม่ต้องการให้ พ.ต.ท.ทักษิณ อยู่ในวงการเมืองอีกนั้นไม่ใช่ความเห็นของพันธมิตรฯ เท่านั้น แต่เป็นความเห็นของผู้รู้มากมายในบ้านเมืองที่เห็นตรงกันว่า พ.ต.ท.ทักษิณ หมดความชอบธรรมในการเป็นผู้นำ หลังจากมีการยุบสภาโดยที่ไม่มีใครเรียกร้อง ซึ่ง พ.ต.ท.ทักษิณ ไม่ควรเป็นนายกฯ และเป็นผู้นำรัฐบาลอีก

นายสมเกียรติ กล่าวว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ไม่เคยแสดงความรับผิดชอบ ไม่ว่ากรณีออกพระราชกฤษฎีกาแปรรูป กฟผ. กรณีออกกฤษฎีกายุบสภาจนนำไปสู่การเลือกตั้งที่ไม่ชอบ ถ้านายกฯ ยังดื้อรั้นดันทุรังลงสมัครรับเลือกตั้งอีกครั้งทุกคนก็รับไม่ได้ เพราะทำให้บ้านเมืองเกิดความแตกแยกเกิดความเสียหายอีก ซึ่งไม่สมควรทำ

นายสมศักดิ์ ระบุเป็นความโชคดีของบ้านเมืองที่มีสถาบันตุลาการเข้ามากู้วิกฤตจากหายนะอันเกิดจากระบอบทักษิณ ซึ่งถือว่าน้อยครั้งจะเกิดเหตุการณ์แบบนี้

ถามย้ำว่า ถ้าพ.ต.ท.ทักษิณยังลงเลือกตั้งจะชุมนุมหรือไม่ นายพิภพ กล่าวว่า จะให้โอกาส พ.ต.ท.ทักษิณ ได้มีเวลาไตร่ตรองอีกสักระยะ ขณะเดียวกันขอให้กำลังใจศาลได้ทำหน้าที่แก้วิกฤตกับบ้านเมืองไปก่อน หวังว่า พ.ต.ท.ทักษิณ คงเสียสละเพื่อบ้านเมือง

อยากให้พรรคไทยรักไทย และ พ.ต.ท.ทักษิณ ได้ทบทวนบทบาท ให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ยึดเอาผลประโยชน์ของชาติเป็นตัวตั้ง เพราะเวลานี้ท่านหมดความชอบธรรมแล้ว พันธมิตรฯ จะดูทิศทางของคุณทักษิณอีกระยะหนึ่งก่อน นายพิภพ ระบุ

ส่วนบทบาทของ กกต.นั้น นายสมเกียรติ กล่าวว่า กกต.ควรเคารพบทบาทของ 3 ศาล และควรลาออกหลังจาก 3 ศาลมีมติออกมาในวันนี้ ซึ่งถือว่าเคารพในความเป็นกลางของศาล

นายสนธิ กล่าวเสริมว่า มติทั้ง 3 ศาลในวันนี้ ถือว่าเป็นประวัติศาสตร์ที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ขณะเดียวกัน ฝากไปถึง นายวิษณุ เครืองาม รองนายกฯ และ นายบวรศักดิ์ อุวรรณโณ เลขาธิการคณะรัฐมนตรีให้พูดจาให้อยู่กับร่องกับรอย อย่าคิดเพียงแต่ออกมาปกป้องไทยรักไทย และ กกต. ทั้งที่รู้ว่าถ้าไม่มี กกต.แล้วยังมีศาลที่ทำหน้าที่จัดการเลือกตั้งได้

คุณทักษิณถ้าอยากพักผ่อนตีกอล์ฟก็ทำไป กกต.ลาออกไป อย่ายึดอัตตา ซึ่งไม่ได้ขอมากจนเกินไป นายสนธิ กล่าวเรียกร้องและว่า หลังเลือกตั้งที่มีความยุติธรรมและปราศจากการใช้อำนาจรัฐแล้วรัฐบาลใหม่ต้องมีการปฏิรูปการเมืองโดยประชาชนมีส่วนร่วม ซึ่งพันธมิตรฯ จะมีการเคลื่อนไหวอย่างต่อเนื่อง โดยจะเปลี่ยนรูปแบบเป็นการให้ข้อมูลข่าวสารกับประชาชนทั่วประเทศ

รายละเอียดพันธมิตรแถลงข่าว

สนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำพันธมิตรฯ

การประชุมทั้ง 3 ศาล ได้มีการแถลงถึงการที่ศาลทั้งหลายนั้นจะมาช่วยดูแล จนกระทั่งมีการเลือกตั้งที่มีการยอมรับ สำคัญมากนะ ที่มีการยอมรับของประชาชน และจนกระทั่งมีรัฐบาลใหม่ขึ้นมา เราขอกราบขอบพระคุณในความกรุณาที่ศาลได้ดำเนินความยุติธรรม และเราก็ยังมีความเชื่อมั่นว่ายังมีอีกหลายเรื่อง ซึ่งศาลก็จะดำเนินการเดินหน้าต่อไปเพื่อปลดล็อกแต่ละล็อกให้หมดสิ้นไป เพื่อให้การเมืองเมืองไทยนั้นก้าวไปสู่ยุคการปฏิรูปการเมืองที่แท้จริง และมีการเลือกตั้งที่โปร่งใส เป็นที่ยอมรับของประชาชน

ก่อนที่จะเปิดให้ถามคำถามกับพันธมิตรฯ เราก็ขอยืนยัน เมื่อเรามามองย้อนหลังถึงวิกฤติที่เกิดขึ้น ที่ทำให้ต้องมีทั้งสามศาลออกมาร่วมมือกันแก้วิกฤติ ทั้งหมดนี้เกิดขึ้นเพราะว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เพียงแต่ผู้เดียวเป็นผู้ที่สร้างวิกฤตินี้เกิดขึ้น ถ้าเรามองย้อนหลังกันจริงๆ แล้วประเทศทั้งประเทศวุ่นวาย และเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ที่ศาลทั้ง 3 ศาล ต้องรวมตัวกันเพื่อมาชุมนุมแก้ปัญหาต่างๆ เป็นเพราะว่าการกระทำของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร

เพราะฉะนั้นแล้ว ธงของเราดั้งเดิมที่ตั้งไว้ตั้งแต่ต้นนั้น เรายืนยันว่าเราไม่ได้ตั้งผิด ว่าวิกฤติทั้งหมดนี้เกิดขึ้นเพราะว่านายกฯ ทักษิณ เพียงคนเดียว เราก็ยังขอยืนยันว่า เราไม่ต้องการให้นายกฯ ทักษิณนั้นกลับเข้ามาสู่วงการเมืองอีก เพราะวิกฤติที่เกิดขึ้นครั้งนี้ทำให้ประเทศชาติสูญเสียอย่างมากมาย มหาศาล ทำให้ประเทศเกิดความแตกแยก และเป็นวิกฤติที่เกิดขึ้นเพียงเพราะคนๆ เดียว เพราะฉะนั้นแล้ว นี่คือจุดยืนของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย

ช่วงถาม-ตอบ

ถาม - กระแสไทยรักไทยเห็นว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ควรลงเล่นการเมือง ทางพันธมิตรยืนยันจุดเดิมว่าให้เว้นวรรคไปเลย

พล.ต.จำลอง - เรื่องนี้พวกเราคงเห็นนะครับว่าไม่ใช่เฉพาะพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย เครือข่ายนี้เท่านั้น แต่เป็นความเห็นของกลุ่มท่านผู้ซึ่งเป็นที่นับหน้าถือตาในสังคม กลุ่มแล้วกลุ่มเล่าที่ออกมายืนยันว่า ปัญหาวิกฤติเกิดจากนายกฯ ขาดความชอบธรรม และมีการเรียกร้องให้นายกฯ ลาออก นี่ยังเป็นปัญหาเดิมอยู่ แล้วการที่เมื่อวานนี้ศาลรัฐธรรมนูญออกมาวินิจฉัยว่าการเลือกตั้งมิชอบ ให้มีการเลือกตั้งใหม่ เป็นการชี้ให้เห็นว่า นายกฯ ทักษิณเพิ่มความไม่ชอบธรรมอีกเรื่องหนึ่ง คือเรื่องการยุบสภา ซึ่งสังคมไม่ได้เรียกร้องเลยให้มีการยุบสภา เพราะยุบสภาแล้วนำมาสู่การเลือกตั้งที่ทำให้เกิดปัญหานุงนังต่อมา แสดงให้เห็นว่ายิ่งเพิ่มความไม่ชอบธรรมใหญ่ เมื่อนายกฯ ขาดความชอบธรรมแล้วทางกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยมีความเห็นว่า นายกฯ ควรจะทำตามที่ตัวเองบอก เป็นอย่างน้อยนะครับ คือ ไม่รับตำแหน่งนายกฯ ในการที่จะมีการเลือกตั้ง ในการที่จะมีการแต่งตั้งรัฐบาลใหม่ขึ้นมา

ถาม - ไทยรักไทยยังดื้อดึงให้ท่านนายกฯ กลับมาลง พันธมิตรฯ จะว่าอย่างไร

พล.ต.จำลอง - เรื่องการวัดกระแสอย่างนั้นไม่ถูก อย่างคราวที่แล้วเหมือนกัน ที่มีการเรียกร้องให้ทั่วบ้านทั่วเมืองให้ลาออก ก็เบี่ยงเบนประเด็นไปว่า ถ้าได้รับการสนับสนุนจากประชาชนเยอะๆ แสดงว่าถูกต้องชอบธรรมแล้วที่จะมาเป็นนายกฯ ก็ไม่ใช่อีก เมื่อไม่ใช่อย่างนี้ต้องดำเนินการขั้นต่อมาด้วยการประกาศว่าจะไม่รับเป็นนายกฯ ในการที่จะคัดสรรต่อไป

ถาม - คำว่าไม่รับตำแหน่งนายกฯ กับว่าลงสมัครรับเลือกตั้ง ถ้ายังมาลงสมัครรับเลือกตั้งเราจะออกมาเคลื่อนไหว

สมเกียรติ - อยากจะเรียนว่า นายกรัฐมนตรีเป็นรัฐบาลที่ไม่เคยแสดงความรับผิดชอบเลย โดยเฉพาะผู้บริหารสูงสุด ตัวอย่างที่ชัดเจนที่สุด ก็คือ การออกพระราชกฤษฎีกา 2 ฉบับ แปรรูปรัฐวิสาหกิจ กฟผ. ก็ไม่รับผิดชอบ เป็นกฎหมายฝ่ายบริหารและเป็นกฎหมายเกี่ยวกับการเงิน แล้วในขณะเดียวกันมาปฏิเสธความรับผิดชอบอีกครั้งหนึ่ง ยุบสภา เป็นพระราชกฤษฎีกาเกี่ยวกับการเงิน เมื่อศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยแล้วว่าการเลือกตั้งครั้งนี้ไม่ชอบ คนที่รับผิดชอบโดยตรงก็คือ คนยุบสภาและมีกฤษฎีกา ทำให้เกิดความเสียหายในการจัดการเลือกตั้งกว่า 2,000 ล้าน

ไม่นับรวมผู้สมัครที่เสียเงิน รวมทั้งประชาชนที่ไปลงเลือกตั้ง ผมจึงเห็นว่า รัฐบาลชุดนี้เป็นรัฐบาลภายใต้การนำของคนที่ไม่รับผิดชอบ ขาดความชอบธรรม ทั้งเอเน็ต/โอเน็ต ไม่เคยมีครั้งใดในประวัติศาสตร์ที่รัฐบาลปฏิเสธเช่นนี้ กติกาสากลมีไว้เสมอ แค่ร่างกฎหมาย ร่างพระราชบัญญัติไม่ผ่านสภา ยังไม่เป็นกฎหมายเลยนะ ถ้าไม่ผ่านสภา นายกรัฐมนตรีจะลาออกตามระบอบประชาธิปไตย ที่เป็นสปิริตของเขา ทั่วโลก สากลเป็นอย่างนี้ แต่ของเรามีกฎหมายฝ่ายบริหาร พระราชกฤษฎีกาถึง 3 ฉบับ นี่เป็นกฎหมายนะ พอออกมาแล้ว(ฟังไม่ออก) เมื่อรวมความแล้วการที่นายกรัฐมนตรีจะดื้อรั้นหรือดันทุรังสมัครอีก

ผมคิดว่าสังคมไม่อาจจะยอมรับได้ ไม่ใช่พันธมิตรฯ ไม่ยอมรับได้ สังคมที่มีคุณธรรม และผู้หลักผู้ใหญ่ในบ้านเมือง นักวิชาการ และผู้รู้ ผู้คิดทั้งหลายจะยอมรับไม่ได้ ผมคิดว่านายกรัฐมนตรีไม่ควรจะเสี่ยงให้ชาติแตกแยกอีก แม้จะอ้างว่าเป็นสิทธิ์เฉพาะตัวก็ตาม อันนี้อยากจะเรียนให้ท่านทราบว่า ผมอยากให้กลับไปให้รัฐมนตรีชุดนี้ไปอ่านมาตรา 205 ของรัฐธรรมนูญ ที่นายกรัฐมนตรีและคณะรัฐมนตรีต้องถวายสัตย์ปฏิญาณต่อองค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ว่า จะบริหารราชการแผ่นดินด้วยความซื่อสัตย์สุจริต และปฏิบัติตามกฎหมายรัฐธรรมนูญทุกประการ ขณะนี้ท่านละเมิดกฎหมายรัฐธรรมนูญทุกประการแล้ว ไม่เป็นไปตามที่ให้สัตย์ปฏิญาณไว้ อันนี้เป็นเรื่องที่ใหญ่มากครับ

ถาม - แม้แต่ปาร์ตี้ลิสต์ก็ไม่ควรจะลง

สมเกียรติ - ในความเห็นของพันธมิตรฯ เห็นว่า ถ้ามาแล้วจะเกิดความขัดแย้งในชาติสูง ผมไม่อยากจะไปพูดถึงสิทธิเฉพาะตัวของเขา เราพูดถึงผลกระทบที่จะเกิดขึ้นดีกว่า

ถาม (เสียงไม่ชัดเจน)

สมศักดิ์ - เราในส่วนของประชาชนก็พยายามที่จะชี้แจง ให้การศึกษาประชาชนถึงเหตุที่เกิดขึ้น ที่ผ่านมา ฉะนั้นพี่น้องประชาชนและสังคมไทยต้องเรียนรู้จากบทเรียนของความไม่ถูกต้องของระบบทักษิณ ผมขอใช้คำว่า ระบบทักษิณ ที่มีปัญหา ทำให้สถาบันบริหาร สถาบันนิติบัญญัติ ซึ่งมันมีปัญหา แทรกแซงองค์กรอิสระ แล้วจะเห็นว่าการเลือกตั้งก็ไม่ถูกต้อง ถูกแทรกแซงตลอด ฉะนั้นวันนี้จึงเหลือแต่สถาบันตุลาการที่ประชาชนหวังพึ่ง ก็เป็นโชคดีของประชาชนไทยที่สถาบันตุลาการได้เข้ามาจัดการแก้ไขปัญหา อันนี้ชี้ให้เห็นได้ว่า สิ่งที่ทักษิณทำมาเป็นข้อบกพร่องอย่างฉกาจฉกรรจ์ อย่างไม่เคยมีนายกรัฐมนตรีคนไหนในประเทศไทยที่สร้างความเสียหาย สร้างความแตกแยก สร้างความผิดพลาดถึงขนาดนี้

ฉะนั้นประชาชนไทยคิดว่า เรามีประโยชน์ร่วมกัน ก็จะต้องทำการให้การศึกษากับประชาชน ซึ่งเราก็ยังมีการแลกเปลี่ยนพูดคุยกันตามจังหวัด หรือตามสถานที่ การให้ความรู้ต่างๆ ในเรื่องการเมือง ฉะนั้น ต้องการให้การเมืองก้าวพ้นหุบเหวความหายนะจากบทเรียนที่ผ่านมา ผมคิดว่า นี่คือเป็นวิธีการให้ความรู้ความเข้าใจในการที่จะร่วมกันรณรงค์ในการต่อต้านระบบทักษิณต่อไป

ถาม - หมายถึงว่า ถ้าเขาลงสมัครจริงๆ เราก็เพียงแต่จะให้ความรู้กับประชาชน แต่ไม่ได้จะมาชุมนุมกดดันไม่ให้เขาลงสมัครใช่ไหม

พิภพ - องค์ประกอบเพิ่มเติมเป็นอย่างนี้นะ ให้โอกาส พ.ต.ท.ทักษิณ สักนิดได้ไหม ผมคิดว่าตอนนี้ท่านกำลังไตร่ตรองว่าจะเล่นการเมืองอย่างไร แล้วการที่ศาลทั้ง 3 ศาล ท่านได้ทำงาน ผมคิดว่าให้โอกาสการทำงานของ 3 ศาล ที่จะแก้ไขปัญหาวิกฤติ แล้วโดยเฉพาะมติ 3 ศาล ในวันนี้ ออกมามากขึ้น เรื่องหมดความชอบธรรมในการดูแลการเลือกตั้งของ กกต. เพราะฉะนั้นผมหวังว่า พันธมิตรฯ หวังว่า คุณทักษิณจะเสียสละในการที่จะออกจากการเมือง และท่านทักษิณน่าจะเกิดความสำนึกว่า ปัญหาทั้งหมดที่ผ่านกระบวนการของศาลมาจนถึงขณะนี้ ทุกอย่างชี้ไปที่ความไม่ชอบธรรมของการปฏิบัติราชการ

ในฐานะตำแหน่งนายกรัฐมนตรีของท่าน พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ผมคิดว่า สำหรับผมเอง ผมอยากให้โอกาสตรงนี้กับพรรคไทยรักไทย และให้โอกาสกับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ได้ทบทวน ได้พิจารณาว่า ถ้าตัวเองยังจะดันทุรังที่จะเข้ามาสู่วงการเมืองต่อไป เป็นการแก้ไขปัญหาประเทศชาติเพื่อให้ออกจากวิกฤติที่ใหญ่ที่สุด หรือแก้ไขปัญหาทางการเมืองของพรรคไทยรักไทย

ผมว่าถึงวันนี้นายกฯ ทักษิณ จะต้องตัดสินใจว่าเอาผลประโยชน์ของประเทศชาติเป็นตัวตั้ง แล้วการที่มีมติ มีการพิจารณาของศาลมานี้ก็ชี้ให้เห็นว่าท่านหมดความชอบธรรม ความหมดความชอบธรรมของท่านก็อยู่ที่ว่า ท่านไม่ยอมรับความผิด ขาดความรับผิดชอบในทางการเมือง ทำให้หมดความชอบธรรมนี้ตามไปด้วย นอกจากปัญหาเดิมๆ ที่เราเคยพูดมาแล้ว เพราะฉะนั้นพันธมิตรฯ อยากจะดูทิศทางทางการเมืองของท่านทักษิณไปอีกระยะหนึ่งก่อน

สมเกียรติ - ผมขอวิงวอนท่านนายกฯ ทักษิณ ชินวัตร ให้เห็นแก่ประโยชน์ส่วนรวม หากท่านมาลงเลือกตั้งอีก ไม่ใช่การแก้วิกฤติ แต่เพิ่มวิกฤติ ผมว่า 5 ปีที่ผ่านมา ท่านได้อะไรจากประเทศชาติไปมากแล้ว นับหมื่น นับแสนล้าน จากผลประโยชน์ของประชาชน ผมหวังว่าท่านจะไม่มาเพิ่มวิกฤติของชาติอีก เพราะขณะนี้ทุกฝ่ายพยายามหาหนทางในการลดวิกฤติและแก้วิกฤติให้สิ้นกระแสความไป อันนี้อยากจะวิงวอน แม้จะอ้างสิทธิ์ส่วนตัวก็ตาม แม้แต่ในพรรคไทยรักไทยก็ยังแตกกันเองเลยว่า กลุ่มหนึ่งบอกว่าไม่ควรลงอีกแล้ว และกลุ่มหนึ่งบอกควรลงอีก ไฉนเลยมาถามกลุ่มพันธมิตรฯ กลุ่มพันธมิตรฯ ก็ได้แต่ว่า เป็นสิทธิ์ส่วนตัว แต่เราต้องการวิงวอนขอร้อง

ถาม - 3 ศาลเปิดทางให้ กกต.ลาออกแล้วใช้มาตรา 138 พันธมิตรฯ ว่าอย่างไรในจุดยืนของ 3 ศาล

สมเกียรติ - ผมคิดว่า กกต.ควรจะน้อมรับข้อเสนอของศาล เพราะประวัติศาสตร์การพบกันของทั้ง 3 ศาล ไม่ได้พบกันง่าย เป็นการพบกันโดยกระแสพระราชดำรัส เพราะฉะนั้นการที่ กกต.จะยังคงยืนหยัดในความ อำนาจเบ็ดเสร็จของตนเองต่อไป นี่จะเป็นการเพิ่มวิกฤติการณ์ทางการเมืองอีก ไม่ใช่วิกฤติการณ์เรื่องความยุ่งเหยิงธรรมดา แต่เป็นวิกฤติศรัทธาต่อระบอบประชาธิปไตยที่มีฐานมาจากการเลือกตั้ง กกต.ชุดนี้ควรลาออกตามคำแนะนำของศาล เพราะขณะนี้ศาลเป็นกลางที่สุด ถ้ามาถามพันธมิตรฯ ยังบอกว่า ยังสงสัยในความเป็นกลางอยู่ แต่ถ้าศาลทั้ง 3 ศาล ผมคิดว่ากลไกทั่วโลกเชื่อมั่นในกลไกของศาลอยู่แล้ว

ผมมอง กกต.ชุดนี้ รู้สึกจะเหนียวแน่นกับระบอบทักษิณเหลือเกิน แล้วพยายามจะค้ำจุนให้ระบอบทักษิณเดินหน้าต่อไปให้ได้ ผมต้องขอร้อง ผมอยากให้ กกต.ทำจิตใจให้สงบสัก 24 ชั่วโมง ฟังเสียงประชาชนดูว่าเขายังต้องการให้ท่านมาจัดการเลือกตั้งอีกไหม พันธมิตรฯ รับฟังเสียงประชาชนเสมอว่า เขาต้องการให้ กกต.ชุดนี้ แม้แต่ศาลยังมีคำชี้แนะครั้งประวัติศาสตร์ ตั้ง 2 ข้อ ใช่ไหมครับ ประมุข 3 ศาล 1. เห็นสมควรว่าให้ กกต.นะครับ มาตรการขั้นอ่อน กกต.เชิญศาลมาร่วมจัดการการเลือกตั้ง หรือลาออก แล้วศาลชี้ว่าการลาออกน่าจะทำให้ศรัทธาของประชาชนคืนมา

สนธิ - มันเป็นประวัติศาสตร์ทางการเมืองเมืองไทย ตั้งแต่มีการเปลี่ยนแปลงการปกครองมา 2475 ไม่เคยมีปรากฏการณ์เช่นนี้เกิดขึ้น ปรากฏการณ์เช่นนี้เกิดขึ้น เป็นไปตามคำพูดขององค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ว่า ตอนนี้ประเทศชาติมีวิกฤติ เพราะฉะนั้นแล้วการแก้วิกฤตินั้น จริงๆ ถ้าคนไม่กี่กลุ่มละเว้น อัตตาตัวเองซะ ประการแรก ท่านนายกฯ ท่านลาออกซะ ประการที่สอง กกต.ลาออกซะ ประการที่สาม ที่สำคัญที่สุด ผมอยากจะฝากไปบอกคุณวิษณุ เครืองาม และคุณบวรศักดิ์ อุวรรณโณ

ผมอยากให้ท่านยังรักษาความเป็นนักกฎหมาย ความเป็นคนซึ่งเคยเป็นครูบาอาจารย์ ให้พูดจาอยู่กับร่องกับรอย อย่าพูดจาเพียงเพื่อต้องการปกป้อง กกต.เพื่อให้มาปกป้องพรรคไทยรักไทยต่อไป ท่านก็รู้อยู่แล้วว่าถ้าไม่มี กกต.นั้น ท่านบอกว่าการเลือกตั้งจะวุ่นไม่มีใครดูแล ท่านก็รู้ว่าท่านพูดไม่หมด ข้อเท็จจริงก็คือว่า ถ้าไม่มี กกต.แล้ว กฎหมายรัฐธรรมนูญอนุญาตให้ศาลฎีกาเป็นผู้เสนอชื่อ กกต.ชุดใหม่เข้ามาได้ ท่านก็รู้อยู่แก่ใจ แต่ท่านจำเป็นต้องพูดเพราะท่านต้องการเอา กกต.ชุดนี้มาปกป้องพรรคไทยรักไทย ผมอยากถามท่านว่า สรุปแล้วว่า ท่านวิษณุ เครืองาม และท่านบวรศักดิ์ อุวรรณโณ เมื่อหมดสิ้นภารกิจของการรับใช้พรรคไทยรักไทยแล้วท่านจะมองหน้าคนในสังคมไทยต่อไปได้อย่างไร

ผมฝากเพียงแค่นี้ครับ คือว่า ถ้าท่านละอัตตานี้ซะ คุณทักษิณก็ละอัตตา ท่านมีเงินเป็นแสนล้าน ก็ไปใช้ชีวิต ไปใช้เงินใช้ทอง ส่วนเงินทองได้มาอย่างไรค่อยว่ากันอีกทีนะครับ ไปเที่ยวอยู่ต่างประเทศ ท่านชอบตีกอล์ฟท่านก็ไปตีกอล์ฟ ท่านอยากซื้อสนามกอล์ฟก็ไปซื้อซะ กกต.มาถึงขนาดนี้ก็ลาออกซะ ปล่อยให้กลไกของศาลกำหนดให้การเลือกตั้งบริสุทธิ์และยุติธรรม และสิ่งที่ประชาชนคนไทยและสังคมไทยขอ ขอเพียงเพื่อให้การเมืองโปร่งใสและมีการเลือกตั้งที่บริสุทธิ์ยุติธรรม ผมถามว่า เป็นการขอมากจนเกินไปหรือเปล่า ขอบคุณมากครับ

สมศักดิ์ - อยากจะเพิ่มเติมสักนิดหนึ่งนะครับ ถ้าทักษิณยังอยู่ต่อ กกต.ไม่ลาออก มันเป็นการชี้ชัดว่าคน 2 กลุ่มนี้ไม่ได้ทำเพื่อส่วนรวม ยึดติดผลประโยชน์ของตัวเอง แต่ถ้าเห็นแก่ส่วนรวม เห็นแก่ความสมานฉันท์ของประเทศชาติควรพ้นไปจากการเมือง อันนี้อยากให้สังคมไทยติดตามและพิสูจน์ แม้แต่ปัญหาในภาคใต้ ผมอยากขอเรียนนะครับว่า ทักษิณยังอยู่เป็นปัญหามาก ขนาดแม่ทัพภาคที่ 4 ก็ยังพูดอย่างนี้ ซึ่งปัญหาที่ใหญ่พอสมควรอยู่แล้ว แล้วมาเพิ่มปัญหาวิกฤติทางการเมืองเข้าไปอีก ผมคิดว่า ถ้าคนที่ไม่เห็นแก่ประโยชน์ส่วนตัวอย่างเกินไป ก็พิจารณาได้ จึงไม่ควรเข้ามาที่จะดำรงตำแหน่งทางการเมือง และ กกต.ก็ควรจะต้องออกไปด้วย

ถาม -(เสียงไม่ชัดเจน)

สนธิ - เนื่องจากเงื่อนไขของการเลือกตั้งนั้นมาแบบไหน ถ้ามาจาก กกต.ที่ศาลฎีกาเป็นผู้ตั้ง แล้วไม่มีการใช้อำนาจรัฐ สั่งตำรวจ สั่งผู้ว่าราชการจังหวัด เหมือนกับการเลือกตั้งครั้ง พ.ศ.2548 ผมคิดว่า ถ้าการเลือกตั้งบริสุทธิ์ ยุติธรรม เงื่อนไขใครมาก็ตาม พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยไม่สนใจ เราสนใจอยู่อีกข้อหนึ่งก็คือว่า เมื่อเลือกตั้งเสร็จแล้ว ต้องปฏิรูปทางการเมือง และต้องเอาภาคประชาชนเข้าไปเกี่ยวพันกันในการปฏิรูปทางการเมือง เราสนใจเพียงแค่นี้ครับ

พิภพ - โดยสรุปตอนนี้พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย เชื่อมั่นในกระบวนการการทำงานของทั้ง 3 ศาล ซึ่งถ้าสังเกตให้ดีว่า กำลังแก้ไขปัญหาไปทีละเปาะๆ แล้วผมว่าสุดท้ายก็คือ ตามที่ 3 ศาล ได้มีมติมาว่าจะดูแลการเมืองไปจนถึงได้รัฐบาลที่ประชาชนยอมรับ ซึ่งทำให้เรามีความเชื่อมั่นในเรื่องนี้มากขึ้น เพราะฉะนั้นถ้ากระบวนการมาถูกต้อง และเป็นธรรม สิ่งที่เราต้องการคือการเมืองที่เป็นธรรม ผมคิดว่าพันธมิตรฯ รับได้ แต่ต้องขอยืนยัน พันธมิตรฯ ยังยืนยันว่า คุณทักษิณควรจะต้องออกจากการเมืองเพราะขาดความชอบธรรม และขาดความรับผิดชอบต่อสิ่งที่ตนได้กระทำลงไปและเกิดการผิดพลาด

จำลอง - ยืนยันอีกทีว่านี่คือการดำรงความมุ่งหมายของกลุ่ม ของเครือข่ายพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ซึ่งผมเรียนไปแล้วว่าตรงกับกลุ่มท่านผู้รู้ ท่านที่มีหน้ามีตาในสังคม เรายืนยันว่านี่คือวิกฤติ และสามารถแก้วิกฤติได้ โดยการที่คุณทักษิณต้องไม่เข้ามาอยู่ในวงการเมือง

ถาม - เกี่ยวกับการเตรียมการสมัชชาพันธมิตรฯ ระดับชาติครั้งแรก ที่ประกาศว่าจะมีขึ้นเดือนนี้ใช่ไหม

จำลอง - ประการแรกผมอยากจะให้คุณสมศักดิ์บอกว่า เรามีรายการอะไรที่คุณจะไปพูดที่ไหนๆ เป็นการให้ความรู้กับประชาชน เพื่อสื่อจะได้ช่วยเราอีกทางหนึ่ง

สมเกียรติ - ผมตอบได้นะฮะ เพราะว่าเป็นผู้รับผิดชอบด้านนี้นะฮะ เราได้มอบหมายให้ทางคุณไชยวัฒน์ สินสุวงศ์ เป็นนายทะเบียนของสมัชชาพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ขณะนี้เราได้มีการจัดตั้งครบ 76 จังหวัดแล้ว ส่วนการจะประชุมสมัชชาใหญ่อย่างไรหรือไม่ เราเห็นว่า ในช่วงก่อนวันที่ 9 มิถุนายน การเฉลิมฉลองควรจะผ่านพ้นไปก่อน เป็นการน้อมรับ และเป็นวันมงคลสูงสุดของชาติ เพราะฉะนั้นการจะประชุมสมัชชาพันธมิตรฯ ทั่วประเทศ น่าจะมีหลังวันที่ 9 มิถุนายน ก็อยากจะพูดคร่าวๆ ว่า ตอนนี้องค์กรพร้อมที่จะมีการประชุมสัมมนาใหญ่ แต่เนื้อหามันจะไปเน้นเรื่องการปฏิรูปการเมือง เมื่อการปฏิรูปการเมืองมันยังไม่ได้รัฐสภา กลไกของศาลทั้ง 3 ศาล กำลังดำเนินการอยู่ เมื่อศาลยังไม่สิ้นกระแสความในการแก้ปัญหา ทางเราก็พร้อมที่จะเลื่อนวันออกไป

สมศักดิ์ - ก็คงมี หมายความว่า พันธมิตรฯ ในต่างจังหวัด หรือในสาขาวิชาชีพต่างๆ เชิญให้ไปพูดเพื่อให้ข้อมูล ก็จะรับคำเชิญ แล้วก็จะไปกัน แบ่งหน้าที่กันไป ซึ่งวันที่ 19 นี้ ก็จะมีพันธมิตรฯ ที่ จ.พัทลุง เขาจะเชิญไปพูด ซึ่งอาจจะมีคุณพิภพ ผม อาจารย์สมเกียรติ อาจจะไปร่วม

สนธิ - คือ ต้องเรียนให้ท่านสื่อมวลชนทราบนิดหนึ่ง พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยไม่ได้หยุดอยู่นิ่งนะฮะ กระบวนการให้การศึกษาทางการเมืองและเศรษฐกิจกับประชาชนนั้น เราทำต่อเนื่อง เพียงแต่ว่าเรา ในขณะนี้ไม่ได้ทำในลักษณะของการเรียกชุมนุมใหญ่ แบบคนเป็นหมื่นเป็นแสน แต่เราเรียกเป็นจุดย่อยๆ เหมือนอย่างที่ท่านพันธมิตรฯ ท่านอื่นท่านก็ได้รับเชิญให้ไป ส่วนผมนั้นก็มีสิ่งซึ่งผมทำประจำอยู่แล้ว ก็คือ อย่างวันที่ 20 พฤษาภคมนี้ รายการเมืองไทยรายสัปดาห์สัญจร ซึ่งผมเรียกว่าเป็นภาคคอนเสิร์ตทางการเมือง คำว่าคอนเสิร์ตทางการเมืองนั้นหมายความว่า ไม่ใช่มีแค่ผมและคุณสโรชา มานั่งอธิบายว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจนกระทั่งถึงวันที่ 20 นั้น มีนัยอะไรบ้าง เท่านั้นเอง

แต่อาจจะมีการเชิญผู้คนซึ่งอยู่ในวงการ เช่น อาจารย์เจิมศักดิ์ ปิ่นทอง อาจจะเข้ามาร่วมรายการในเรื่องของ รายการรู้ทันประเทศไทย หรือว่ารู้ทันนักการเมืองเลวๆ อะไรทำนองนี้ และอาจจะมีการเอาบุคคลซึ่งอยู่ในวงการ อย่างเช่น สมมุติว่า อาทิตย์ที่ผ่านมานี้มีการขึ้นราคาน้ำมัน แล้ว ปตท.กลับกำไรเพิ่มขึ้นกว่าเก่าอีกเท่าตัว ปตท.แทนที่จะกำไรแสนล้าน กลายเป็นกำไร 2 แสนล้าน เราก็จะมาอธิบายความว่า ความผิดพลาดของ ปตท.นั้นอยู่ที่ไหน คือมันเป็นทั้งกระบวนการให้ข่าวสารข้อมูลและให้ความรู้กับประชาชน สิ่งนี้ไม่ใช่เป็นสิ่งที่จะยุติไป เมื่อนายกฯ ทักษิณออกไป หรือพรรคไทยรักไทยไม่ได้เป็นรัฐบาล

สิ่งนี้ทางผมและทางพันธมิตรฯ จะทำต่อเนื่องกันไปตลอด โดยไม่หยุดยั้ง แล้วผมและพันธมิตรฯ ก็มีความคิดว่า อยากจะเชิญสื่อมวลชนที่ทำข่าวประจำเราสัก 1-2 วัน ไปสัมมนากันที่ใดที่หนึ่ง ค้างสัก 1 คืน แล้วก็เปิดโอกาสให้ซักถาม แล้วเราก็จะได้อธิบายแนวความคิดการปฏิรูปทางการเมืองที่เราคิด คิดอย่างไรบ้าง เพื่อให้ทุกท่านจะได้เข้าใจกระบวนทัศน์ของพวกเราว่า พวกเราที่สู้มา เราสู้ไปเพราะอะไร แล้วทำไมเราถึงสู้ แล้วทำไมเราถึงต้องลุกขึ้นมาเจ็บเนื้อเจ็บตัวกันเป็นแถว โดนอำนาจมืดคุกคาม ข่มขู่ โดนระบอบทักษิณรังแกไปหมด ทำไมเราต้องทำเช่นนั้น แล้วก็ ทั้งหมดที่คุยกัน ก็จะเป็นการ off the record

ส่วนท่านสื่อมวลชนที่ไปนั้น อยากจะซักอะไร อยากจะสงสัยว่า เอ๊ะ คำว่าปฏิรูปการเมือง คุณสนธิหมายความว่ายังไง หรือว่าใครอ่านบทความของคุณคำนูญ สิทธิสมาน เมื่อเช้า ที่พูดถึงปฏิญญาฟินแลนด์ แปลว่าอะไร ก็จะได้อธิบายให้ฟังว่าปฏิญาณฟินแลนด์แปลว่าอะไร แล้วผู้ว่าฯ ซีอีโอในความเห็นของเรานั้น ในที่สุดจะถูกพัฒนากลายเป็นการเลือกตั้งผู้ว่าฯ หรือเปล่า เมื่อกลายเป็นการเลือกตั้งผู้ว่าฯ แล้ว แล้วการเมืองจะเปลี่ยนไปอย่างไรบ้าง นัยพวกนี้ บางครั้งเราไม่สะดวกที่จะไปพูดบนเวทีประชาชนเพื่อประชาธิปไตย เพราะว่าเป็นเรื่องซึ่งยังไม่เกิดขึ้น แต่ว่าเป็นกระบวนทัศน์และความคิดที่ตกผลึกของพวกเรามานานแล้ว

เราก็สามารถจะอธิบายได้ ท่านสื่อมวลชนท่านก็จะได้รับทราบเอาไว้ ไม่จำเป็นต้องเชื่อ แต่รับทราบเอาไว้ในชั้นหนึ่ง หรือว่าอาจจะถามถึงเบื้องหลังเหตุการณ์วันโน้น วันนี้ อย่างเช่นวันที่ผมเดินไปยื่นจดหมายให้กับ พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน แล้วทำไมวันรุ่งขึ้น พล.อ.สนธิ ถึงออกมาพูดตรงกันข้าม ซึ่งข้อมูลแบบนี้ไม่มีใครรู้ว่าหลังจากนั้นแล้ว คุณผดุง ลิ้มเจริญรัตน์ เขาโทรศัพท์ไปหา พล.อ.สนธิ ทันทีที่ได้รับจดหมายผม พล.อ.สนธิ ท่านก็รับจดหมาย วันรุ่งขึ้นเมื่อได้รับโทรศัพท์จากคุณผดุง ท่านก็เลยเปลี่ยนเสียงของท่านออกไป อะไรทำนองนี้ เราพูดคุยกันอย่าง off the record กันนะครับ ซึ่งประเดี๋ยวเราจะลองหาวิธีว่าเราจะเชิญ คือสื่อมวลชนทุกฉบับได้ไปหมด แต่ว่าจะฉบับละกี่คนค่อยว่ากันอีกที

ถาม (เสียงไม่ชัดเจน)

สนธิ - กำลังเลือกอยู่ระหว่างสวนลุมพินี กับหอประชุมใหญ่ธรรมศาสตร์

ถาม (เสียงไม่ชัดเจน)

สนธิ - คุณต้องไปฟังสัมมนา

ถาม (เสียงไม่ชัดเจน)

สนธิ - เห็นไหม อาจารย์สมเกียรติก็จะไปพูดที่จุฬาฯ ท่าน พล.ต.จำลอง ท่านก็มีงาน คือทุกคนมีงานหมด คือทุกวันนี้ต้องทำให้การศึกษาประชาชนทั้งสิ้น คือการเมืองช่วงนี้จะเป็นช่วงที่ค่อนข้างจะสลับซับซ้อน แล้วก็ลึกซึ้ง ผม ด้วยความเคารพในภูมิปัญญาของเพื่อน น้องๆ ผู้สื่อข่าวทั้งหลาย ผมคิดว่าบางครั้งเราเข้าสัมมนากัน เสวนากัน อย่างไม่เป็นทางการ แล้วเราซักถามกัน บางครั้งพวกเราอาจตกผลึกในเรื่องของแนวความคิดทางการเมืองว่า การเมืองกำลังจะเกิดขึ้นมาในรูปแบบใด พวกเราจะได้เตรียมตัวได้

พิภพ -ผมเรียนให้ทราบนิดหนึ่งว่า มีชาวต่างประเทศบอกว่า จุดเปลี่ยนทางการเมืองและทัศนะการเมืองของไทยที่จะก้าวต่อไปวันนี้จะมีอิทธิพลต่อประเทศในแถบเอเชียตะวันออกให้มีการพัฒนาด้วย เพราะฉะนั้นที่คุณสนธิบอกว่า ถ้าพวกเราไปนั่งคุยกันเรื่องการเปลี่ยนแปลงการเมืองไปในทางประชาธิปไตยมากขึ้น ผมคิดว่าไม่เป็นประโยชน์เฉพาะสังคมไทย แต่จะเป็นประโยชน์กับประเทศเพื่อนบ้านด้วย

สนธิ - แล้วผมอยากจะเชิญไปเพราะว่าจะได้พูดถึงเรื่อง"แล้วเราจะปฏิรูปสื่ออย่างไร" สื่อโทรทัศน์ที่สำคัญมาก สื่อวิทยุที่สำคัญมาก ว่าจะทำอย่างไรที่จะให้ข้อมูลข่าวสารได้เข้าถึงประชาชนอย่างเท่าเทียมกัน คนไทยไม่มีใครฉลาดกว่ากันหรือโง่กว่ากัน มีอยู่ข้อเดียวครับ ใครเข้าถึงข้อมูลข่าวสารได้มากกว่าคนนั้นก็จะรู้มากกว่าเท่านั้นเองครับ ขอบคุณมากครับ

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์