พันธมิตรปิดล้อมกองทัพไทย สั่งเคลื่อนพลลุยสุวรรณภูมิ

กลุ่มพันธมิตรฯเคลื่อนพลเข้าปิดล้อมกองทัพไทยแล้ว แกนนำสั่งขวางไม่ให้รถน้ำเข้าไปข้างใน ที่เหลือจัดขบวนม็อบดาวกระจายออกจากดอนเมืองสั่งม็อบเคลื่อนพลลุยสนามบินสุวรรณภูมิ

(25พ.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เวลา 14.05 น. ที่กองบัญชาการกองทัพไทย มีกลุ่มผู้ชุมนุมพันธมิตรฯจำนวนมากเดินทางมาชุมนุมปิดล้อมประตูทางเข้ากองทัพไทย โดยทหารคอยควบคุมสถานการณ์อยู่ และจำกัดพื้นที่ให้ผู้ชุมนุม ไม่อนุญาติให้ผู้ชุมนุมเข้าไปภายในกองทัพไทยได้ ซึ่งทางกองทัพไทยได้เปิดประตูไว้เพียงครึ่งหนึ่ง เพื่อป้องกันการบุกรุกของกลุ่มพันธมิตรฯ ต่อมาเกิดเหตุวุ่นวายขึ้น เมื่อทหารได้นำรถบรรทุกน้ำมาเพิ่มอีก 1 คันรถ เพื่อนำเข้าไปภายในกองทัพไทย แต่กลุ่มผู้ชุมนุมไม่ยอมให้นำรถน้ำเข้าข้างใน และทำการปิดล้อมบริเวณหน้าทางเข้า
 
พธม.จัดขบวนม็อบดาวกระจายออกจากดอนเมือง

เมื่อเวลา 14.30 น. แกนนำพันธมิตรฯได้จัดกำลังของผู้ชุมนุมบางส่วนแบ่งออกเป็นขบวนหลายสายเพื่อเคลื่อนตัวออกจากสนามบินดอนเมืองไปยังสถานที่ต่าง ๆ โดยส่วนหนึ่งจะไปที่กองบัญชาการกองทัพไทย ถนนแจ้งวัฒนะ ส่วนขบวนอื่นผู้ชุมนุมยังไม่ได้รับแจ้งจากแกนนำขบวนว่าจะมุ่งหน้าไปที่ใด แกนนำเพียงประกาศให้ผู้ชุมนุมทุกคนเคลื่อนขบวนตามคำสั่งเท่านั้น อย่างไรก็ตาม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หนึ่งในขบวนที่เคลื่อนออกจากสนามบินดอนเมืองนั้นมุ่งหน้าไปทางท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ

สำหรับบรรยากาศการชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยในช่วงบ่ายผู้ชุมนุมจำนวนหนึ่งยังคงปักหลักฟังการปราศรัย

โดยมีนายสำราญ รอดเพชร และนายอมร อมรรัตนานนท์ เป็นผู้ควบคุมเวที ขณะที่ผู้ชุมนุมอีกส่วนได้ทยอยกันขึ้นรถบรรทุก รถบัส และรถส่วนตัว หลายคันเพื่อมุ่งหน้าไปกองบัญชาการกองทัพไทย แต่การ์ดพันธมิตรฯได้ใช้โทรโข่งประกาศว่าไม่ต้องไปสมทบที่กองทัพไทยแล้ว เพราะมีผู้ชุมนุมมากพอแล้วแต่ให้ไปสมทบที่สนามบินสุวรรณภูมิแทน

ก่อนหน้านั้นเวลา 12.00 น. มีพันธมิตรฯ 3 คันรถซึ่งเป็นหน่วยล่วงหน้าเดินทางมายังกองบัญชาการกองทัพไทย

แต่นายทหารที่รับผิดชอบดูแลพื้นที่ทางเข้าออก ไม่อนุญาตให้รถบุคคลภายนอกเข้าออกเด็ดขาด พร้อมชี้แจงว่า ในกองบัญชาการกองทัพไทย ไม่มีการประชุมใดใด โดยเฉพาะการประชุม ครม.นัดพิเศษ แต่ทางกลุ่มพันธมิตรฯที่ล่วงหน้ามาแล้วก็ยังปักหลักรออยู่ที่ด้านหน้า ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บรรยากาศภายในกองบัญชาการกองทัพไทย เจ้าหน้าที่ทยอยให้รถภายนอกออกจากกองทัพไทยและเตรียมรถดับเพลิง พร้อมเจ้าหน้าที่ชุดผจญเพลิง ของหน่วยงานทหารเอง และรถบรรทุกน้ำ เพื่อเตรียมป้องกันเหตุ อยู่ภายในรั้วบริเวณประตูทางออกของกองบัญชาการกองทัพไทย และมีการเตรียมกำลังทหาร แต่ไม่พกอาวุธ มีเพียงโล่ จำนวนหนึ่ง พร้อมเสริมกำลังให้ทหารประจำจุดเข้า-ออก และนำเหล็กกั้นมาเตรียมวางขวางหากมีการฝ่าเข้ามา

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่เวทีปราศรัยพันธมิตรฯทำเนียบรัฐบาล ได้มีการระดมผู้ชุมนุมที่ยังอยู่ในทำเนียบฯให้เคลื่อนย้านไปปิดล้อมกองบัญชาการกองทัพไทย เพื่อไม่ให้คณะรัฐมนตรีประชุมได้

โดยมีผู้ชุมนุมทยอยเดินทางออกจากทำเนียบรัฐบาลไปเกือบทั้งหมด เหลือเพียงผู้สูงอายุและการ์ดพันธมิตรฯบางส่วนอยู่เฝ้าฐานที่มั่นไว้ นางสาวอัญชลี ไพรีรักษ์ พิธีกรบนเวทีประกาศว่า ขณะนี้มีการ์ดพันธมิตรฯบางส่วนล่ารายชื่อประชาชนที่มาร่วมชุมนุมเพื่อให้มีการทำประชาภิวัฒน์ โดยจะไปยื่นหนังสือต่อแม่ทัพภาคที่ 1 แต่จากการตรวจสอบพบว่าการกระทำดังกล่าวไม่ได้ผ่านมติจากแกนนำพันธมิตรฯ จึงขอให้ยุติการดำเนินการดังกล่าว และขอให้เว้นวรรคและหยุดเรื่องนี้ไปก่อน เพราะการล่ารายชื่อครั้งนี้ไม่สามารถนำรายชื่อดังกล่าวไปดำเนินกิจกรรมใดๆได้ เพราะไม่ผ่านแกนนำพันธมิตรฯทั้ง 5 คน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากนั้นได้มีการเก็บรวบรวมรายชื่อทั้งหมดไปเผาทำลายหลักฐาน

นางสาวอัญชลี ยังประกาศว่า สรส.เตรียมตัดน้ำ ตัดไฟที่กองบัญชาการกองทัพไทย เพื่อไม่ให้มีการประชุมครม.ด้วย

และนอกจากปิดล้อมที่กองบัญชาการกองทัพไทยแล้ว จะเคลื่อนขบวนไปปิดล้อมสถานที่สำคัญซึ่งยังไม่เปิดเผยอีกจุดหนึ่ง เพื่อปิดฉากการทำงานของรัฐบาลให้ได้ในวันนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การชุมนุมของพันธมิตรฯ ช่วงกลางวันต้องเผชิญอากาศร้อนกว่าปกติ ทำให้ผู้ชุมนุมต่างหลบเข้าอยู่ในร่วมเงาของอาคาร อย่างไรก็ตามพื้นที่การชุมนุมก็ยังเนืองแน่นด้วยผู้คน แต่ผู้ร่วมชุมนุมบางคนได้ออกอาการอิดโรยและเริ่มหาที่นอนพักผ่อน ส่วนฝ่ายจัดการก็ยังแจกน้ำและอาหารให้กับผู้ชุมนุมตลอดเวลา

ขณะที่บนเวทียังมีการปราศรัยตามปกติ โฆษกบนเวทีขอให้ทุกคนอดทน เพราะภารกิจยังไม่จบแค่นี้แน่นอน และการเคลื่อนไหวครั้งต่อไป จะไม่เพียงแต่สะสะเทือนในประเทศเท่านั้น แต่จะสั่นสะเทือนไปทั่วโลกด้วย