พระสุเทพเตรียมลาสิกขา ย้ำไม่หวนคืนการเมือง

วันที่ 4 มิถุนายน ที่วัดธารน้ำไหล สวนโมกขพลาราม อ.ไชยา จ.สุราษฏร์ธานี  พระสุเทพปภากโร  หรือ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ อดีต แกนนำ กปปส.

ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่มีกระแสข่าวเรื่องจะลาสิกขาบท ว่า เรื่องดังกล่าวเป็นเรื่องจริง เพราะได้พิจารณาแล้วว่าวันนี้สถานการณ์ในบ้านเมือง มีงานที่เราจะต้องไปช่วยทำ เพราะฉะนั้นจึงตัดสินใจว่าคงลาสิกขาบท ส่วนจะลาเมื่อไรต้องคิดดูก่อน เพราะมีงานที่ต้องทำ เมื่อลาสิกขาบทแล้ว ก็จะไม่กลับไปเป็นสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ และจะไม่ลงสมัครรับเลือกตั้งเป็นส.ส. ไม่ไปต่อสู้ในทางการเมืองอย่างที่เคยทำมา


เพราะเราตั้งใจจะไปทำงานในภาคประชาชน เนื่องจากได้จดทะเบียน ในนามมูลนิธิมวลมหาประชาชนเพื่อการปฏิรูปประเทศไทย

ซึ่งมูลนิธิฯ จะทำงานด้านการสร้างความเป็นปึกแผ่นเข้มแข็งให้กับประชาชน  อาทิ ทำอย่างไรให้คนมีหลักยึดในจิตใจมีสรณะ ธรรมะ ส่งเสริมสังคมมีคุณธรรมมีศีลธรรม สนับสนุนโครงการชุมชนเศรษฐกิจพอเพียง ชุมชนต้นแบบที่มีคนหนุ่มสาวที่แต่งงาน แต่มีฐานะไม่ดีอยากใช้ชีวิตที่มีคุณค่า ชีวิตที่มีธรรมะ ยืนหยัดด้วยตัวเอง ไปเป็นเกษตรกร โดยเราจะไปเช่าที่เกาะสมุย จ.สุราษฏร์ธานี  เพื่อเปิดโอกาสให้คนหนุ่มสาวเหล่านั้นได้มีโอกาสไปใช้ชีวิต

ถามว่า หากมีนักการเมืองหรือผู้สนใจการเมือง ต้องการคำปรึกษายังพอจะให้ความรู้ได้ หรือไม่ พระสุเทพ กล่าวว่า 

ใครจะมาปรึกษา เพราะบอกแล้วว่าจะไปทำงานภาคประชาชน ภาคสังคม เรื่องการมาขอคำปรึกษาทางการเมือง ก็อยากจะบอกว่า คนเราอย่าสำคัญตัวผิด ที่มาบวชแล้วก็ได้ประโยชน์ อย่าไปยึดมั่นถือมั่นในตัวตนมากนัก เราไม่ใช่คนที่สำคัญที่สุดในประเทศนี้ เป็นแค่คนธรรมดาคนหนึ่งเท่านี้  จะขอทำหน้าที่ของเราเพื่อพระมหากษัตริย์ เพื่อประเทศชาติ และเพื่อประชาชน


ส่วนมีข่าวว่าสมาชิก กปปส.บางคนอาจกลับไปสู่ถนนการเมืองในนามพรรคประชาธิปัตย์นั้น ก็เป็นสิทธิของเขา

 คนออกมาต่อสู้ร่วมกันเมื่อปี 2556-2557 หลายล้านคน จะมาตัดสินใจอย่างเราคงไม่ได้ บางคนต้องไปเป็นส.ส. บางคนก็ทำงานการเมือง ตรงนี้ก็แล้วแต่ความคิดของแต่ละคน กับบรรดาอดีตส.ส.ที่เคยเดินในถนน หากจะมาขอคำปรึกษา ถ้าคิดว่าเขาทำในสิ่งที่ถูกต้อง เราสามารถให้ความคิดเห็นที่ถูกต้องได้ ก็เป็นเรื่องธรรมดาสามารถให้ได้ ไม่ได้ผิดอะไร ตราบใดที่เราให้ความเห็นที่ถูกต้อง