พรรคไทยรักไทย ยื่นคำแถลงปิดคดี

วันที่ 1 พ.ค. ที่สำนักงานศาลรัฐธรรมนูญ ตุลาการรัฐธรรมนูญได้มีการประชุมเพื่อพิจารณาสำนวนต่างๆในคดียุบพรรคตามปกติ โดยในช่วงบ่าย นายสมศักดิ์ โตรักษา ทนายความของพรรคไทยรักไทย ได้นำคำแถลงปิดคดีจำนวน 60 หน้ากระดาษ มายื่นให้ฝ่ายเลขานุการศาลรัฐธรรมนูญ

โดยนาย สมศักดิ์กล่าวว่า เนื้อหาในคำแถลงปิดคดีส่วนใหญ่จะเป็นข้อแก้ต่างด้านกฎหมาย ข้อเท็จจริงการชี้แจงการหักล้างของพยาน ต่อข้อถามว่า คำแถลงปิดคดีข้อหนึ่งระบุว่า ตุลาการรัฐธรรมนูญมิใช่ศาล จึงไม่สามารถพิจารณาคดียุบพรรคได้ หมายความว่าไม่ยอมรับการตัดสินใช่หรือไม่

นายสมศักดิ์ตอบว่า เป็นการต่อสู้ทางหลักวิชาการ ไม่ได้มี อคติกับตุลาการ เพราะตุลาการรัฐธรรมนูญไม่ได้ รับการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว

เราจึงเห็นว่าตุลาการไม่ใช่ศาล ทีมกฎหมายต่อสู้ในประเด็นที่มา ของตุลาการรัฐธรรมนูญ ที่มาจากเผด็จการจึงถือว่ามิชอบ

"อย่างไรก็ตาม หากตุลาการรัฐธรรมนูญตัดสินออกมาอย่างไร ในฐานะทีมกฎหมายถือว่ายอมรับได้หมด ต้องยอมรับโดยดุษณีเพราะทุกอย่างมีกติกา และไม่เห็นด้วยหากจะมีสมาชิกของพรรคไทยรักไทยเคลื่อนไหวกดดันตุลาการ

ผู้สื่อข่าวถามว่า มีความเห็นอย่างไรที่ตุลาการรัฐธรรมนูญมีการประชุมโดยไม่อนุญาตให้ฝ่ายเลขาธิการศาลรัฐธรรมนูญเข้ารับฟัง

นายสมศักดิ์กล่าวว่า เป็นอิสระของตุลาการ ตนเชื่อในความยุติธรรมและในจิตวิญญาณของตุลาการทุกคน ท่านอาจกลัวว่าความลับจะรั่วไหลก็ได้ ถือเป็นเรื่องปกติในการพิจารณา" นายสมศักดิ์กล่าว

ร.ท.กุเทพ ใสกระจ่าง โฆษกคณะทำงานบริหารจัดการพรรคไทยรักไทย กล่าวว่า หลังจากตุลาการรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยคดียุบพรรคในวันที่ 30 พ.ค.นี้แล้ว

ทางพรรคจะมีการแถลงอย่างเป็นทางการจากผู้บริหาร พรรค ไม่ว่าจะถูกยุบพรรคหรือไม่ก็ตาม ในวันดังกล่าวที่ทำการพรรคคงจะมีสมาชิกและผู้สนับสนุนพรรคไปรวมตัวกัน แต่คงไม่มาก และมั่นใจว่าจะควบคุมสถานการณ์ได้

นายถาวร เสนเนียม รองเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะทนายความว่าคดียุบพรรค แถลงถึงกรณีมีรายงานข่าวระบุว่า อัยการสูงสุดได้ส่งคำแถลงปิดคดีให้ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญเพื่อให้ยุบทุกพรรค และห้าม กรรมการบริหารพรรคเป็นกรรมการบริหารพรรคใหม่ 5 ปี

และห้ามดำรงตำแหน่งทางการเมืองอีก 5 ปีว่า อัยการสูงสุดบอกว่าได้ให้ความเป็นธรรมกับพรรคประชาธิปัตย์ และอ้างว่าเป็นการให้บุญให้คุณกับพรรคประชาธิปัตย์นั้นไม่ใช่เรื่องจริง

เพราะประเด็นที่ไม่ขอให้ยุบพรรคประชาธิปัตย์ คือการที่หัวหน้าได้ปราศรัยและออกแถลงการณ์ ขอนายกรัฐมนตรีพระราชทาน ตามมาตรา 7 เป็นเรื่องที่ไม่ผิดกฎหมาย

นอกจากนี้ ยังมีความพยายามเอาผิดกรณีที่พรรคไม่ส่งสมาชิกลงรับเลือกตั้ง แต่รัฐธรรมนูญเขียนไว้ชัดเจนว่าเป็นสิทธิของพรรคการเมือง ที่จะส่งหรือไม่ส่งสมาชิกพรรคลงรับเลือกตั้งก็ได้ รวมถึงข้อกล่าวหาอื่นด้วยเช่นกัน

ดังนั้น สิ่งที่พรรคประชาธิปัตย์ยืนยันว่า เป็นข้อเท็จจริงไม่ได้ใส่ร้ายป้ายสี

ขอขอบคุณ : ข้อมูลข่าวที่มีคุณภาพจาก หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ