พท.อ้างฮ่องกงไม่ส่งตัวแม้วกลับไทย เยอรมนี-เขมรปัดออกพาสปอร์ตให้ ดี-สเตชั่นรวมพลคนสีแดง23พ.ค.

พรรคเพื่อไทยอ้างฮ่องกงมีหนังสือตอบก.ต่างประเทศ จะไม่ส่งตัว"แม้ว"ให้ไทย เพราะถือเป็นเขตปกครองพิเศษ ไม่มีสนธิสัญญาส่งผู้ร้ายข้ามแดน "เยอรมนี-กัมพูชา" ปฏิเสธออกพาสปอร์ตให้แม้ว ปชป.บี้อัยการสูงสุดจับ"แม้ว" ดี-สเตชั่นรวมพลคนหัวใจสีแดง 23พ.ค.

 
พท.อ้างฮ่องกงมีหนังสือจะไม่ส่งตัว"แม้ว"ให้ไทย

รายงานข่าว จากแกนนำพรรคเพื่อไทยเปิดเผยเมื่อวันที่ 22 พฤษภาคมว่า กรณีกระทรวงการต่างประเทศของไทย ทำหนังสือถึงผู้บริหารเขตปกครองพิเศษฮ่องกง เพื่อขอความร่วมมือส่งตัว พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯกลับมาดำเนินคดีในประเทศไทย ล่าสุดทางการเขตปกครองพิเศษฮ่องกงได้ส่งหนังสือแจ้งกลับมาว่า ไม่สามารถกระทำได้ เพราะไทยกับเขตปกครองพิเศษฮ่องกงไม่มีสนธิสัญญาส่งผู้ร้ายข้ามแดนระหว่างกัน 

"ฮุนเซน"ปัด"แม้ว"ถือพาสปอร์ตเขมร

ด้านนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง กล่าวถึงกระแสข่าว พ.ต.ท.ทักษิณถือหนังสือเดินทาง 7 เล่ม โดยในจำนวนนี้มีของประเทศกัมพูชาด้วยว่า เคยพบกับสมเด็จฯฮุน เซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชาได้รับคำยืนยันว่า พ.ต.ท.ทักษิณไม่มีพาสปอร์ตของกัมพูชา ตนก็เชื่อสมเด็จฯฮุน เซน และไม่ได้ไปตรวจสอบต่อ ส่วนของประเทศอื่นๆ ไม่มีข้อมูลตรงๆ จึงตอบไม่ได้ ส่วนความเคลื่อนไหวของ พ.ต.ท.ทักษิณที่เมืองดูไบนั้น เป็นเรื่องที่ต้องดูกันต่อไป

ด้านนายธฤต จรุงวัฒน์ อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการประเทศกล่าวถึงความเป็นไปได้ในการแลกตัวผู้ต้องหาระหว่างไทยกับสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (ยูเออี) ว่าโดยหลักการแล้ว ประเทศที่ไม่มีการทำสนธิสัญญาการส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดน จะใช้หลักต่างตอบแทนในการแลกตัวนักโทษคดีเดียวกันหรือมีฐานความผิดคล้ายกัน ซึ่งในคดีของผู้ต้องหายูเออีที่ตำรวจไทยควบคุมตัวไว้เป็นความผิดฐานฉ้อโกงต่างกับกรณีของ พ.ต.ท.ทักษิณที่เป็นคดีทุจริต แต่ก็ได้ส่งเรื่องไปให้ทางการยูเออีพิจารณาส่งตัว พ.ต.ท.ทักษิณ กลับมาดำเนินคดีที่ประเทศไทยแล้ว รอแค่ว่าทางการยูเออีจะตอบรับหรือไม่

ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีที่ ร.ต.อ.เฉลิมออกมาระบุว่า พ.ต.ท.ทักษิณถือหนังสือเดินทาง 6-8 ประเทศนั้น นายธฤตกล่าวว่า เป็นสิทธิที่แต่ละประเทศสามารถทำได้แต่ฝ่ายการเมืองคงต้องหาโอกาสชี้แจง แสดงเหตุผลและความห่วงกังวลของรัฐบาลไทยไปยังประเทศที่ออกหนังสือเดินทางแก่ พ.ต.ท.ทักษิณเหมือนที่เคยทำต่อประเทศนิการากัว ในส่วนของกระทรวงการต่างประเทศจะตรวจสอบข้อเท็จจริงไปยังประเทศต่างๆ อีกครั้ง

"เยอรมนี" ปฏิเสธออกพาสปอร์ตให้แม้ว

เว็บไซต์ของหนังสือพิมพ์บางกอกโพสต์รายงานว่า เมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม สถานทูตเยอรมนีในประเทศไทย โดยนายธีโอดอร์ โปรฟเฟ โฆษกสถานทูตเยอรมนีประจำประเทศไทยออกมาชี้แจงกรณี พ.ต.ท.ทักษิณถือหนังสือเดินทางของเยอรมนีว่า พ.ต.ท.ทักษิณไม่มีพาสปอร์ตของเยอรมนีแต่อย่างใด  

ซึ่งการออกมาชี้แจงของสถานทูตเยอรมนี สืบเนื่องมาจากรายงานข่าวที่ปรากฏในหน้าหนังสือพิมพ์หลายฉบับวันเดียวกันนี้ที่อ้างคำกล่าวของ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ส.ส.พรรคเพื่อไทย ที่ระบุว่า พ.ต.ท.ทักษิณมีหนังสือเดินทางที่ออกให้โดยประเทศต่างๆ ถึง 6 เล่ม ซึ่งรวมถึงหนังสือเดินทางของเยอรมนีด้วย

ปชป.บี้อัยการสูงสุดจับ"แม้ว"

นายเทพไทแถลงว่า ข้อมูลของ ร.ต.อ.เฉลิมที่บอกได้นอนคุยและให้ พ.ต.ท.ทักษิณเลี้ยงข้าวที่นครดูไบ เป็นการยืนยันว่า พ.ต.ท.ทักษิณ มีแหล่งพำนักที่นั่นจริง ดังนั้น ทางอัยการสูงสุดสามารถดำเนินการจับตัวนักโทษหนีคดีคนนี้ได้ เพราะทราบภูมิลำเนาที่ชัดเจนแล้ว ทั้งนี้ เชื่อว่าเมื่อใดก็ตามที่ทางการไทยทำเรื่องขอตัว พ.ต.ท.ทักษิณ อย่างเป็นทางการ ทางการยูเออีน่าจะยอมส่งตัว พ.ต.ท.ทักษิณกลับประเทศ เพราะแม้ พ.ต.ท.ทักษิณอาจจะมีความสัมพันธ์ทางธุรกิจอยู่ที่นั่นบ้าง แต่เชื่อว่ายูเออีต้องคำนึงถึงความสัมพันธ์ระหว่างประเทศมาก่อนสิ่งอื่นใด

วอน"ทักษิณ"กลับพิสูจน์ความจริงใจ

ด้าน พล.อ.อภิชาต เพ็ญกิตติ ปลัดกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงการดำเนินคดีกับ พ.ต.ท.ทักษิณว่า ทางการไทยไม่ว่าจะเป็นนายกรัฐมนตรีหรือรัฐบาลประกาศมาตลอดในการให้ พ.ต.ท.ทักษิณเข้ามาดำเนินคดีในไทย ถ้าไม่มีการก่อกวนหรือก่อหวอดและดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายคงไม่มีปัญหา   เมื่อถามว่า การเดินทางกลับเข้าไทยจะเป็นการจุดกระแสเสื้อแดงเสื้อเหลืองหรือไม่ พล.อ.อภิชาตกล่าวว่า อยากให้ประชาชนไม่ว่าฝ่ายใดอยู่บนพื้นฐานของเหตุผล และกฎหมายเป็นหลัก หากปฏิบัติตามกฎหมายจะไม่วุ่นวาย ซึ่งในหลักการ พ.ต.ท.ทักษิณต้องกลับเข้ามาสู้คดี ส่วนจะทำให้กลุ่มเสื้อแดงมีผู้บัญชาการทำให้เกิดความวุ่นวายมากขึ้นหรือไม่นั้น คิดว่าเป็นสิ่งที่ พ.ต.ท.ทักษิณ พูดมาตลอดว่าต้องการเห็นความปรองดองให้เกิดขึ้นในชาติ ซึ่งจะเป็นการพิสูจน์อย่างหนึ่งว่าเมื่อกลับมาแล้วต้องการเห็นความปรองดองตามที่พูดมาตลอดหรือไม่ คงต้องแสดงออกถึงความจริงใจ เป็นการพิสูจน์ที่พูดเชื่อถือได้หรือไม่ ถ้ากลับเข้ามาและมีปัญหา เสื้อแดงยังสร้างปัญหาอยู่ นั่นก็คือการปลุกกระแสของ พ.ต.ท.ทักษิณ ไม่ได้พูดบนพื้นฐานข้อเท็จจริงอย่างที่อยากให้เป็น 
 
ดี-สเตชั่นรวมพลคนหัวใจสีแดง23พ.ค.

รายงานข่าวแจ้งว่า พ.ต.ท.เอนก ไพรศรี รองผู้กำกับการสืบสวนสอบสวน ตำรวจนครบาล 4 ทำหนังสือถึงกองบัญชาการตำรวจนครบาล เพื่อรายงานสถานการณ์ความเคลื่อนไหวของกลุ่มผู้ชุมนุมว่า เมื่อวันที่ 21 พฤษภาคม ได้ตรวจสอบบริเวณชั้น 5 ห้างอิมพีเรียล ลาดพร้าว กรุงเทพฯ ซึ่งเป็นสถานที่ตั้งของสถานีโทรทัศน์ ดีสเตชั่น พบว่า เปิดสถานีดำเนินการตามปกติ ลักษณะการดำเนินการเป็นลักษณะอัดเทปรายการ และบริเวณชั้น 6 ของห้างมีการจัดเตรียมงานสังสรรค์วันรวมคนหัวใจสีแดง ในวันที่ 23 พฤษภาคม เวลา 18.00- 22.00 น. ซึ่งมีผู้เข้าร่วมเป็นวิทยากรปราศรัย อาทิ นายจตุรนต์ ฉายแสง นายพงษ์เทพ เทพกาญจนา นายอดิศร เพียงเกษ นายมานิตย์ จิตต์จันทร์กลับ นายจตุพร พรหมพันธุ พระมหาโชว์ ทัสสนีโย นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ นายสมพงษ์ สระกวี นายวรพล พรหมิกบุตร และนายสมยศ พฤกษาเกษมสุข มีนายวิบูลย์ แช่มชื่น (อดีต ส.ว.) บรรณาธิการบริหาร Red News และผู้ดำเนินรายการโทรทัศน์เพื่อประชาธิปไตยผู้มาร่วมงานใส่เสื้อได้ทุกสี

จ่ายเงินช่วยญาติเหยื่อที่"นางเลิ้ง"

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในวันเดียวกัน นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม นางสุวณา สุวรรณจูฑะ อธิบดีกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ เดินทางพบญาติผู้เสียชีวิตและผู้บาดเจ็บจากเหตุการณ์ความไม่สงบจากการชุมนุมประท้วงกลุ่มเสื้อแดงที่ตลาดนางเลิ้ง ช่วงเทศกาลสงกรานต์ โดยนายพีระพันธุ์มอบเงินช่วยเหลือให้ นางสุพัตรา โชติกมล มารดานายยุทธการ จ้อยช้อยชด และนางบานเย็น ผลพันพัว ภรรยานายป้อม ผลพันพัว รายละ 100,000 บาท เป็นเงิน 200,000 บาท ประกอบด้วยค่าตอบแทนกรณีผู้เสียหายถึงแก่ความตาย 50,000 บาท ค่าจัดการงานศพ 20,000 บาท และค่าขาดอุปการะเลี้ยงดู 30,000 บาท สำหรับชาวชุมชนนางเลิ้งที่ได้รับบาดเจ็บ 8 ราย ที่แจ้งเรื่องไว้ ขณะนี้อยู่ระหว่างพิจารณาความสูญเสีย

นางบานเย็นกล่าวทั้งน้ำตาว่า แม้เหตุการณ์ผ่านไปเป็นเดือน แต่ทุกครั้งที่เห็นข่าวนี้รู้สึกเสียใจมาก ตนไม่โกรธแค้นคนที่ทำเพราะคนที่เป็นเสื้อแดงในชุมชนนางเลิ้งพยายามชี้แจงว่าเป็นฝีมือคนเสื้อน้ำเงิน อย่างไรก็ตาม ไม่ว่าเป็นฝีมือใครก็ไม่สามารถเรียกชีวิตสามีให้กลับคืนมาได้

ด้านนางสุพัตรากล่าวว่า แม้ได้รับการเยียวยาจากรัฐก็พอช่วยได้ แต่ก็ไม่คุ้มค่ากับการสูญเสียลูกชายที่เลี้ยงมาและลูกคนนี้เป็นเสาหลักครอบครัว เงินจำนวนที่ได้รับไม่คุ้มกับความสูญเสีย


เครดิต :
เครดิต :เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์มติชน


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์