พท.ปูดสธ.ส่อฉาว ไทยเข้มแข็ง ซื้อครุภัณฑ์3หมื่นล.กลิ่นตุๆ ชาวบ้านอำนาจเจริญร้องถูกเปลี่ยนโครงการ

"มาร์ค"โชว์เจ๋งเวทียูเอ็น ชูหลักศก.พอเพียงแก้3วิกฤตโลก ไอเอ็มเอฟคาดเศรษฐกิจโลกเริ่มฟื้นปีนี้

มาร์คเตรียมโชว์ฟอร์มบนเวทียูเอ็น เสนอหลักการเศรษฐกิจพอเพียง เป็นกุญแจสำคัญแก้ 3 วิกฤตโลก "ศก.-ขัดแย้ง-สิ่งแวดล้อม" ไอเอ็มเอฟ ประเมินเศรษฐกิจโลกฟื้นตัวปีนี้จากเดิมติดลบ 1.4% จะกลับเป็นบวก

ระบบล่ม"มาร์ค"แถลงผ่านเว็บช้า


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี เดินทางกลับมายังนครนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐอเมริกา หลังกลับจากการประชุม จี-20 ที่นครพิตสเบิร์ก โดยมีกำหนดจะแถลงข่าวผ่านเว็บคอนเฟอเรนซ์ มายังศูนย์แถลงข่าวตึกนารีสโมสร ทำเนียบรัฐบาล โดยกำหนดแถลงข่าวเวลา 08.30 น. วันที่ 26 กันยายน แต่เมื่อถึงเวลาดังกล่าว มีการแจ้งให้สื่อมวลชนทราบว่านายกฯไปรับประทานอาหารค่ำ ขอเลื่อนเป็นเวลา 10.00 น. แต่เมื่อถึงเวลาดังกล่าวปรากฏว่า ระบบการสื่อสารขัดข้อง ทั้งๆ ที่มีการทดสอบระบบหลักและระบบสำรองล่วงหน้าแล้วหลายชั่วโมง


ต่อมาเจ้าหน้าที่บริษัท กสท โทรคมนาคม จำกัด (มหาชน) พยายามแก้ไขระบบ โดยใช้เวลากว่าหนึ่งชั่วโมง แต่แก้ไขไม่ได้ เนื่องจากระบบล่ม จึงต้องเปลี่ยนใช้ระบบสำรองที่มีสัญญาณภาพเล็กและระบบเสียงช้ากว่าระบบหลัก จึงแจ้งให้ทราบว่านายกฯจะใช้เวลาแถลงข่าวและตอบคำถามสื่อมวลชนไม่นานนัก เพราะต้องใช้เวลาที่เหลือบันทึกเทปรายการ เชื่อมั่นประเทศไทยกับนายกฯอภิสิทธิ์Ž ที่จะออกอากาศในวันที่ 27 กันยายน ก่อนไปพักผ่อนและไปปฏิบัติภารกิจต่อ และเดินทางกลับประเทศไทย โดยจะมาถึงท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ วันที่ 27 กันยายน เวลา 21.25 น.


เผยจี-20ให้กระตุ้นเศรษฐกิจต่อ


นายอภิสิทธิ์กล่าวถึงการเข้าร่วมประชุมกลุ่มประเทศเศรษฐกิจขนาดใหญ่ 20 ประเทศ หรือจี 20 ที่เมืองพิตส์เบิร์กว่า ที่ประชุมเห็นว่ายังไม่ถึงเวลาที่จะยุติมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ และไม่ควรประมาท แนวทางการกระตุ้นเศรษฐกิจของทุกประเทศจะทำให้เศรษฐกิจมีความมั่นคง เพราะทุกประเทศยังห่วงใยปัญหาการว่างงาน


นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ที่ประชุมยังเห็นพ้องต้องกันที่จะปฏิรูปสถาบันการเงินระหว่างประเทศ โดยเฉพาะกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) และธนาคารโลก ให้มีความเป็นธรรมมากขึ้น และสะท้อนการเปลี่ยนแปลงการพัฒนาทางด้านเศรษฐกิจมากขึ้น นอกจากนั้นยังเห็นด้วยกับเรื่องการเปลี่ยนแปลงระบบการเงิน และระบบหมุนเวียนของเงินสกุลต่างๆ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดวิกฤตเศรษฐกิจขึ้นอีกในอนาคต ผู้นำที่เข้าร่วมประชุม จี 20 ยังพูดคุยเกี่ยวกับการเจรจาการค้า ขององค์การการค้าโลก (ดับเบิลยูทีโอ) รอบโดฮา ซึ่งอาเซียนเห็นว่าเรื่องนี้เป็นส่วนสำคัญที่จะประคับประคองให้เศรษฐกิจขยายตัวอย่างยั่งยืน ไม่ต้องพึ่งพาการกระตุ้นเศรษฐกิจจากภาครัฐ และตั้งเป้าไว้ว่าการเจรจาดังกล่าวจะได้ข้อยุติภายในปี 2553


นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ผู้นำยังแสดงความเป็นห่วงว่าการประชุมเรื่องการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอาการที่จะมีขึ้นที่ กรุงโคเปนเฮเก้น ประเทศเดนมาร์ก ว่าจะไม่สามารถบรรลุข้อตกลงได้ จึงคิดว่าประเทศหลักๆ ที่เกี่ยวข้องคงจะต้องประชุมผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ หรือการประชุมระบบทางไกลร่วมกันก่อนที่จะประชุมอย่างเป็นทางการ การประชุมที่ผ่านมาค่อนข้างราบรื่น ณ วันนี้กลไกที่จะดูแลประสานนโยบายเศรษฐกิจของโลก การประชุมจี 20 ถือว่าเป็นเวทีที่ได้ผลที่สุด


มาร์คคุยเจอผู้นำเกือบทุกชาติ


นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า ในการประชุมครั้งนี้ตนยังได้มีโอกาสได้พบปะหารือกับผู้นำประเทศต่างๆ เกือบครบทุกประเทศ อาทิ นายบารัค โอบามา ประธานาธิบดีสหรัฐ ที่มีการพูดคุยกันว่าจะจัดประชุมสุดยอดสหรัฐ-อาเซียน ช่วงการประชุมเอเปค (กลุ่มความร่วมมือทางเศรษฐกิจเอเชีย-แปซิฟิก) ที่ประเทศสิงคโปร์ในปลายปีนี้ ส่วนการพบกับนายกรัฐมนตรีประเทศญี่ปุ่น ตนยืนยันว่าไทยและญี่ปุ่นเป็นหุ้นส่วนที่มีความสำคัญมาโดยตลอด ขณะที่นายกฯญี่ปุ่นบอกว่าจะให้ความสำคัญกับภูมิภาคเอเชียมากขึ้น นอกจากนั้นตนยังมีโอกาสได้พบกับประธานาธิบดีจีน นายกฯอินเดีย ประธานาธิบดีบราซิล


นายกฯหารือประกันสุขภาพกับ"โอบามา"


นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ได้มีโอกาสเข้ารวมงานเลี้ยงที่ประธานาธิบดีสหรัฐ เป็นเจ้าภาพ และพูดคุยกับประธานาธิบดีสหรัฐ ซึ่งท่านได้ชี้แจงเกี่ยวกับระบบประกันสุขภาพในประเทศสหรัฐ ที่ขณะนี้สหรัฐกำลังเผชิญปัญหาอยู่ ผู้สื่อข่าวถามว่า ประธานาธิบดีสหรัฐทราบหรือไม่ว่านายกฯถูกตั้งฉายาว่า "โฮบามาร์ค" นายอภิสิทธิ์หัวเราะ และกล่าวว่า "ท่านคงไม่ทราบหรอกครับ"


นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ในวันที่ 26 กันยายน ตามเวลาท้องถิ่น ที่นครนิวยอร์ก ก่อนที่ตนจะเข้ารวมกล่าวถ้อยแถลงในการประชุมสมัชชาใหญ่ยูเอ็น ตนจะมีโอกาสได้พบปะกับเลขาธิการยูเอ็น หารือเกี่ยวกับสถานการณ์ในประเทศพม่า และการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ


ชูศก.พอเพียงบนเวทียูเอ็นแก้3วิกฤต


เนื้อหาที่ผมจะกล่าวในการประชุมสมัชชา ยูเอ็นนั้น ขณะนี้เรื่องที่มีความสำคัญและได้รับความสนใจ 3 เรื่อง คือวิกฤตเศรษฐกิจ ปัญหาความขัดแย้งที่เกิดขึ้นในโลก และปัญหาสิ่งแวดล้อม โดยผมจะชี้ให้เห็นว่าการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจในประเทศไทยยึดแนวทางเศรษฐกิจพอเพียง และแนวทางนี้จะเป็นวิธีการแก้ไขปัญหาทั้ง 3 เรื่องได้อย่างดียิ่ง เพราะแนวทางนี้เป็นแนวทางที่ตรงกันข้ามกับความโลภ ซึ่งเป็นสาเหตุหลักของวิกฤตเศรษฐกิจ นายอภิสิทธิ์กล่าว


เมื่อถาม ถึงผลสำรวจของสวนดุสิตโพล ระบุว่าประชาชนร้อยละ 70 มองว่าปัญหาเศรษฐกิจแย่ลง และร้อยละกว่า 60 ยังมีหนี้สินติดตัวอยู่ อยากให้รัฐบาลช่วยประชาชนเข้าถึงแหล่งเงินกู้ให้มากขึ้น นายกฯกล่าวว่า ถูกต้อง เรื่องเศรษฐกิจยังติดลบ และรัฐบาลก็บอกแล้วว่าจะเป็นบวกในไตรมาสสุดท้าย จึงจำเป็นต้องผลักดันและกระตุ้นเศรษฐกิจต่อไป ไม่มีใครพูดว่าเศรษฐกิจดี แต่ทุกคนตระหนักและห่วงใยในเรื่องนี้ ถึงบอกว่าทุกคนต้องช่วยกันอย่าทำให้บ้านเมืองสะดุด รัฐบาลก็จะเร่งแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจให้ประชาชน เราไม่มีอะไรแปลกใจ เพราะสภาพนี้เกิดขึ้นทั่วโลก


"ไอเอ็มเอฟ"คาดปีนี้ศก.โลกบวก


วันเดียวกัน สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานจากนครพิตสเบิร์ก รัฐเพนซิลเวเนีย สหรัฐอเมริกา ถึงผลการประชุมสุดยอดผู้นำจี 20 ที่สิ้นสุดลงเมื่อวันที่ 25 กันยายน ด้วยการออกแถลงการร่วมของผู้นำ 19 ประเทศและสหภาพยุโรป (อียู) เมื่อเวลาประมาณ 16.40 น. (03.40 น. 26 กันยายนตามเวลาไทย) ด้วยการยกเอาตัวเลขการขยายตัวของเศรษฐกิจโลก ซึ่งกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) ปรับปรุงขึ้นใหม่หลังการหารือของจี 20 ครั้งนี้ โดยไอเอ็มเอฟคาดหมายว่า เศรษฐกิจโลกจะขยายตัวแข็งแกร่งกว่าที่คาดไว้เดิม โดยเมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา ไอเอ็มเอฟเชื่อว่าปี 2552 นี้เศรษฐกิจโลกจะขยายตัวเป็นลบ 1.4% ก่อนที่จะปรับตัวขึ้นเป็นบวกเล็กน้อยที่ 2.5% ในปี 2553 แต่ในขณะนี้ไอเอ็มเอฟคาดว่าการฟื้นตัวกลับมาอยู่ในแดนบวกของเศรษฐกิจโลกจะเริ่มขึ้นในปีนี้ และจะเพิ่มสูงขึ้นเป็นเกือบ 3%ในปี 2553


แถลงการณ์ยังระบุว่า วัตถุประสงค์ของเราคือการกลับไปสู่โลกที่มีการเติบโตอย่างสมดุล ยืนยาวและอยู่ในระดับสูงอย่างต่อเนื่อง ขณะเดียวกันก็ยังสามารถรักษาพันธสัญญาของเราว่าด้วยการดำเนินนโยบายด้านการคลังอย่างยั่งยืนและรับผิดชอบ และถือเป็นพันธะของเราทุกประเทศที่จะกำหนดมาตรการเชิงนโยบายที่จำเป็นเพื่อให้บรรลุเป้าหมายดังกล่าวต่อไป


ระบุศก.เอเซียฉุดโลกพ้นวิกฤต


"การขยายตัวของเศรษฐกิจในเอเชียช่วยฉุดเศรษฐกิจโลกพ้นจากวิกฤต ในขณะที่ ฝรั่งเศส เยอรมนี และญี่ปุ่น ต่างก็หลุดพ้นจากภาวะถดถอยอย่างเป็นทางการแล้ว ส่วนสหรัฐอเมริกาได้รับการคาดหมายว่าจะพ้นจากภาวะถดถอยตามมาในปลายปีนี้ " แถลงการณ์ระบุ 


อย่างไรก็ตาม ผู้นำจี 20 เห็นตรงกันว่า ยังจำเป็นต้องระมัดระวัง ไม่เลิกล้มแผนกระตุ้นเศรษฐกิจมูลค่าหลายล้านล้านดอลลาร์ทั้งหมดลงในเวลานี้ แต่จะใช้ช่วงเวลาเดียวกันนี้เตรียมการกำหนดยุทธศาสตร์เพื่อการถอนตัวออกมาจากแผนกระตุ้นดังกล่าว เพื่อให้ยุติได้ในเวลาที่เหมาะสมและในรูปแบบที่สอดประสานและร่วมมือซึ่งกันและกัน โดยมีจะยังคงความรับผิดชอบด้านการคลังอย่างต่อเนื่องให้ได้


ยกเครื่องบทบาท"ไอเอ็มเอฟ"


ผลลัพธ์สำคัญประการหนึ่งจากพิตสเบิร์ก ซัมมิท หนนี้ก็คือ การประกาศยกเครื่องศูนย์กลางในการกำกับดูแลระบบเศรษฐกิจของโลกอย่างไอเอ็มเอฟ ที่นอกจากจะมีการปรับเปลี่ยน ลดสัดส่วนการมีสิทธิออกเสียงจากประเทศพัฒนาแล้วในสหภาพยุโรปลงอย่างน้อย 5 เปอร์เซ็นต์เพื่อเพิ่มให้กับประเทศอย่าง จีน บราซิล และอินเดียแล้ว ยังเพิ่มบทบาทให้ไอเอ็มเอฟมีหน้าที่ในการตรวจสอบ กำกับดูแล และแก้ปัญหาสภาพเสียสมดุลทางด้านการค้าและงบประมาณของโลก ซึ่งเชื่อกันว่าเป็นตัวการทำให้วิกฤตที่ผ่านมารุนแรงมากขึ้น


"กองทุนนี้ต้องมีบทบาทสำคัญยิ่งยวดที่จะส่งเสริมสเถียรภาพทางการเงินระหว่างประเทศและสร้างสมดุลในการค้าของโลก" แถลงการณ์ดังกล่าวระบุ
การเปลี่ยนแปลงบทบาทและสัดส่วนในการออกเสียงในไอเอ็มเอฟดังกล่าวควบคู่ไปกับการประกาศลดบทบาทของกลุ่มประเทศอุตสาหกรรมชั้นนำ 8 ประเทศหรือจี 8 ลง และสถาปนาจี 20 ขึ้นเป็นที่ประชุมสูงสุดในการดูแลเศรษฐกิจโลกแทน ถือเป็นการเปลี่ยนแปลงกระบวนการกำหนดแนวทางเศรษฐกิจโลกครั้งสำคัญในรอบกว่า 30 ปี นับตั้งแต่จี 7 ซึ่งต่อมากลายเป็นจี 8 หลังจากเพิ่มรัสเซียเข้าไป เป็นผู้บงการทิศทางเศรษฐกิจโลกมาตั้งแต่ปีกลางคริสต์ทศวรรษ 70


"โอบามา"ชี้ปฏิรูปครั้งสำคัญ


ประธานาธิบดี บารัค โอบามา ของสหรัฐอเมริกา ในฐานะเจ้าภาพการประชุมครั้งนี้ระบุว่า ที่ประชุมจี 20 เห็นตรงกันที่จะเริ่มการปฏิรูปครั้งสำคัญซึ่งอาจนำไปสู่การจัดตั้งโครงสร้างทางเศรษฐกิจระหว่างประเทศขึ้นมาใหม่สำหรับศตวรรษที่ 21 นี้


"เราจะนำความโปร่งใสกว่าเดิมมาสู่ตลาดตราสารอนุพันธ์ เราจะทำให้มาตรฐานการลงทุนระดับชาติเข้มแข็งมากขึ้น เพื่อให้บรรดาธนาคารต่างๆ สามารถรับมือกับการขาดทุนและชดใช้ความเสี่ยงของตนเองด้วยตัวเองได้ เราจะสร้างเครื่องมือที่มีพลังมากกว่าเดิมในอันที่จะทำให้บริษัทด้านการเงินระดับโลกต้องรับผิดชอบมากขึ้น และมีกระบวนการในการบริหารจัดการความล้มเหลวของตนเองอย่างเป็นระเบียบได้ โดยไม่จำเป็นต้องรบกวนเงินภาษีอากร และเราจะทำให้รายได้ของผู้บริหารเชื่อมโยงเข้ากับสมรรถนะในระยะยาวขององค์กรเพื่อให้การตัดสินใจที่ดีได้รับรางวัลตอบแทนแทนที่จะต้องมาละโมบกันในระยะสั้นๆ"


ปล่อยผู้ชุมนุมเดินประท้วง


อย่างไรก็ตาม ที่ประชุมจี 20 ไม่สามารถหามาตรการใดๆ เพื่อดำเนินการกับนายธนาคารที่ก่อให้เกิดความเสี่ยงกับธนาคารของตนได้ นอกจากการกล่าวกว้างๆ เพียงว่าจะแสวงหา มาตรฐานการชดใช้ค่าเสียหายระดับนานาชาติŽ เพื่อยุติการกระทำแบบเสี่ยงเกินตัว แต่หันไปใช้มาตรการตรวจสอบและกำกับดูแลธนาคารให้เข้มงวดมากขึ้นกว่าเดิมแทนด้วยการให้ธนาคารที่บริหารงานล้มเหลวตกอยู่ภายใต้การกำกับดูแล และกำหนดมาตรฐานดำเนินการที่สูงกว่ามาตรฐานทั่วไป


รายงานข่าวแจ้งว่า ในการประชุมวันสุดท้าย ทางการนครพิตสเบิร์กเปิดโอกาสให้ผู้ชุมนุมประท้วงจากหลากหลายกลุ่มจำนวนหลายพันคนเดินขบวนประท้วงไปตามท้องถนนในตัวเมืองเป็นระยะทางหลายกิโลเมตร ไปหยุดลงบริเวณสะพานแอนดี้ วอร์ฮอล เพื่อตะโกนคำขวัญต่อต้านการประชุมครั้งนี้ และยุติลงด้วยการเปิดปราศรัยที่สวนสาธารณะใกล้เคียง โดยไม่มีเหตุการณ์รุนแรงและการปะทะกันเกิดขึ้น ต่างจากวันแรกของการประชุมที่มีการปะทะรุนแรงระหว่างเจ้าหน้าที่กับผู้ชุมนุม จนเป็นเหตุให้มีผู้ถูกจับกุมอย่างน้อย 83 คน และทรัพย์สินเสียหายราว 50,000 ดอลลาร์ (ราว 1.7 ล้านบาท)


เครดิต :
เครดิต :เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์มติชน


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์