พท.ปูดจัดเสื้อแดงเก๊1หมื่นคนแทรกม็อบ ทหารโต้กุข่าวสร้างความปั่นป่วน แกนนำนปช.ลั่นล้อมทำเนียบยืดเยื้อ


แกนนำคนเสื้อแดงประกาศ 24 ก.พ. ปิดล้อมทำเนียบ ชุมนุมยืดเยื้อ ยืนยันไม่ยกพลป่วนประชุมครม.หัวหิน "เทพเทือก" แบ่ง 2 ทีมรับมือม็อบอาเซียน ซัมมิท เพื่อไทยปูดสั่งผลิตเสื้อแดงหมื่นตัวให้จนท.หน่วยงานความมั่นคงแทรกซึมการชุมนุม ทหารโต้กุข่าวหวังสร้างความปั่นป่วนประชุมอาเซียน

"สุเทพ"แบ่ง2ทีมรับมือม็อบบุกป่วน

นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ด้านความมั่นคง ยังมั่นใจการประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียนที่ จ.เพชรบุรี วันที่ 27 กุมภาพันธ์-1 มีนาคม จะไม่มีเหตุวุ่นวาย โดยให้สัมภาษณ์ที่พรรคประชาธิปัตย์ เมื่อเวลา 10.00 น. เมื่อวันที่ 21 กุมภาพันธ์ ถึงมาตรการการรักษาความปลอดภัยในช่วง 5 วันอันตราย ว่าแบ่งการรักษาความปลอดภัยเป็น 2 ทีม คือ ที่กรุงเทพมหานคร มีผู้บัญชาการตำรวจนครบาล เป็นผู้รับผิดชอบดูแล  มีตำรวจนครบาลเป็นหลัก หากไม่พอก็ขอกำลังตำรวจภูธรและทหารมาช่วย
 
นายสุเทพกล่าวว่า ส่วนการประชุมผู้นำอาเซียนที่อยู่ในบริเวณ จ.เพชรบุรีและประจวบคีรีขันธ์ มีผู้บัญชาการตำรวจภาค 7 เป็นผู้ดูแล และจะมีกำลังทหารในพื้นที่ อาสาสมัครภาคประชาชน และฝ่ายปกครองของจังหวัดมาร่วมดูแลด้วย และประชาชนทั้งสองจังหวัด ก็ให้ความร่วมมืออย่างดี และได้แสดงพลังเรียกร้องไม่ให้มีมวลชนมาชุมนุมต่อต้าน รัฐบาลไม่ได้ตั้งศูนย์บัญชาการเป็นพิเศษ และยังไม่มีรายงานเรื่องการเตรียมตัวบุกทำเนียบของกลุ่มคนเสื้อแดง มั่นใจว่าจะไม่มีเหตุวุ่นวาย ขอเรียกร้องความร่วมมือจากคนไทยทุกคน เพราะการประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียน เป็นประโยชน์ต่อประเทศเพื่อเผยแพร่ภาพลักษณ์ที่ดีสู่ชาวโลกเพื่อสร้างความมั่นใจในการมาลงทุนและมาท่องเที่ยว

ผู้สื่อข่าวถามว่า อาจมีการบุกล้อมปิดทำเนียบไม่ให้คณะรัฐมนตรี (ครม.) เข้าไปได้อีกหลังวันที่ 24 กุมภาพันธ์ ที่ ครม.จะไปประชุมที่หัวหิน นายสุเทพกล่าวว่า อย่ากังวลไปก่อน ตอนนี้รัฐบาลทำวันนี้ให้ดีที่สุด ตนเห็นใจประชาชนที่กลุ้มกับการเมืองมาก จึงขอทุกฝ่ายอย่าสร้างความกังวลให้ประชาชนมากกว่านี้

"มาร์ค"ขอภาคธุรกิจช่วยคุยเสื้อแดง

วันเดียวกันสำนักข่าวไทยรายงานภารกิจของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ระหว่างเยือนสาธารณรัฐอินโดนีเซียเป็นวันที่ 2 ว่านายอภิสิทธิ์พบปะกับผู้แทนนักธุรกิจไทย ตัวแทนชมรมสตรีไทย และตัวแทนนักศึกษาไทยในอินโดนีเซีย และได้เปิดโอกาสให้ซักถามสถานการณ์ประเทศไทย โดยมีผู้สอบถามถึงเตรียมความพร้อมเจ้าภาพจัดประชุมสุดยอดอาเซียน ที่ จ.เพชรบุรี ซึ่งนายอภิสิทธิ์กล่าวยืนยันว่า ไม่มีปัญหา แต่ในวันที่ 24 กุมภาพันธ์ จะมีการชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดงที่กรุงเทพฯ ซึ่งเป็นห่วง แม้เจ้าหน้าที่จะเตรียมความพร้อมดูแลการชุมนุมให้เป็นไปตามมาตรฐานสากลก็ตาม แต่มองในแง่ดีว่าจะไม่มีปัญหาบานปลาย และนายสุเทพ รองนายกฯ ได้ดูแลเรื่องนี้อย่างใกล้ชิดซักซ้อมความพร้อมและปรับรูปแบบให้เข้ากับสถานการณ์ตลอดเวลา แต่ส่วนตัวต้องการขอความร่วมมือกับภาคธุรกิจเอกชนให้ช่วยพูดกับคนเสื้อแดงว่าอย่าชุมนุม เพราะความเสียหายไม่ได้เกิดขึ้นกับรัฐบาล แต่เป็นหน้าตาของประเทศ

บอกต่างชาติเมินไม่ถามเสื้อแดง

เวลา 16.30 น. ที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ นายอภิสิทธิ์แถลงภายหลังกลับจากการเดินทางเยือนสาธารณรัฐอินโดนีเซีย ว่าได้พบกับเอกอัครราชทูตหลายประเทศ ได้รับการสอบถามถึงความพร้อมในการจัดการประชุมสุดยอดอาเซียน แต่ไม่มีใครสอบถามกรณีกลุ่มเสื้อแดงนัดชุมนุมในช่วงดังกล่าว คิดว่าต่างประเทศสนใจจะเห็นความก้าวหน้าของอาเซียนมากกว่า ส่วนการชุมนุมถ้าอยู่ภายใต้กรอบของกฎหมายทำได้ ไม่มีอะไรน่าตกใจ ต่างประเทศโดยเฉพาะสังคมประชาธิปไตยน่าจะเข้าใจ 

เมื่อถามถึงกรณีนายสุเทพระบุว่ากลุ่มเสื้อแดงอาจก่อเหตุรุนแรงในช่วงประชุมสุดยอดอาเซียน นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า "ผมคิดว่ามันมีบางกลุ่ม ซึ่งยังหวังว่าเป็นส่วนน้อย และอยากฝากให้แกนนำกลุ่มดูแล" เมื่อถามว่า มองหรือไม่ว่าการที่ ส.ส.พรรคเพื่อไทย (พท.) บางส่วนไปพบ พ.ต.ท.ทักษิณที่เกาะฮ่องกง อาจไปรับงานมาเพื่อก่อความวุ่นวายในประเทศ นายกฯกล่าวว่า ไม่อยู่ในฐานะที่จะไปคาดคะเนอะไร แต่อยากให้ ส.ส.ทุกคนคิดถึงประโยชน์ของประเทศ

ประชาธิปัตย์ซัด"แม้ว"ใกล้ไทยทีไรป่วนทุกที

นพ.บุรณัชย์ สมุทรักษ์ ส.ส.สัดส่วน โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ แถลงว่า กรณีกลุ่มเสื้อแดงชุมนุมใหญ่โดยเริ่มตั้งแต่วันที่ 19 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา สอดคล้องกับการที่ ส.ส.พรรคเพื่อไทยเดินทางไปพบ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ที่ฮ่องกง และเมื่อ พ.ต.ท.ทักษิณเดินทางมาใกล้ประเทศทีไรก็เกิดความวุ่นวาย พฤติกรรมเหล่านี้เป็นการเดินสายทำลายความน่าเชื่อถือของประเทศไทยต่อนานาชาติ และยังบิดเบือนความจริง พรรคคุยกันว่าที่กำลังจะเกิดขึ้นเชื่อว่ามีความมุ่งหวังให้มีความรุนแรงเพื่อผ่านสื่อไปยังนานาชาติ เรื่องนี้ทั้ง 3 ฝ่ายดังกล่าว สามารถหยุดการฉุดประเทศให้ถอยหลังได้ และฝ่ายรัฐบาลไม่ประมาทในการที่กลุ่มเสื้อแดงอาจจะบุกไปยึดสถานที่สำคัญอย่างทำเนียบ หรือ ป.ป.ช.

ตำรวจนครบาลซ้อมปราบจลาจล

พล.ต.ต.อำนวย นิ่มมะโน รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (รอง ผบช.น.) กล่าวถึงกรณีกลุ่มคนเสื้อแดงปิดล้อมทำเนียบรัฐบาลในวันที่ 24 กุมภาพันธ์ ว่าตำรวจเตรียมความพร้อมไว้แล้ว เรื่องนี้ทางแกนนำได้มีการพูดผ่านสื่อว่า รู้ว่าสิ่งใดผิดกฎหมายหรือไม่ ก็อยากให้ปฏิบัติตาม อย่าว่าแต่เขาอีเหนาเป็นเอง ในวันนี้เวลา 15.00-16.00 น. จะมีการซักซ้อมปราบจลาจลที่สโมสรตำรวจ ถนนวิภาวดีรังสิต

พล.ต.ต.อำนวยกล่าวว่า ได้มีการเสนอ พล.ต.ท.วรพงษ์ ชิวปรีชา ผบช.น. ลงนามในเรื่องการควบคุมฝูงชน ซึ่งในวันที่กลุ่มเสื้อแดงเคลื่อนอยากให้ ป.ป.ช. คณะกรรมการสิทธิมนุษยชน สภาทนายความ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง มาเป็นสักขีพยานการทำงานของเจ้าหน้าที่ มาดูว่าตำรวจปฏิบัติอย่างไร ผู้ชุมนุมปฏิบัติอย่างไร และอาจขอความร่วมมือกับสื่อมวลชนเพื่อขอตัววิ่งรายงานเหตุเป็นระยะๆ ตำรวจจะไม่ใช้ความรุนแรง และจะไม่ไปตั้งด่านสกัด จะเน้นดูแลในจุดสถานที่ราชการที่สำคัญมากกว่า เพราะที่ผ่านมาเมื่อตำรวจปล่อยไม่มีการปะทะก็จะยิ่งทำให้ฮึกเหิม แต่ต้องย้ำว่าห้ามบุกรุก หรือปิดกั้นทางเข้า-ออก โดยเฉพาะทำเนียบรัฐบาลเป็นหน้าตาของบ้านเมือง ต้องขอความกรุณาด้วย

เพื่อไทยปูด"มั่นคง"ผลิตเสื้อแดงเก๊หมื่นตัว

เวลา 10.30 น. ที่ทำการพรรคเพื่อไทย อาคารบีบีดี บิวดิ้ง นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย  แถลงว่า ได้รับข้อมูลว่าหน่วยมั่นคงมีแผนการขั้นที่ 2 ออกมาแล้ว โดยการสั่งผลิตเสื้อสีแดงคอโปโลจำนวน 10,000 ตัว เพื่อแจกจ่ายให้กับเจ้าหน้าที่หน่วยงานด้านความมั่นคง ซึ่งพรรคตั้งข้อสังเกตว่าเป็นแผนการให้เจ้าหน้าที่ของหน่วยงานดังกล่าวพาเสื้อแดงเทียมเข้าแทรกซึมการชุมนุมของกลุ่ม นปช.ในวันที่ 24 กุมภาพันธ์นี้หรือไม่ เพื่อสร้างสถานการณ์เช่นเดียวกับการบุกยึดทำเนียบรัฐบาลของกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยหรือไม่ ขอตั้งคำถามไปยังนายกรัฐมนตรี นายสุเทพ และ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ว่างบประมาณที่จัดซื้อเสื้อดังกล่าว เป็นงบฯของหน่วยงานใด เป็นงบลับหรือไม่ ทั้งนี้ ในส่วนของคนเสื้อแดง ขอเรียกร้องให้คนเสื้อแดงช่วยจับตาพฤติกรรมของบุคคลที่สวมเสื้อสีแดงคอโปโลที่มีพฤติกรรมแปลกๆ ด้วย

โยงปิดสนามบิน-กษิตทำ"ฮิลลารี่"ไม่มา

นายพร้อมพงศ์กล่าวว่า ขอตั้งข้อสังเกตถึงกรณีที่นางฮิลลารี่ คลินตัน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ สหรัฐอเมริกา ซึ่งมาเยือนประเทศแถบเอเชียและประเทศอาเซียนในเร็วๆ นี้ โดยไปเยือนประเทศอินโดนีเซีย แต่ไม่ได้มาไทย อาจมีสาเหตุ 1.เกิดจากการปิดสนามบินสุวรรณภูมิ

2.นายกษิต ภิรมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ไม่เป็นที่ยอมรับของต่างประเทศ 3.นายอภิสิทธิ์และผู้นำรัฐบาลไทยในฐานะผู้นำอาเซียนไม่เป็นที่ยอมรับ เพราะตั้งรัฐบาลไม่มีความสง่างาม 4.นายเทพไท เสนพงศ์ โฆษกส่วนตัวหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ออกมาให้ข่าวว่าสหรัฐอเมริกาไม่ออกวีซ่าเข้าประเทศให้กับพ.ต.ท.ทักษิณ เพราะถูกขึ้นแบล๊คลิสต์ ดังนั้น ขอเรียกร้องให้นายอภิสิทธิ์ ชี้แจงทำความเข้าใจข้อเท็จจริงดังกล่าว เพื่อให้นักลงทุนต่างชาติและคนไทยเกิดความมั่นใจ

เสื้อแดงลั่นล้อมทำเนียบยืดเยื้อ

นายจตุพร พรหมพันธุ์ ส.ส.สัดส่วนพรรคเพื่อไทย ในฐานะแกนนำ นปช.และผู้ดำเนินรายการความจริงวันนี้ ทางสถานีโทรทัศน์ดีสเตชั่น กล่าวยืนยันว่า คนเสื้อแดงที่อยู่ในกลุ่ม นปช.และรายการความจริงวันนี้จะไม่ไปชุมนุมบริเวณสถานที่จัดประชุมคณะรัฐมนตรีสัญจร ที่ อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ วันที่ 24 กุมภาพันธ์ อย่างแน่นอน รวมไปถึงการประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียนด้วย เพราะไม่เกิดประโยชน์อะไรขึ้นมา แต่จะนัดหมายคนเสื้อแดงรวมพลกันที่ท้องสนามหลวงในเวลา 09.00 น. โดยจะเดินทางไปถึงทำเนียบรัฐบาลในเวลา 10.00 น. แม้ว่าจะไม่มีคณะรัฐมนตรีอยู่ในทำเนียบฯเลยก็ตาม เพราะจะไปแสดงจุดยืนอยู่บริเวณรอบทำเนียบ ไม่มีการบุกรุกเข้าไปภายใน แต่จะชุมนุมอย่างยืดเยื้อหน้าทำเนียบรัฐบาลแทน เพราะเราแยกแยะอย่างชัดเจนระหว่างปัญหาของรัฐบาลกับหน้าตาของประเทศชาติ

แถลงแผนเคลื่อน"ดีสเตชั่น"วันนี้

นายจตุพรกล่าวว่า ไม่สามารถบอกจำนวนผู้ร่วมชุมนุมได้ แต่ที่ผ่านมาพิสูจน์แล้วมีจำนวนมากกว่ากลุ่มพันธมิตร ส่วนจะต้องปิดถนนกี่ด้านนั้นขึ้นอยู่กับจำนวนผู้เข้าร่วมชุมนุม แต่จะทำให้เกิดความเดือดร้อนกับประชานให้น้อยที่สุด ในช่วงเวลากลางวันจะขึ้นไปอาศัยอยู่บนทางเท้าเพื่อเปิดทางให้รถสามารถสัญจรผ่านไปมาได้ตามปกติ รวมไปถึงเครื่องเสียงด้วยที่จะหันหน้าเข้าทำเนียบรัฐบาล เพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบกับโรงเรียนที่ทำการเรียนการสอนบริเวณนั้น ในวันที่ 22 กุมภาพันธ์ ตนพร้อมกับแกนนำ นปช. จะแถลงรายละเอียดและความชัดเจนในการเคลื่อนไหวอย่างเป็นทางการอีกครั้งหนึ่งในเวลา 11.00 น. ที่สถานีโทรทัศน์ดีทีวี

นายจตุพรยังกล่าวถึงกรณีที่โฆษกพรรคเพื่อไทย ได้รับข้อมูลว่า หน่วยมั่นคงสั่งผลิตเลื้อแดงคอโปโล 1 หมื่นตัวว่า ได้รับข้อมูลมาเช่นนั้น แต่ใครก็ตามที่เคลื่อนไหวอย่างมีวัตถุประสงค์ที่จะทำลายคนเสื้อแดง ก็จะไม่รอดพ้นสายตาของกลุ่มผู้ชุมนุมอย่างแน่นอน ซึ่งพวกมือที่ 3 เสร็จเท้าที่ 4 ทั้งนั้น

เสื้อแดงอยุธยาไปพักร้อนชะอำ-หัวหิน

นางมยุรี เศวตาศัย ผู้ประสานงานชมรมคนเสื้อแดงอยุธยา เปิดเผยว่า ชมรมคนเสื้อแดงอยุธยา เตรียมจะไปพักร้อนและฉลองความสำเร็จการยกระดับกลุ่ม ที่ อ.ชะอำ จ.เพชรบุรี และ อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ ในช่วงสัปดาห์หน้านี้แน่นอน ซึ่งจะไปกันประมาณ 100 คน ทั้งนี้ นอกจากจะไปท่องเที่ยวแล้ว ยอมรับว่ามีจุดประสงค์ทางการเมืองด้วย เพราะช่วงระหว่างวันที่ 24-28 กุมภาพันธ์ รัฐบาลจะมีการประชุมกรรมการบริหารพรรคประชาธิปัตย์ คณะทำงานปฏิบัติการทางการเมือง (วอร์รูม) รวมทั้งมีการประชุมอาเซียนซัมมิท ระหว่างวันที่ 26-28 กุมภาพันธ์ด้วย

ผบ.สส.ซัดกุข่าวแจกเสื้อแดงปลอม

เวลา 13.00 น. ที่สนามบินสุวรรณภูมิ พล.อ.ทรงกิตติ จักกาบาตร์ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด ให้สัมภาษณ์หลังกลับจากประเทศเวียดนาม ถึงการชุมนุมของมกลุ่มเสื้อแดง ไม่เห็นมีความจำเป็นอะไรที่จะมาทำให้ประเทศไทยเสียชื่อเสียง การดำเนินการใดๆ ควรแบ่งแยกระหว่างการเมืองภายในประเทศกับภายนอกประเทศออกจากกัน และทุกคนควรคิดถึงประเทศชาติ มั่นใจว่าจะไม่มีการปิดสนามบินแน่นอน เมื่อถามว่า มีกระแสข่าวว่าซื้อเสื้อแดงแจกจ่ายให้ฝ่ายความมั่นคงแฝงตัวไปในกลุ่มคนเสื้อแดง พล.อ.ทรงกิตติกล่าวว่า ไม่ทราบข่าว มีแต่การสร้างข่าวมาหลายปีน่าจะหยุดกันได้แล้ว

พ.อ.จิตตสักก์ เจริญสมบัติ โฆษกกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงกรณีพรรคเพื่อไทยระบุว่า ฝ่ายความมั่นคงเตรียมเสื้อแดง 10,000 ตัว ว่าไม่มีข่าวลักษณะนี้ในกองทัพ เชื่อว่าพูดเพื่อตีกันเผื่อไว้มากกว่า ทั้งนี้ การจะให้ใครเข้าไปแฝงตัวในกลุ่มผู้ชุมนุมจำนวนมากขนาดนี้คงทำได้ยาก เพราะการชุมนุมแกนนำแต่ละกลุ่มต้องรู้จักหน้าตากันอยู่แล้ว ดังนั้น คิดว่าพูดเพื่อปล่อยข่าวโคมลอย พูดไม่มีสาระ หวังสร้างความปั่นป่วนในระหว่างการประชุมผู้นำกลุ่มประเทศอาเซียนเท่านั้น ไม่นานก็คงสลายชุมนุมไปเอง

ด้านนายวิวัตน์ วัฒนสันติสุข แกนนำพันธมิตร แม่สอด จ.ตาก กล่าวถึงการจัดงาน "การเมืองใหม่เพื่อพัฒนาประชาธิปไตยภาคประชาชน" ที่สนามกีฬากลางเทศบาลเมืองแม่สอด เย็นวันที่ 22 กุมภาพันธ์ ว่ามีความพร้อมแล้ว 100% งานนี้จะมีแกนนำพันธมิตรคนดังมาร่วมงานมากมาย คาดว่าจะมีผู้มาร่วมงานราว 10,000 คน

ป.ป.ช.เตรียมขอผลสอบ7ตุลาฯ

วันเดียวกัน นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ระหว่างเป็นประธานทอดผ้าป่าสามัคคี สำนักสงฆ์ เขาขี้แรด ต.คลองมวน อ.รัษฎา จ.ตรัง ถึงรายงานผลการสอบสวนเหตุการณ์สลายการชุมนุมที่หน้ารัฐสภา เมื่อวันที่ 7 ตุลาคม 2551 ของคณะกรรมการอิสระชุดที่มีนายปรีชา พานิชวงศ์ เป็นประธานว่า การสอบสวนเหตุการณ์ 7 ตุลาฯขณะนี้ยังไม่สมบูรณ์ เนื่องจากมีอุปสรรคจำนวนมาก และคณะกรรมการสอบสวนก็ถูกกล่าวหาทางการเมือง

นายกล้านรงค์ จันทิก กรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) กล่าวว่า มีความเป็นไปได้ที่ ป.ป.ช.อาจจะขอรายงานผลการสอบสวนเหตุการณ์สลายการชุมนุม 7 ตุลาคมของคณะกรรมการชุดนายปรีชามาประกอบการพิจารณาคดี 7 ตุลาคมที่ ป.ป.ช.กำลังไต่สวนข้อเท็จจริงอยู่ด้วย เพราะ ป.ป.ช.ต้องการพยานหลักฐานให้รอบด้านมากที่สุด แต่เรื่องนี้ขึ้นอยู่กับว่านายวิชา มหาคุณ กรรมการ ป.ป.ช. ในฐานะเจ้าของสำนวนคดีนี้จะพิจารณาว่าจะขอผลสอบจาก ครม.หรือไม่ หากขอมาประกอบการไต่สวนของ ป.ป.ช.ก็จำเป็นจะต้องให้พยานบางปากมายืนยันถ้อยคำที่ได้ชี้แจงไปแล้ว เพราะตามกระบวนการไต่สวน พยานบอกเล่าจะมีน้ำหนักมากกว่าพยานเอกสาร

คาดชุดใหญ่สรุปสิ้นเดือนก.พ.นี้

"ทั้งนี้ คดีเหตุการณ์ 7 ตุลาคมที่ ป.ป.ช.ไต่สวนได้มีการแจ้งข้อกล่าวหากับผู้เกี่ยวข้องเบื้องต้นไปแล้ว 4 คน ประกอบด้วยนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ อดีตนายกรัฐมนตรี พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ผบ.ตร. พล.ต.ท.สุชาติ เหมือนแก้ว ผบช.ภ.4 ในฐานะอดีต ผบช.น. และ พล.ต.ท.อำนวย นิ่มมะโน รอง ผบช.น. โดยสำนวนการไต่สวนของ ป.ป.ช.มีพยานหลักฐานที่รอบด้านมากกว่ารายงานผลสอบของคณะกรรมการอิสระซึ่งมีแต่เจ้าหน้าที่รัฐมาให้ปากคำ เนื่องจากมีแกนนำพันธมิตรบางคน อาทิ นายประพันธ์ คูณมี นายไพศาล พืชมงคล ฯลฯ มาให้ปากคำด้วย ขณะนี้ ป.ป.ช.ไต่สวนพยานไปแล้วกว่า 100 ปาก เหลือการสืบพยานอีกไม่กี่ปาก ก็จะสามารถรวบรวมข้อเท็จจริงสรุปเสนอเข้าสู่ที่ประชุม ป.ป.ช.ชุดใหญ่เพื่อชี้มูลความผิดได้ โดยก่อนหน้านี้นายวิชากล่าวว่า ไม่เกินสิ้นเดือนกุมภาพันธ์นี้น่าจะสามารถสรุปข้อเท็จจริงทั้งหมดได้" นายกล้านรงค์กล่าว

ประชาธิปัตย์ขึงขังอย่าเลือกปฏิบัติ21พธม.

นพ.บุรณัชย์ สมุทรักษ์ ส.ส.สัดส่วน โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ แถลงที่พรรคประชาธิปัตย์ว่า ผลสอบสลายการชุมนุม 7 ตุลาคม 2551 ชุดนายปรีชามีข้อจำกัดหลายประเด็น และไม่ชัดเจนหลายประการ เพราะเป็นคำให้การจากฝ่ายรัฐเพียงฝ่ายเดียว โดยเฉพาะกรณีที่ น.ส.อังคณา ระดับปัญญาวุฒิ หรือน้องโบว์ ที่เสียชีวิต แต่ยังมีการสอบสวนของวุฒิสภา คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) และ ป.ป.ช. ที่จะเป็นหลักฐานสำคัญในการหาตัวคนผิดมาลงโทษให้ได้

นพ.บุรณัชย์กล่าวต่อว่า สำหรับการดำเนินคดีกับแกนนำพันธมิตร 21 คน ตำรวจต้องไม่เลือกปฏิบัติ เพราะทั้ง 21 คน แสดงเจตนาสู้คดี ไม่เลือกใช้ร่าง พ.ร.บ.ปรองดองแห่งชาติ ที่ฝ่ายพรรคเพื่อไทยเสนอ แสดงให้เห็นความแตกต่างกับกรณี พ.ต.ท.ทักษิณ ที่ออกมาประกาศว่า ไม่รับกระบวนการยุติธรรม ฉะนั้นต้องเร่งรัดใช้กฎหมายส่งผู้ร้ายข้ามแดน

นายกฯย้ำต้องรอผลสรุปของป.ป.ช.

เวลา 16.30 น. ที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ นายอภิสิทธิ์ให้สัมภาษณ์ภายหลังกลับจากเยือนสาธารณรัฐอินโดนีเซีย ถึงผลสอบเหตุ 7 ตุลาคมชุดนายปรีชาว่า ปัญหาของคณะกรรมการชุดนี้คือได้ข้อสรุปเฉพาะเรื่องในเชิงมาตรการ แต่เรื่องการสอบข้อเท็จจริงและความรับผิดชอบมันไม่คืบหน้า เหมือนกับทำงานไม่ได้ และรายงานเข้ามา ตรงนี้เลยต้องสิ้นสุดกันไป แต่ในสมัยเป็นฝ่ายค้านได้ร้องให้ กสม. และ ป.ป.ช.ตรวจสอบ  สรุปแล้วต้องรอ ป.ป.ช.เป็นผู้ชี้ขาดในเรื่องนี้
"ป.ป.ช.เป็นองค์กรอิสระ ผมจะไม่เข้าไปแทรกแซง แต่ถ้าต้องการได้รับความร่วมมือจากรัฐบาล หรือหน่วยงานของรัฐ แต่ไม่ได้รับความร่วมมือ ผมก็จะช่วยดำเนินการให้ และไม่คิดว่าจะเป็นการนับ 1 ใหม่" นายกฯกล่าว และว่า อย่างที่บอกคือคณะไม่สามารถทำงานต่อได้ จึงไม่อยู่ในฐานะที่จะสรุปออกมาว่าใครถูก ใครผิด คณะกรรมการตัดสินใจคืนเรื่องนี้ให้นายสมชาย ตั้งแต่ตอนยังไม่พ้นจากตำแหน่งด้วยซ้ำ จึงไม่น่าแปลกใจหากจะไม่มีการพูดถึงเรื่องความรับผิดชอบของบุคคล เพราะยังสอบไม่เสร็จและสอบต่อไปไม่ได้

ยันเช็คบิล21พธม.ไม่ใช่การเมือง

ส่วนกรณีตำรวจเตรียมออกหมายจับกลุ่มพันธมิตร 21 คนนั้น นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ยังไม่ทราบรายละเอียด ยืนยันทุกคดีมีการเดินหน้าต่อไป เมื่อถามว่า พธม.ระบุว่าการออกหมายจับแทนที่จะออกหมายเรียกก่อน เป็นเกมการเมืองเพื่อลดแรงกดดันกลุ่มคนเสื้อแดง นายกฯกล่าวว่า "ผมยืนยันว่าผมไม่เอาเรื่องนี้มาเป็นเกมการเมือง และให้เป็นดุลพินิจของเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง หากใครคิดว่าไม่ได้รับความเป็นธรรม ก็สามารถร้องเรียนได้ตามกระบวนการ"

เมื่อถามว่า ห่วงหรือไม่ว่าจะทำให้มีทั้งม็อบเสื้อแดงและม็อบเสื้อเหลือง นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า อยู่ที่แต่ละฝ่ายที่จะตัดสินใจ ขอยืนยันว่าเรื่องนี้ตนไม่มีส่วนได้เสีย ไม่มีความคิดจะเล่นการเมืองกับเรื่องนี้ เพราะต้องการให้บ้านเมืองเป็นที่เชื่อมั่นของทุกฝ่าย โดยเฉพาะในสายตาชาวต่างประเทศ จึงอยากให้ทุกอย่างเดินหน้าอย่างตรงไปตรงมา แต่ย่อมมีทั้งคนที่เห็นด้วยและไม่เห็นด้วยเป็นเรื่องปกติ แต่พร้อมจะให้ความเป็นธรรมแก่ทุกคนตามอำนาจหน้าที่

"ยุวรัตน์"ชี้สรุป7ตุลาไม่มีผลทางกม.

ด้านนายยุวรัตน์ กมลเวชช อดีตกรรมการอิสระตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีเหตุความไม่สงบ 7 ตุลาคม กล่าวว่า รายงานที่รัฐบาลนำมาเปิดเผยต่อสาธารณชนนั้น ไม่มีผลในทางกฎหมาย เนื่องจากเหตุผล 4 ประการ คือ 1.คณะกรรมการชุดนี้ไม่ใช่คณะกรรมการตามกฎหมาย แต่แต่งตั้งโดยฝ่ายนโยบาย ซึ่งอาศัยอำนาจตามพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน จึงต่างจาก ป.ป.ช. หรือ กสม. ที่กำลังสอบสวนกรณี 7 ตุลาคม 2551 เช่นเดียวกัน 2.คณะกรรมการชุดนี้แต่งตั้งโดย ครม.นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ อดีตนายกฯ โดยมารยาทย่อมต้องพ้นไปพร้อม ครม. ซึ่งทันทีที่มี ครม. นายอภิสิทธิ์เข้าเฝ้าฯเพื่อถวายสัตย์ฯ ตนได้ยุติบทบาททันที

"3.คณะกรรมการชุดนี้ไม่ได้ทำหน้าที่ไต่สวน หรือเป็นเจ้าพนักงานสอบสวน แต่ทำหน้าที่ตรวจสอบข้อมูลและข้อเท็จจริงต่างๆ ก่อนจัดทำรายงานและข้อเสนอถึงนายกฯ เพื่อให้เกิดความปรองดอง จึงไม่สามารถไปชี้ว่าใครถูก ใครผิดได้ และ 4.ผลการตรวจสอบที่ออกมาเป็นเพียงข้อเท็จจริงที่ได้จากพยานบุคคลที่มีส่วนรู้เห็นเหตุการณ์ ซึ่งต้องมีการตรวจสอบต่อไป ไม่สามารถใช้ในการสั่งคดีได้"

ปัดอุ้มรบ.สมชาย-แค่เพิ่งเปิดฉาก

นายยุวรัตน์กล่าวว่า พอรัฐบาลชุดใหม่เข้ามา ได้เสนอให้ฝ่ายเลขานุการส่งเอกสารทั้งหมดให้แก่รัฐบาล โดยไม่ต้องสรุปอะไรเลย เพื่อให้รัฐบาลไปอ่านเอาเอง และตัดสินใจเอาว่าจะไปดำเนินการอย่างไรต่อ ส่วนที่มีการตั้งข้อสังเกตเรื่องการช่วยเหลือฝ่ายการเมืองในรัฐบาล "สมชาย" ให้พ้นผิดนั้น คงไม่ใช่ คณะกรรมการฯไม่เคยสรุปว่าใครถูกหรือผิด เพราะไม่มีหน้าที่ สิ่งที่อ้างอิงในรายงานผลการตรวจสอบข้อเท็จจริงดังกล่าว เป็นเพียงคำให้การของผู้เกี่ยวข้องไม่กี่คน ซึ่งไม่รู้ว่าเป็นความจริงทั้งหมดหรือไม่ เว้นแต่มีเอกสารสั่งการเป็นลายลักษณ์อักษร

"หากต้องการหาคนผิดจริงๆ ในเรื่องแก๊สน้ำตา ก็ต้องไปตรวจสอบคนเจ็บ ที่มีคนอ้างว่าเห็นปืนสั้น แต่พอดูบาดแผลกลับเป็นลักษณะกระสุนกระจาย ซึ่งน่าจะมาจากปืนพกหรือไม่ หรือในเรื่องผู้สั่งการ มีอะไรต้องทำอีกเยอะ คณะกรรมการชุดนี้เพียงแต่นำข้อเท็จจริงออกมากางให้ดูเท่านั้น ถือเป็นการเปิดฉากเท่านั้น ส่วนรัฐบาลจะไปดำเนินการอย่างไรต่อไม่ทราบ" นายยุวรัตน์กล่าว

3กมธ.วุฒิฯแถลงผลสอบสัปดาห์หน้า

ขณะที่นายประสาร มฤคพิทักษ์ ส.ว.สรรหา ในฐานะประธานที่ปรึกษาคณะกรรมาธิการสิทธิมนุษยชน สิทธิเสรีภาพและการคุ้มครองผู้บริโภค วุฒิสภา กล่าวถึงผลการสอบกรณี 7 ตุลาคม ของนายปรีชาว่า ผลสอบดังกล่าวมีความไม่สมบูรณ์ ไม่ได้รับความร่วมมือจากฝ่ายต่างๆ อย่างไรก็ดี ผลสอบกรณีดังกล่าวจากฝั่งวุฒิสภา ที่ดำเนินการโดยคณะกรรมาธิการสามัญประจำวุฒิสภา 3 คณะร่วมกัน ได้แก่ คณะกรรมาธิการสิทธิมนุษยชน สิทธิเสรีภาพและการคุ้มครองผู้บริโภค คณะกรรมาธิการศึกษา ตรวจสอบเรื่องการทุจริต และเสริมสร้างธรรมาภิบาล และคณะกรรมาธิการการสาธารณสุข ขณะนี้ดำเนินการเสร็จสิ้นแล้ว

"ทั้ง 3 คณะกรรมาธิการ จะหารือเพื่อสรุปครั้งสุดท้ายในสัปดาห์หน้าและจะแถลงผลการสอบพร้อมเอกสาร  โดยผลสอบมีความสมบูรณ์ ได้รับความร่วมมือจากทุกฝ่ายไม่ว่าจะเป็นฝ่ายการเมือง ตำรวจ สื่อ และประชาชนที่อยู่ในเหตุการณ์ ซึ่งเท่าที่ดูรายงานคร่าวๆ พบว่า ตรงข้ามกับผลสอบของคณะกรรมการที่รัฐบาลที่แล้วแต่งตั้งอย่างสิ้นเชิง โดยผู้มีส่วนเกี่ยวข้องในการสลายการชุมนุม มีฝ่ายการเมืองและตำรวจ ซึ่งต้องรับผิดชอบต่อกรณีดังกล่าวชัดเจน ซึ่งจะแถลงอย่างละเอียดให้ทราบในสัปดาห์หน้า
 
"ชัยสิทธิ์"แจงมีชื่อคนสำคัญสืบชะตา

วันเดียวกัน พล.อ.ชัยสิทธิ์ ชินวัตร อดีตผู้บัญชาการทหารสูงสุด ให้สัมภาษณ์ผ่านรายการลับ ลวง พราง ทางสถานีวิทยุเอฟเอ็ม 100.5 ถึงกระแสวิพากษ์วิจารณ์ภายหลังไปประกอบพิธีสืบชะตาให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ที่วัดอุโมงค์ จ.เชียงใหม่ โดยมีการเขียนชื่อบุคคลสำคัญที่เป็นฝ่ายตรงข้ามทางการเมืองในการประกอบพิธีว่า เป็นประเพณีของชาวเหนือที่มีการสืบชะตากัน รวมถึงเป็นการทำบุญ แผ่เมตตา และอโหสิกรรมให้กัน ถือเป็นสิ่งที่ดี ส่วนการเขียนชื่อบุคคลสำคัญนั้น ไม่ใช่เขียนแค่ฝ่ายตรงข้ามอย่างเดียว แต่ชื่อคนที่มีพระคุณก็มี รวมถึงคนที่เป็นศัตรูก็ขอให้เลิกราต่อกัน บ้านเมืองจะได้สงบสุข ซึ่งหลังจากทำพิธีรู้สึกว่ากลุ่มเสื้อแดงสงบไปมาก และหากต่างคนต่างอโหสิให้กันก็จบ นี่คือจุดมุ่งหมาย

เมื่อถามว่า มองอย่างไรที่สมัยยุค คมช.มีการไปทำพิธีสืบชะตา พล.อ.ชัยสิทธิ์กล่าวว่า เป็นพิธีพราหมณ์ยิ่งน่าเกลียดใหญ่ และถือว่าไม่ถูกต้อง เพราะเป็นการแช่งเขา

โอดคล้ายถูกรุมเหมือนทักษิณ

"ความจริงไม่ใช่เรื่อง แต่ถ้าอยากมีเรื่องก็เอาสิ ส่วนชื่อบุคคลที่นำมาประกอบพิธี ความจริงเป็นการแผ่อุทิศส่วนกุศลให้น่าจะเป็นสุขมากกว่าจะมาเต้น ความรู้สึกผมคล้าย พ.ต.ท.ทักษิณถูกทุกฝ่ายรุม และป่านนี้ยังไม่พอใจอีกหรือ เขาก็เป็นคนไทยคนหนึ่ง หันกลับมานึกถึงคุณงามความดีได้ไหม คุณไม่สร้างความสงบต่อเขา ซึ่งขณะนี้เขาเสียเปรียบอยู่ คุณไม่แผ่เมตตาต่อเขา แต่กลับจองล้างจองผลาญเขาตลอดก็ไม่จบ ผมไม่อยากพูด เพราะพูดไปเดียวจะโดนรุมอีกคน" พล.อ.ชัยสิทธิ์กล่าว

ชัยสิทธิ์ยืดอกถ้าผิดพร้อมกราบ"เปรม"

เมื่อถามว่า ชื่อ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษที่ปรากฏในการประกอบพิธี จะส่งผลกระทบหรือไม่ พล.อ.ชัยสิทธิ์กล่าวว่า เคารพ พล.อ.เปรมมานาน และไม่เคยกระทบอะไรกับท่านเลย ทั้งนี้เคยห้ามกลุ่มเสื้อแดงว่า โง่หรือเปล่าที่ไปทะเลาะกับ พล.อ.เปรม จิตใจเราเคารพท่านตลอด และทีมงานของท่านกับตนก็สนิทสนม ส่วน พล.ร.ท.พะจุณณ์ ตามประทีป หัวหน้าสำนักงานประธานองคมนตรี นั้นก็รู้กันดี ใจถึงใจ ลูกผู้ชายชาติทหาร ถ้าตนผิดก็ยอมรับผิด ตนก็จะไปกราบ ทั้งนี้คงไม่ต้องขอเข้าพบ พล.อ.เปรม เพราะคิดว่าไม่ได้ผิดอะไร แต่หากมีอะไร คงให้ พล.ร.ท.พะจุณณ์ติดต่อมา เพื่อถามว่าคิดอะไรอยู่ ซึ่งตนยินดี เพราะเป็นลูกผู้ชายตัวจริง

เผยพระแนะเปลี่ยน"ณ."เป็น"น."

เมื่อถามว่า พ.ต.ท.ทักษิณควรทำอย่างไรต่อไป พล.อ.ชัยสิทธิ์กล่าวว่า ไม่รู้ แต่ตนอยากให้สงบ จากนั้นค่อยมาสู้กันตามวิถีทางตามประชาธิปไตย หากสู้ไม่ได้ก็ควรจะยอม ไม่ใช่สู้ไม่ได้ก็ทำเหมือนเช่นปัจจุบันนี้ และเขาคิดว่า เขาสู้ไม่ได้ เขาจึงสกัดกั้นกลุ่มเสื้อแดง ซึ่งหากสกัดกั้นเสื้อแดงแสดงว่าเขากลัวแพ้ ความศรัทธาของประชาชนอยู่ในใจเขา หากจะเบี่ยงเบนอะไรเขาค่อนข้างยาก คือต้องลดพฤติกรรมที่ก่อกรรมทำเข็ญหรือไปสกัดกั้นเขา ประชาชนจะเห็นใจเอง วิธีที่ดีที่สุดควรแผ่จิตใจมา แสดงความเป็นมิตร ซึ่งตนไม่เห็นเขาเป็นมิตร เพราะตอกกันทุกวัน แล้วจะสงบได้อย่างไร เมื่อถามว่า เคยมีกระแสข่าวว่าแนะนำให้ พ.ต.ท.ทักษิณเปลี่ยนนามสกุล พล.อ.ชัยสิทธิ์กล่าวว่า มีแต่พระเคยพูดให้เปลี่ยน ณ. เป็น น.

เชื่อหมายจับ21พธม.ไม่ใช่แกนนำ

เวลา 17.00 น. ที่บริเวณท้องสนามหลวง กลุ่ม นปช. หรือกลุ่มเสื้อแดง ตั้งเวทีปราศรัย มีนายวิภูแถลง พัฒนภูมิไทย  แกนนำ นปช.ขึ้นเวที  มีผู้มาฟังประมาณ 1,000 คน ขณะที่บนเวทีมีป้ายผ้าใบพื้นสีแดงเป็นรูปนายอภิสิทธิ์นั่งบนรถถัง เขียนข้อความว่า  นปช.วิพากษ์นโยบายเศรษฐกิจรัฐบาล ขณะที่เนื้อหาบนเวทีโจมตีนายอภิสิทธิ์ นายสุเทพ และนายกษิต เลือกปฏิบัติเข้าข้างกลุ่มพันธมิตร และยังตั้งข้อสังเกตการจะออกหมายจับแกนนำพันธมิตร 21 คน ที่ไปยึดสถานที่ราชการต่างๆ ว่าผู้ที่ถูกจับคงไม่ใช่แกนนำที่แท้จริง พร้อมกำชับกลุ่มเสื้อแดงติดตามใกล้ชิด ซึ่งบรรยากาศเป็นไปอย่างเรียบร้อย
 
แดงชัยภูมิปิดร.ร.สกัดเวทีพธม.

ขณะที่กลุ่มแนวร่วมเสื้อแดงชัยภูมิ นำโดย นพ.ประสิทธิ์ ชัยวิรัตนะ และ นพ.สุรวิทย์ คนสมบูรณ์ ส.ส.ชัยภูมิ เขต 2 พรรคเพื่อไทย ภายหลังเปิดปราศรัยชุมนุมทางการเมืองตั้งแต่ช่วงเช้าที่ผ่านมา ที่บริเวณหน้าศาลจังหวัดชัยภูมิ ได้เคลื่อนขบวนแบบดาวกระจายไปปิดล้อมทางเข้าโรงแรมสยามรีเวอร์รีสอร์ทในช่วงบ่ายวันเดียวกัน เพื่อสกัดแนวร่วมพันธมิตรกลุ่มเสื้อเหลืองจากหลายจังหวัด ที่จะเดินทางเข้าร่วมงานปราศรัย "รวมน้ำใจพันธมิตรชัยภูมิŽ ครั้งที่ 1 โดยกลุ่มผู้ชุมนุมเสื้อแดง ได้ปิดล้อมทางเข้า ด้านหน้าโรงแรมสยามริเวอร์รีสอร์ท และปิดทางเข้าโรงแรม ด้านวัดไพรีพินาศ หรือวัดกลางเมืองเก่า ท่ามกลางกำลังตำรวจกว่า 1,000 นาย วางแนวกั้นไม่ให้รุกล้ำเข้าไปภายในโรงแรมฯ  แต่กลุ่มเสื้อแดงฝ่าแนวกั้นบุกเข้าไปชุมนุมปิดทางเข้าโรงแรมฯได้สำเร็จ  

ส่วนการเตรียมการเปิดเวทีปราศรัยของพันธมิตรนั้น ในช่วงค่ำมีเพียง นางสุรางค์ สิริพรหมมา ประธานกรรมการดำเนินงานฯ และคณะทำงานฯ ยังคงเตรียมความพร้อมจัดงานฯต่อไป โดยก่อนหน้าที่ได้เปิดจำหน่ายบัตรในราคาบัตรละ 200 บาท ประมาณ 2,000 คน อย่างไรก็ตาม ทางจังหวัดจัดกำลังตำรวจ เพื่อคุมเข้ม รักษาความสงบเรียบร้อยอย่างเข้มงวด เพื่อป้องกันการบุกรุก หรือป้องกันมือที่สามเข้าแทรกแซง หรือสร้างความขัดแย้งที่อาจเกิดขึ้นได้

เครดิต :
เครดิต :เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์มติชน


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์