พท. ถาม “อนุทิน-อภิสิทธิ์” เอามั้ยเก้าอี้นายกฯ โอกาสมาอย่าลังเล

คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานยุทธศาสตร์การเลือกตั้งเพื่อไทย กล่าวถึงการถึงจัดตั้งรัฐบาลของ 2 ขั้วการเมืองว่า ขณะนี้ฝ่ายประชาธิปไตยมี 245 เสียงมั่นคง และรวมเสียงได้มากที่สุด ดังนั้นต้องรอดูท่าทีของพรรคประชาธิปัตย์ และภูมิใจไทย ที่เคยสัญญาว่าจะไม่สนับสนุนการสืบทอดอำนาจจะตัดสินใจอย่างไร จะมาอยู่กับพรรคเพื่อไทยหรือไม่

ส่วนกระแสข่าวพรรคเพื่อไทยจะยอมยกเก้าอี้นายกฯ ให้นายอนุทิน ชาญวีระกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทยนั้น คุณหญิงสุดารัตน์ กล่าวว่า ยังไม่ได้พูดคุยกัน ซึ่งการชักชวนพรรคประชาธิปัตย์ และภูมิใจไทยเข้ามาร่วมก็ไม่ได้ให้มาสนับสนุนให้พรรคเพื่อไทยมีอำนาจ เพียงแต่ให้มาร่วมกันส่ง คสช. กลับบ้าน เพราะตนไม่อยากเห็นการเลือกตั้งครั้งนี้เป็นเพียงพิธีกรรมเปลี่ยนสถานะให้ คสช. เท่านั้น

ด้านนายพิชัย นริพทะพันธุ์ แกนนำเพื่อไทย กล่าวว่า อยากเตือนพรรคการเมืองทุกพรรค โดยเฉพาะพรรคประชาธิปัตย์ และพรรคภูมิใจไทย (ภท.) ให้รักษาคำมั่นสัญญาที่ให้กับประชาชนก่อนการเลือกตั้ง ที่เคยบอกว่าไม่เห็นด้วยกับการสืบทอดอำนาจ และไม่เอา พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกฯ ซึ่งส่วนตัวเห็นว่านายอนุทินมีโอกาสสูงที่จะได้เป็นนายกฯ และเหมาะสมอย่างยิ่ง และขอบอก นายอนุทิน ว่าโอกาสแบบนี้มีเข้ามาไม่บ่อยนัก

ขณะที่ นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา หัวหน้าพรรคประชาชาติ (ปช.) ระบุว่า คงเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ที่จะตั้งรัฐบาลรวม 20 พรรคการเมืองจากพรรคพลังประชารัฐ แต่ถ้าตั้งได้ก็ให้ตั้งกันไป เพราะจนเชื่อว่าจะอยู่ยากอย่างแน่นอน

ทั้งนี้ ยืนยัน 7 พรรคร่วมฝั่งประชาธิปไตยยังเหนียวแน่นกันดี ไม่แตกแถว ส่วนกรณีขั้วที่ 3 อาจเสนอชื่อนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย และนายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย เป็นนายกรัฐมนตรี นายวันมูหะมัดนอร์ กล่าวว่า ขณะนี้ทุกอย่างมีความเป็นไปได้ทั้งสิ้น

น.ส.เกศปรียา แก้วแสนเมือง โฆษกพรรคเพื่อชาติ กล่าวว่า เมื่อเผด็จการทหารเสพติดอำนาจ ทำให้คนรุ่นใหม่อย่างตนได้รู้จักมหกรรมการค้ามนุษย์ หรือ การต้อนเสียงนักการเมือง ที่ไม่มั่นคงในอุดมการณ์ไปสนับสนุน ล่าสุด! มีกระแสข่าวลือว่าราคาการซื้อเสียงขึ้นสูงถึง 200 ล้านบาทต่อหนึ่งเสียง