พงศพัศ ไม่เสียใจ พ้นเก้าอี้ ป.ป.ส. ดีใจได้กลับบ้าน

พงศพัศ ไม่เสียใจ พ้นเก้าอี้ ป.ป.ส. ดีใจได้กลับบ้าน

"พงศพัศ" ไม่เสียใจ พ้นเก้าอี้ ป.ป.ส. ดีใจได้กลับบ้าน นั่งรองผบ.ตร.คุมปราบยาเสพติด


เมื่อวันที่ 4 กรกฎาคม ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ(ตร.) พล.ต.อ.วัชรพล ประสารราชกิจ รักษาราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ กล่าวถึงกรณีที่ คณะรักษาความสงบแห่งชาติ หรือ คสช.มีคำสั่งให้ พล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พ้นจากตำแหน่งเลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) และให้กลับไปปฏิบัติราชการที่ ตร.ว่า ว่า พล.ต.อ.พงศพัศ ได้มาพบตนแล้ว วันนี้มีการพูดคุยกัน โดยตนมอบหมายให้มาช่วยดูแลงานด้านการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด เนื่องจากที่ผ่านมาได้ไปปฎิบัติหน้าที่ด้านยาเสพติดมาเป็นเวลากว่า 1 ปี มีความเชี่ยวชาญในเรื่องยาเสพติด โดยจะมาทำหน้าที่แทน พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง รองผบ.ตร.  ซึ่งดูแลงานด้านยาเสพติด ทั้งนี้เนื่องจาก พล.ต.อ.สมยศ  ดูงานด้านความมั่นคงอีกหน้าที่หนึ่ง ทุกวันนี้มีงานที่ดูแลอยู่มีเป็นจำนวนมาก  

ด้าน พล.ต.อ.พงศพัศ   กล่าวภายหลัง มีคำสั่งให้พ้นจากตำแหน่งเลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด ให้กลับไปปฏิบัติราชการใน ตร.ว่า

 ตอนนี้ก็หมดหน้าที่ในตำแหน่ง เลขาฯปปส.แล้ว กลับมาทำงานที่ ตร. ซึ่งเหมือนบ้านเก่า การให้พ้นจากตำแหน่งตนก็ไม่รู้สึกเสียใจเลย กลับมาตร.ก็มีงานต้องทำ ที่ผ่านมาก็ได้ทำหน้าที่ในตำแหน่งเลขาฯป.ป.ส.ที่ได้รับมอบหมายจากคณะรัฐมนตรีในตอนนั้นอย่างเต็มที่ เมื่อมาถึงตอนนี้ ทางคสช.เห็นความเหมาะสมให้กลับไปทำหน้าที่ที่ตร.ตามเดิม โดยเช้าวันนี้ตนได้รายงานตัวต่อ พล.ต.อ.วัชรพล แล้ว พล.ต.อ.วัชรพล ก็ให้โอกาทำงานด้านยาเสพติดต่อ

พล.ต.อ.พงศพัศ กล่าวต่อไปว่า ตนก็จะกำกับดูแลงานด้านยาเสพติดตามนโยบายของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้าคสช.

 และพล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา รองหัวหน้าคสช. โดยจะนำประสบการณ์ เมื่อครั้งทำงานที่ปปส. ซึ่งเป็นหน่วยงานด้านบูรณาการมาปรับใช้ให้งานป้องกันปราบปรามยาเสพติดมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น แนวทางการทำงานของตนจะเน้นที่การป้องกันปราบปรามยาเสพติดในชุมนุมต่อเนื่อง สกัดกั้นการแพร่ระบาดในชุมชน หมู่บ้าน  นำผู้เสพเข้าสู่การบำบัด ผู้เสพ และผู้ค้าในชุมนุมเดิมที่บำบัดแล้ว ที่พ้นโทษแล้ว จะมีการนำบัญชีมาเฝ้าระวังติดตามไม่ให้กลับไปเสพหรือค้าซ้ำอีก

 โดยมีพื้นที่เป้าหมาย 81,181 ชุมชน จะเริ่มปฏิบัติการทั้งเชิงป้องกันและปราบปรามทันที ประสานกับทางกระทรวงมหาดไทย

 โดยตนจะให้ตำรวจชุมชน ตำรวจอาสา และตำรวจในสายปราบปรามเข้าไปเป็นกลไกลักในการป้องกันปราบปราม  บังคับใช้กฎหมายในเรื่องยาเสพติดอย่างเคร่งครัด การทำงานในปปส.ที่ผ่านมา ทราบดีว่าปปส.เป็นหน่วยงานเชิงนโยบาย งานบูรณาการที่มีข้อจำกัดเรื่องกำลังคน ทำให้การป้องปราบทำได้ไม่มากเท่าที่ควร ดังนั้นเมื่อตนมากำกับงานของตร.ในด้านนี้ก็สามารถบริหารจัดการ นำกำลังตำรวจไปปฏิบัติงานด้านนี้ได้มากขึ้นและประสานงานกับปปส.ได้อย่างสอดคล้อง เพื่อปราบปรามยาเสพติดอย่างจริงจัง บรรลุเป้าหมายของคสช.


เครดิต :
เครดิต :เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์มติชน


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์