ผู้นำเก่งแต่โกง...ตกยุคแล้ว..!!

ตัวอย่างภาพผู้นำที่เก่งแต่โกง



หมดสมัยผู้นำเก่งแต่โกง...วันนี้เราต้องการผู้นำที่เน้นจริยธรรมเพื่อความเก่งที่ยั่งยืน


ผู้นำที่เก่งของเอเชีย, แม้ที่ได้ชื่อว่าเป็น ´ขวัญใจ´ ของชาวบ้านมากมายหลายคน ตอนเริ่มต้นมักจะแสดงความเก่งกาจคล่องแคล่ว สามารถฉีดยาให้เศรษฐกิจเฟื่องฟู สร้างความฮือฮาให้กับชาวบ้านร้านถิ่นได้อย่างเกรียวกราว, แต่ลงท้ายมักจะถูกขับไล่ด้วยข้อหาเรื่องคอร์รัปชัน และระบบเล่นพรรคพวก

ตัวอย่างของผู้นำเกาหลีใต้ คนดังอย่างคิมแดจุง มีให้เห็นจะแจ้ง, ห้าปีแรกแห่งอำนาจคือช่วงที่คึกคักฮือฮาด้วยการปฏิรูปทางเศรษฐกิจและการเมือง แต่แล้ว, เพราะเหตุที่จริยธรรมไม่ได้ขึงขังเท่ากับความร้อนแรงของกิจกรรมทางการเมือง,

แม้รางวัลโนเบลสาขาสันติภาพในฐานะที่เป็นผู้บุกเบิกเปิดประตูกับเกาหลีเหนือก็มิได้ช่วยให้รอดจากมลทินที่มากับการใช้อำนาจการเมืองเพื่อแสวงหาประโยชน์และอามิสแห่งตนและพรรคพวก

คิมแดจุง ลงจากตำแหน่งไม่ใช่ด้วยความภาคภูมิของวีรบุรุษแห่งสันติภาพ, หากแต่จำต้องลงจากเวทีการเมืองด้วยรอยแปดเปื้อนของผู้นำที่ไม่เคร่งครัดเพียงพอต่อกติกาจริยธรรม

มองไปรอบๆ เอเชีย, นั่นคือรอยด่างของระดับผู้นำที่ได้ชื่อว่าเป็นแถวหน้าของ ´ผู้มีวิสัยทัศน์ทางการเมือง´ ที่ละม้ายกันจนน่าตกใจ, ไม่ว่าจะเป็นที่ ไต้หวัน, ฟิลิปปินส์, ปากีสถาน...และแน่นอน,

ไม่จำเป็นต้องซ้ำเติมตัวเราเองด้วยการเอ่ยถึง ´ระบอบทักษิณ´ ให้ต้องเจ็บช้ำน้ำใจกันมากไปกว่านี้อีก


ผู้นำที่ทำหน้าที่ของตัวเองด้วยสำนึกแห่งจริยธรรมสูง ประชาชนก็ไว้วางใจ


ที่เห็นเป็นแนวโน้มเดียวกันก็คือความโกรธแค้นของประชาชนในเอเชียมากมายหลายประเทศที่ผู้นำที่พวกเขาไว้วางใจ, ลงมติด้วยคะแนนท่วมท้นเพื่อให้ฉันทามติมา ´ปฏิรูป´ และสร้างความหวังใหม่ให้กับสังคมกลับเข้ามากอบโกยและสร้างวัฒนธรรมตะกละตะกลามจนเกือบสิ้นชาติ

ผู้นำการเมืองเหล่านี้ มิได้สำเหนียกว่าชาวบ้านมิได้พอใจ เพียงแค่มีกินมีอยู่เท่านั้นแล้ว หากแต่ยังใฝ่หาความเป็นธรรม, ความโปร่งใสและศักดิ์ศรีแห่งความเป็นมนุษย์

นั่นย่อมหมายความว่า ยิ่งนับวันประชาชนในประเทศต่างๆ เหล่านี้ก็ยิ่งต้องการให้ผู้คนที่แสวงหาตำแหน่งสาธารณะทำหน้าที่ของตัวเองด้วยสำนึกแห่งจริยธรรมสูงขึ้น, มิใช่เพียงแค่เป็นนักการเมืองผู้คล่องแคล่ว และรับปากรับคำอย่างง่ายดายเท่านั้น แต่หากพวกเขาเป็น ส.ส.,

ประชาชนก็คาดหวังว่า พวกเขาจะออกกฎหมายที่สร้างความเป็นธรรมให้กับสังคม...หากเป็นฝ่ายตุลาการ, ผู้คนก็คาดหวังว่าพวกเขาจะกล้าหาญ และเที่ยงตรง...หากเป็นรัฐบาลก็จะต้องเก่งทั้งด้านบริหารและตรวจสอบได้อย่างปราศจากการปิดบังอำพราง และหากเป็นสื่อมวลชน, ผู้บริโภคข่าวก็จะเรียกร้องให้ต้องมีจริยธรรมสูงกว่าผู้คนในวิชาชีพอื่น

ค่านิยมแต่ก่อน, ในช่วงของการต่อสู้กับจักรวรรดินิยมจากต่างชาติ, และต่อมาการต่อสู้ของประชาชนต่อต้านเผด็จการทหาร, คือผู้นำที่ ´ทำการเมือง´ ให้โดดเด่น, มีความเป็นผู้นำด้านการเมืองที่สูงแต่วันนี้



เราต้องการผู้นำที่ไม่ได้ต่อสู้เพื่ออำนาจทางการเมือง


เมื่อประชาชนมีความเจนจบ ด้วยประสบการณ์ในการต่อสู้กับเผด็จการในคราบของ ´นักเลือกตั้ง´ และการดิ้นรนต่อสู้กับความฟอนเฟะของระบบการเมืองที่เต็มไปด้วยวิธีการฉ้อฉลในสารพัดรูปแบบ,

ผู้นำที่ชาวบ้านต้องการวันนี้ คือผู้ที่สามารถยกระดับจากการเป็นเพียงแค่ผู้นำทางการเมืองที่เก่งและฉลาด (แกมโกง) มาเป็นผู้นำที่มีความมุ่งมั่นทางด้านจริยธรรม

เป็นเวลานานเหลือเกินแล้ว ที่เราต้องต่อสู้กับศัตรูร่วม ไม่ว่าจะเป็นการเข้ามาเป็นใหญ่ของจักรวรรดินิยม หรือระบอบการเมืองสุดขั้วหรือความยากจน แต่วันนี้, ประชาชนเริ่มจะหันมาเรียกร้องให้มีการรวมพลังกันเพื่อต่อสู้กับศัตรูร่วมตัวใหม่...นั่นคือความเป็นธรรม

วันนี้, เราต้องการผู้นำที่ไม่ได้ต่อสู้เพื่ออำนาจทางการเมือง เพราะเราต้องการเห็นผู้นำที่ต่อสู้เพื่อความยุติธรรม

เราไม่ต้องการผู้นำที่ประกาศจะสร้างความมั่งคั่งร่ำรวยให้กับประเทศชาติ เพราะเราต้องการผู้นำที่เสนอแนวทางที่ชัดเจนในการสร้างความเป็นธรรมระหว่างคนรวยกับคนจน

เราไม่ต้องการผู้นำที่ยะโสโอหัง, ใช้วาทะปลุกเร้าเพื่อระรานผู้อื่น

เพราะเราต้องการผู้นำที่สุขุม, ถ่อมตนแต่มีจุดยืนที่มั่นคงและมีความเข้มแข็งไม่เพียงแค่ทางสรีระที่มองเห็นภายนอก, แต่สำคัญกว่านั้นคือความกล้าหาญทางศีลธรรมที่สัมผัสได้อย่างชัดเจนในทางปฏิบัติตน, วันแล้ววันเล่า, ในทุกประเด็นที่เกี่ยวกับประโยชน์แห่งสาธารณะ

วันนี้ ´คนเก่ง´ อย่างเดียวไม่เพียงพอเพราะคนเก่งอาจจะโกงได้

เราต้องการ ´คนดี´ เพราะเมื่อพื้นฐานอยู่กับความถูกต้องชอบธรรมแล้ว, ความเก่งก็เป็นเรื่องที่สร้างกันได้ไม่ยาก



เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์