ผวาสมาร์ทการ์ด พาติดคุก มท.ปัดทำใหม่

มท.1อ้างผวา"สมาร์ทการ์ด"พาติดคุก ลั่นพร้อมแก้ ถ้าออกเป็นมติคณะรัฐมนตรี ก็ปฏิบัติตามได้ ปัดจ้องรื้อใหม่หากินงบ 2,000 ล้านบาท ยันเป็นเพียงผู้รับบัตรใช้เท่านั้น.....

สำหรับปัญหาบัตรสมาร์ทการ์ดที่ นายจุติ ไกรฤกษ์ รมว.เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ไอซีที)

เตรียมนัดหารือเพื่อกล่อมให้ รมว.มหาดไทย แก้กฎกระทรวงมหาดไทย ให้ยอมรับบัตรประจำตัวอิเล็กทรอนิกส์ โดยระบุว่า หากรื้อทำใหม่จะสิ้นเปลืองงบประมาณเกือบ 2,000 พันล้านบาทนั้น เมื่อวันที่ 27 ก.ค.นายชวรัตน์ ชาญวีรกูล รมว.มหาดไทย ให้สัมภาษณ์ทางโทรศัพท์ว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันที่ 28 ก.ค.นี้ หากนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ชวนคุยเรื่องนี้ ก็จะหารือกับนายกฯอีกครั้ง และขณะนี้ก็ยังไม่ได้รับการติดต่อจากนายจุติ ที่จะนัดมาหารือร่วมกัน แต่ยืนยันว่า ถ้าจะให้ดำเนินการอย่างไรต้องให้มีมติ ครม.ออกมาให้ชัดเจน กระทรวงมหาดไทยก็ปฏิบัติตามได้ แต่ถ้าจะให้กระทรวงมหาดไทยไปแก้กฎกระทรวงเพื่อไปรองรับของที่ไม่ถูก ไม่มีใครกล้าทำเพราะต้องมีความรับผิดชอบทางกฎหมายมีโทษทางอาญาจำคุก 10 ปี ฐานปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ แม้จะออกจากตำแหน่งไปแล้วเขาก็อาจจะกลับมาฟ้องเราได้อีก ถ้าจะมาแก้ฎกระทรวงให้รองรับของที่ผิดมันฟังไม่ขึ้นอยู่แล้ว

"ถ้าจะมาคุยนอกรอบ 3 ฝ่ายเพื่อขอให้แก้กฎกระทรวงเราคงทำไม่ได้ แต่ถ้าหากครม.ทั้งคณะจะเสี่ยงรับผิดชอบร่วมกันก็ออกมาเป็นมติครม.มาเลย ดูซิว่าครม.กล้าทำมั้ย ซึ่งเท่าที่ผมหารือกับนายกฯมาก่อนหน้านี้ 2 ครั้ง ท่านนายกฯก็ไม่เอา ไม่กล้าทำ ท่านบอกว่าจะไปออกกฎหมายไปรองรับของที่ผิดได้อย่างไร คิดแบบคนธรรมดาทั่วไปก็รู้แล้ว"รมว.มหาดไทย กล่าว

ผู้สื่อข่าวถามว่า รมว.ไอซีที อ้างว่า กระทรวงไอซีทีผลิตบัตรสมาร์ทการ์ดตามที่ประสานงานกับ คณะกรรมการของกระทรวงมหาดไทยกำหนดทุกประการ นายชวรัตน์ กล่าวว่า อธิบดีกรมการปกครองในสมัยนั้นอาจจะไม่ได้นึกว่าตรงนี้ไม่ได้อยู่ในอำนาจของเขา และเจ้าตัวก็อยู่ระหว่างถูกตึ้งคณะกรรมการสอบสวนเรื่องนี้อยู่

เมื่อถามว่า มีบางฝ่ายอาจมองว่ากระทรวงมหาดไทยไม่ยอมรับบัตรสมาร์ทการ์ดดังกล่าว เพราะต้องการรื้อทำใหม่เพราะอาจมีเรื่องผลประโยชน์มาเกี่ยวข้อง

นายชวรัตน์ กล่าวว่า ไม่ว่าจะใช้งบประมาณเก่าหรือใหม่ แต่เราไม่ได้เป็นคนซื้อ แต่คนซื้อหรือจัดหาคือกระทรวงไอซีที กรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย เป็นเพียงผู้รับบัตรใช้เท่านั้น ถ้าจะมีรายการทำมาหาผลประโยชน์ก็ไม่ใช่กระทรวงมหาดไทย กรณีที่มีการดำเนินการมาไม่ถูกต้องในอดีตใครอนุมัติไปก็ต้องไปไล่เบี้ย กันเอาเอง.