ผลเอแบคโพลชี้ส่วนใหญ่ยังชื่นชอบรายการเชื่อมั่นประเทศไทยฯ เชื่อมีการตัดต่อคลิปเสียง อภิสิทธิ์

ดร.นพดล  กรรณิกา ผู้อำนวยการสำนักวิจัยเอแบคโพลล์ มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ

เปิดเผยผลสำรวจ “เอแบคเรียลไทม์โพลล์ (Real-Time Survey)”  เมื่อวันที่ 30 สิงหาคมที่เป็นการสำรวจผ่านระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์ แบบรวดเร็วฉับไวภายในระยะเวลา  3 ชั่วโมง หลังจากมีสิ่งที่น่าสนใจติดตามในหมู่ประชาชน โดยครั้งนี้ได้ทำการสำรวจเรื่อง รายงานผลการวัดเรตติ้งรายการเชื่อมั่นประเทศไทยกับนายกฯ อภิสิทธิ์ ประจำวันอาทิตย์ที่ 30 สิงหาคม 2552 และความรู้สึกต่อรายการฯ กรณีศึกษาตัวอย่างประชาชน 17 จังหวัดทั่วประเทศ  รวมทั้งสิ้น 1,127 ครัวเรือน พบว่า ผลการประมาณการจำนวนผู้ชมที่นั่งหน้าจอโทรทัศน์และผู้ฟังวิทยุ และผู้ใช้อินเตอร์เนตติดตามถ่ายทอดสดรายการเชื่อมั่นประเทศไทยฯนานเกินกว่า 5 นาที  มีจำนวนทั้งสิ้น 5,864,541 คน หรือเกือบ 6 ล้านคนทั่วประเทศ


เมื่อสอบถามถึงความน่าสนใจของรูปแบบรายการพบว่า

 ร้อยละ 62.3 ระบุน่าสนใจ
ในขณะที่ร้อยละ 35.8 ระบุไม่น่าสนใจ และร้อยละ 1.9 ไม่มีความเห็น


ทั้งนี้ร้อยละ 73.6 ระบุเนื้อหาสาระที่นำเสนอในรายการในวันนี้เป็นประโยชน์ต่อการนำไปใช้ในชีวิตประจำวัน  ขณะที่ร้อยละ 24.5  ระบุไม่เป็นประโยชน์ และร้อยละ 1.9 ไม่มีความเห็น  โดยร้อยละ 66.0 ระบุประเด็นพูดคุยในรายการที่ชื่นชอบคือเรื่องที่เกี่ยวกับการแก้ไขปัญหาปากท้องของประชาชน  ร้อยละ 49.1 ระบุเรื่องการประกาศใช้พ.ร.บ.การรักษาความมั่นคงภายใน และร้อยละ 35.8 ระบุชื่นชอบประเด็นที่เกี่ยวกับคุณธรรมและจริยธรรม 


สำหรับความคิดเห็นของประชาชนเมื่อได้ยิน/ได้ฟังนายกรัฐมนตรีชี้แจงเกี่ยวกับเรื่องคลิปเสียงนั้นพบว่า ร้อยละ 61.5 ระบุเชื่อนายกรัฐมนตรีที่ชี้แจงว่าเป็นการตัดต่อคลิปเสียง  ในขณะที่ร้อยละ 34.6 ไม่เชื่อ  และร้อยละ3.9 ไม่ระบุความคิดเห็น


ประเด็นสำคัญที่น่าพิจารณาคือเมื่อสอบถามความพึงพอใจของประชาชนต่อความพยายามของนายกรัฐมนตรีในการแก้ไขปัญหาวิกฤติต่างๆ ของประเทศพบว่าร้อยละ 57.3 ระบุค่อนข้างพอใจถึงพอใจมากที่สุด ร้อยละ 27.8 พอใจปานกลาง และร้อยละ 14.9 ไม่ค่อยพอใจถึงไม่พอใจเลย ทั้งนี้คะแนนเฉลี่ยความพึงพอใจต่อนายกรัฐมนตรีอยู่ที่ 6.36 จากคะแนนเต็ม 10 คะแนน


ผู้อำนวยการเอแบคโพลล์ กล่าวว่า

รายการนี้มีประชาชนบอกว่าได้รับประโยชน์และมีผลในการรักษาฐานสนับสนุนทางการเมืองต่อนายกรัฐมนตรีอีกด้วย บางรายที่เป็นแฟนรายการถึงกับบอกว่ารอดูรายการนายกรัฐมนตรีก่อนไปทำธุระนอกบ้าน และบางรายบอกว่า แม้จะมีงานสำคัญต้องทำนอกบ้านเช่น ตามไร่ สวน หรือค้าขาย ก็นำวิทยุติดตัวไปฟังด้วย นอกจากนี้ แฟนรายการบางรายในเขตเมืองที่พลาดจากการชมถ่ายทอดสด ก็จะติดตามย้อนหลังทางอินเตอร์เนต และสนใจติดตามจากข่าวโทรทัศน์ช่องอื่นๆ แทน แต่ที่น่าเป็นห่วงคือ ผู้ติดตามชมรายการเชื่อมั่นประเทศไทย ให้ความสำคัญและชื่นชอบประเด็นที่เกี่ยวกับปัญหาปากท้องมากกว่าเรื่องคุณธรรมและจริยธรรม แต่นายกรัฐมนตรีคงต้องชี้ให้สาธารณชนเห็นความสำคัญของคุณธรรมและจริยธรรมอย่างต่อเนื่องต่อไปและน่าจะยกตัวอย่างเป็นอุทาหรณ์ที่ใกล้ตัวและเกี่ยวข้องกับชีวิตประจำวันของประชาชนประกอบ


เครดิต :
เครดิต :เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์มติชน


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์