ผบ.สส.เชื่อทักษิณเป็นผู้ใหญ่พอรู้อะไรควรพูด ปชป.ชี้นายใหญ่-นายหญิง คือผู้จัดรายการตัวจริง


ผบ.สส.เชื่อ"ทักษิณ"เป็นผู้ใหญ่ ทราบดีว่าควรพูดอะไร "อำนวย"สั่งตรวจหลังงาน"ความจริงวันนี้"เลิก หวั่นขี้เมาป่วน นายกฯ ห่วงมือที่ 3 ป่วนม็อบ ยันไม่รู้เนื้อหา "โฟนอิน" ปชป.ชี้"นายใหญ่-นายหญิง" เป็นผู้จัดตัวจริง กองทัพบอกห่วงสถานการณ์หลังการชุมนุมเสร็จสิ้น ผบ.ตร..ยันไม่เกิดเหตุรุนแรง นปช.ยัน "แม้ว" โฟนอินแน่ ตามลุ้น "สมัคร" อีกคน ถ้าตร.กำลังไม่พอ

ผบ.สส.เชื่อ"ทักษิณ"เป็นผู้ใหญ่ ทราบดีว่าควรพูดอะไร

พล.อ.ทรงกิตติ  จักกาบาตร์ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด ให้สัมภาษณ์ทางรายการ "ลับ ลวง พราง" ผ่านสถานีวิทยุเอฟเอ็ม 100.5 ถึงกรณีที่พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี จะโฟนอินเข้ามาในรายการ "ความจริงวันนี้" ที่ราชมังคลากีฬาสถานว่า เป็นการชุมนุมของประชาชนที่มีความคิดเห็นอย่างหนึ่ง ที่ทราบข่าวว่า พ.ต.ท.ทักษิณ จะโฟนอินเข้ามาทักทายกัน ถ้าทุกอย่างเป็นไปกำหนดน่าจะจบประมาณ 22.00 น. จากนั้นประชาชนจะแยกย้ายกลับ ทั้งนี้ ทุกคนที่เป็นคนไทยทราบดีว่าควรทำอะไรให้ประเทศชาติ หากทุกคนทำเพื่อส่วนรวม ถ้าคิดดี พูดดี ทำดี และเสียสละจะเกิดประโยชน์ต่อตนเอง และส่วนรวม


เมื่อถามว่า เป็นไปได้หรือไม่ที่พ.ต.ท.ทักษิณจะโฟนอินมาบอกให้ทุกคนสร้างความสามัคคี พล.อ.ทรงกิตติ กล่าวว่า อาจเป็นไปได้ เพราะไม่มีใครทราบ พ.ต.ท.ทักษิณอาจพูดว่า สถานการณ์อย่างนี้ขอให้ประชาชนใช้วิจารณญาณอย่างรอบคอบ นอกจากนี้ อาจไม่ใช่การโทรเข้ามา แต่อาจเป็นเทปบันทึกก็ได้ แต่ทหารยังไม่ได้ดูก่อน พ.ต.ท.ทักษิณเป็นผู้หลักผู้ใหญ่ ควรทราบว่าจะพูดอย่างไร ส่วนหากมีการพูดที่ถึงสถาบัน ทหารจะทำอย่างไรนั้น คิดว่าคนไทยทุกคนไม่ควรจะนำเรื่องสถาบันมาอวดอ้าง

 
"อำนวย"สั่งตรวจหลังงาน"ความจริงวันนี้"เลิก หวั่นขี้เมาป่วน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 11.30 น. วันที่ 1 พฤศจิกายน พล.ต.ต.อำนวย นิ่มมะโน รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (รอง ผบช.น.) ร่วมประชุมกับผู้บังคับการ ผู้กำกับการ และเจ้าหน้าที่ตำรวจที่เกี่ยวข้อง เพื่อประเมินสถานการณ์การชุมนุมของกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ในงาน"ความจริงวันนี้"สัญจร ครั้งที่ 2 ที่ราชมังคลากีฬาสถาน โดยใช้เวลาการประชุมประมาณ 1 ชั่วโมง

อย่างไรก็ตาม ภายหลังการประชุม พล.ต.ต.อำนวย กล่าวว่า เป็นการประชุมเพื่อประเมินสถานการณ์ประจำวันเพื่อดูแลความเรียบร้อยในการจัดงานดังกล่าว ซึ่งผู้จัดงานยืนยันว่าจะชุมนุมกันอย่างสงบ และไม่มีการยกมวลชนเข้ากลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยอย่างแน่นอน ขณะที่กลุ่มพันธมิตรฯ ก็ยังมีผู้ร่วมชุมนุมจำนวนไม่มากนักและไม่มีการเคลื่อนไหวอะไรมาก

"ตอนนี้มีกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจปราบปรามจราจลประมาณ 1,000 นายดูแลความปลอดภัยอยู่บริเวณราชมังคลากีฬาสถาน แต่หากมีเหตุการณ์อะไรก็สามารถระดมเจ้าหน้าที่ตำรวจของนครบาลเพิ่มได้อีก 2,000 นาย ส่วนทางทหารที่ส่งกำลังมาช่วยนั้น ยังไม่ทราบว่ามีจำนวนกี่นาย" พล.ต.ต.อำนวย กล่าว และว่า ได้สั่งการให้เข้มงวดตรวจตราเข้มหลังงานเลิก กังวลว่าอาจจะมีกลุ่มคนมึนเมาสร้างเหตุก่อกวน
 
นายกฯ ห่วงมือที่ 3 ป่วนม็อบ ยันไม่รู้เนื้อหา "โฟนอิน"

ที่จังหวัดเชียงใหม่ นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ นายกรัฐมนตรี กล่าวเมื่อวันที่ 1 พ.ย.ว่า เป็นห่วงสถานการณ์ในกรุงเทพเทพมหานคร อยากขอให้ทุกฝ่ายช่วยกันดูแล เป็นหูเป็นตา เพื่อไม่ให้มีมือที่ 3 เข้ามาสร้างสถานการณ์ได้ ส่วนการโฟนอินของพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรรัฐมนตรีนั้น ตนไม่ทราบรายละเอียด แต่ก็เชื่อว่าเจ้าหน้าที่จะดูแลสถานการณ์ได้ ขณะที่ผู้จัดกิจกรรมก็ต้องดูแลไม่ให้สถานการณ์บานปลาย เพราะประเทศบอบช้ำ
 
ปชป.ชี้"นายใหญ่-นายหญิง" เป็นผู้จัดความจริงฯ สัญจร

ที่พรรคประชาธิปัตย์ นายเทพไท เสนพงศ์ ผู้ช่วยเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์  แถลงเมื่อวันที่ 1 พ.ย.ว่า ตนไม่เชื่อว่า 3 เกลอสามารถจัดรายการ "ความจริงวันนี้สัญญาจร" ที่ราชมังคลากีฬาสถานได้ เพราะงานใหญ่เช่นนี้ต้องลงทุนมหาศาล ผู้อยู่เบื้องหลังได้บินจากรุงกลอนดอน ประเทศอังกฤษ มายังฮ่องกงแล้ว ดังนั้นผู้ทรงอำนาจตัวจริงคือ นายหญิง นายใหญ่และนายในบ้าน นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ นายกรัฐมนตรี จึงเป็นเพียงแค่นายกรัฐมนตรีหุ่นยนต์ ที่รอคนเหล่านี้มากดรีโมทเท่านั้น

นายเทพไท กล่าวว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ไม่สามารถปฏิเสธว่าไม่เกี่ยวข้องกับการจัดงานครั้งนี้ เพราะนปช.อยู่ภายใต้การสนับสนุนของรัฐบาล ขณะที่รัฐบาลก็อยู่ภายใต้การสนับสนุนของพ.ต.ท.ทักษิณ วันนี้จึงชัดเจนว่าความขัดแย้งที่เกิดขึ้นเป็นความขัดแย้งระหว่างระบอบทักษิณกับการเมืองภาคประชาชน
          
"การจัดงานครั้งนี้ ก็เพื่อที่จะให้มีการโฟนอินเข้ามาในประเทศไทย แล้วขณะนี้ ก็เป็นทีทราบกันดีแล้วว่า นายหญิง นายใหญ่ ก็ได้เดินทางมาอยู่ที่ฮ่องกงกันแล้ว เพื่อทีจะได้โฟนอินเข้ามได้อย่างชัดเจน กว่าที่อยู่ประเทศลอนดอน เหมือนอย่างทุกครั้งที่ต้องการจะทำอะไร หรือเคลื่อนไหวอะไร ก็จะต้องมาอยู่แถวๆ นี้"  นายเทพไท กล่าว
 
ปชป.ร้องตรวจเอกสารปราศรัยนปช. หวั่นหมิ่นสถาบัน
 
นพ.บุรณัชย์ สมุทรักษ์ โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวเมื่อวันที่ 1 พ.ย.ถึงการจัดรายการ "ความจริงวันนี้สัญจร" ว่า อยากให้มีการตรวจสอบเอกสารขั้นต้นที่ใช้ในการปราศรัยอย่างชัดเจน เพราะเกรงว่าอาจมีข้อความหมิ่นสถาบันเบื้องสูง เนื่องจากที่ผ่านมาผู้ดำเนินรายการเคยถูกตั้งข้อหานี้มาแล้ว

นพ.บุรณัชย์ กล่าวว่า หากการชุมนุมครั้งนี้เกิดความรุนแรงขั้น รัฐบาลต้องเป็นผู้รับผิดชอบ ส่วนเรื่องการเสวนาเพื่อหาทางออกให้ประเทศนั้น ต้องเริ่มต้นจากการที่รัฐบาลรับผิดชอบต่อเหตุการณ์สลายการชุมนุมพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย เมื่อวันที่7 ต.ค. นอกจากนี้ เห็นว่าไม่ควรนำ เรื่องส.ส.ร.3 เข้าร่วมเสวนาด้วย เพราะอาจทำการเสวนาล้มเหลว
 
กองทัพบอกห่วงสถานการณ์ หลังการชุมนุมนปช.เสร็จสิ้น

พ.อ.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกกองทัพบก กล่าวเมื่อวันที่ 1 พ.ย.ว่า พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผู้บัญชาการทหารบก ได้มอบแนวทางการปฏิบัติงานและสนับสนุนดูแลความเรียบร้อยร่วมกับตำรวจไว้แล้ว โดยเน้นให้ติดตามสถานการณ์ หากพบว่าจะมีเหตุการณ์ไม่ปกติหรือมีแนวโน้มการเผชิญหน้า ก็พร้อมสนับสนุนการทำงานของตำรวจ โดยมีกองร้อยรักษาความสงบเรียบร้อย ซึ่งเตรียมพร้อมในที่ตั้งออกปฏิบัติหน้าที่ ในฐานะผู้ช่วยเจ้าพนักงานได้ทันที

พ.อ.สรรเสริญ กล่าวต่อว่า การติดตามสถานการณ์ไม่ได้เน้นเฉพาะกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง แต่เป็นการติดตามในภาพรวม โดยเชื่อว่าระหว่างการจัดรายการ ความจริงวันนี้สัญจร จะไม่มีปัญหาใดๆ แต่ห่วงสถานการณ์หลังการจัดรายการเสร็จสิ้น
 
ส.ส.ปากน้ำยืนยันไม่ได้เกณฑ์คนร่วม "ความจริงวันนี้"
 
นายประชา ประสพดี ส.ส.สมุทรปราการ พรรคพลังประชาชน กล่าวว่า บ่ายวันที่ 1 พ.ย.นี้ จะไปร่วมชุมนุมกับกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) เพื่อติดตามรายการความจริงวันนี้ต้านรัฐประหาร ที่ราชมังคลากีฬาสถาน โดยประชาชนในพื้นที่จำนวนหนึ่งจะไปร่วมด้วยความสมัครใจ ไม่ได้เป็นการเกณฑ์คนไปแต่เป็นการเดินทางไปเอง ซึ่งประชาชนในพื้นที่กรุงเทพมหานครรอบนอกและปริมณฑลจะเดินทางไปจำนวนมาก

นายประชา กล่าวอีกว่า ขณะนี้ประชาชนจำนวนมากไม่เห็นด้วยกับการชุมนุมของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย โดยเฉพาะข้อเสนอการเมืองใหม่ จึงเดินทางมาเพื่อแสดงออกร่วมกัน ขอยืนยันว่าการชุมนุมของกลุ่มเสื้อแดงจะไม่มีการเคลื่อนพลไปปะทะกับพันธมิตรฯ อย่างเด็ดขาด
 
ผบ.ตร.ยันไม่เกิดเหตุรุนแรง เป็นการชุมนุมปราศจากอาวุธ

พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) กล่าวเมื่อวันที่ 1 พ.ย.ว่า จากการประเมินคาดว่าจะมีผู้เข้าร่วมชุมนุมที่สนามราชมังคลากีฬาสถาน ซึ่งเป็นสถานที่จัดงาน "ความจริงวันนี้ สัญจร" ครั้งที่ 2 ของกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) เป็นจำนวนมาก ตนได้ประสานกับพล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) ให้นำทหารมาร่วมรักษาความปลอดภัยด้วย แต่ยืนยันว่าจะไม่เกิดความรุนแรง เพราะเป็นการชุมนุมโดยปราศจากอาวุธ
 
ตร.ระบุมีกำลังพอดูแลชุมนุมนปช. ทหารพร้อมช่วยถ้าปะทะ
 
พล.ต.ต.วิมล เปาอินทร์ ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 4 กล่าวเมื่อวันที่ 1 พ.ย.ถึงมาตรการรักษาความปลอดภัยและการอำนวยความสะดวกด้านการจราจร บริเวณการสถานที่จัดงาน "ความจริงวันนี้สัญจร" ที่สนามกีฬาราชมังคลากีฬาสถาน ว่า ได้ระดมเจ้าหน้าที่ตำรวจจราจรประมาณ 200 นายจากสน.หัวหมาก กอง บก.น. 4 และจราจรกลางช่วยอำนวยความสะดวกด้านการจราจร ประตู 1 และ 2 จะให้เข้าวันเวย์ และประตู 3 และ 4 จะเปิดให้เข้าทูเวย์ และจะมีการตรวจยานหนะอย่างเข้มงวด

พล.ต.ต.วิมล กล่าวว่า มีเจ้าหน้าที่ตำรวจเพียงพอ อย่างไรก็ตาม หากไม่เพียงพอ สามารถเรียกเจ้าหน้าที่ทหารมาช่วยได้อีก โดยเฉพาะหากมีเหตุการเคลื่อนคนปะทะกัน แต่หากไม่มีการเคลื่อนขบวนตำรวจดูแลความเรียบร้อยได้
 
นปช.บางจว.เดินทางถึงสนามราชมังคลาฯ รอร่วมงานแล้ว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 1 พ.ย. บรรยากาศที่สนามราชมังคลากีฬาสถาน ซึ่งเป็นสถานที่จัดงาน "ความจริงวันนี้ สัญจร" ครั้งที่ 2 ของกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ได้มีการจัดสถานที่รองรับนปช.แล้ว ท่ามกลางการรักษาความปลอดภัยของเจ้าหน้าที่ตำรวจอย่างเข้มงวด โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจสันติบาล และตำรวจนครบาล 4 จะเข้าตรวจวัตถุระเบิดก่อนเปิดให้ประชาชนเข้าร่วมงาน

พบว่า นปช.จากหลายจังหวัด เช่น สมุทรปราการ เชียงใหม่และเพชรบูรณ์ ได้เดินทางมาถึงแล้ว
 
"แม้ว"โผล่ฮ่องกง กินมื้อค่ำกับ"หญิงอ้อ-เจ๊แดง"
 
เมื่อเวลา 18.30 น. วันที่ 31 ตุลาคม พิธีกรบนเวทีพันธมิตรฯ ในทำเนียบรัฐบาล รายงานว่า ได้มีผู้พบเห็น พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่เกาะฮ่องกง ในเย็นวันเดียวกันนี้ โดยรับประทานอาหารค่ำพร้อมกับ คุณหญิงพจมาน ชินวัตร ภริยา และนางเยาวภา วงศ์สวัสดิ์ น้องสาว ซึ่งเป็นภริยา นายกรัฐมนตรี นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ด้วยด้วย โดยทั้ง 3 คน มีท่าทางอารมณ์ดี ไม่มีท่าทางเคร่งเครียดแต่อย่างใด

ร.ต.ท.เชาวริน ลัทธศักดิ์ศิริ ส.ส.สัดส่วน พปช. ทราบมาว่า พ.ต.ท.ทักษิณเดินทางออกจากประเทศอังกฤษไปยังเมืองดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ เพื่อทำธุระมาเป็นระยะเวลาหนึ่งแล้ว และมีความเป็นไปได้ที่ พ.ต.ท.ทักษิณจะเดินทางมาพำนักที่เกาะฮ่องกง ระหว่างวันที่ 1 พฤศจิกายนนี้ 
 
"แม้ว"โฟนอินแน่-ลุ้น"สมัคร" อีกคน

แกนนำผู้จัดรายการครอบครัวความจริงวันนี้สัญจร ร่วมกันแถลงเมื่อเวลา 14.30 น. วันที่ 31 ตุลาคม โดยนายวีระ มุสิกพงศ์ กล่าวยืนยัน ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น ก็ไม่มีผลต่อการเปลี่ยนแปลงการจัดรายงาน ที่ขณะนี้เตรียมการเรียบร้อยปกติกว่า 90 เปอร์เซ็นต์ โดยผู้ที่จะขึ้นปราศรัยนั้นนำโดยนายจาตุรนต์ ฉายแสง อดีตกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทย และผู้ดำเนินรายการความจริงวันนี้ทุกคน เพื่อแสดงจุดยืนว่าบ้านนี้เมืองนี้จะต้องใช้กฎหมายเพื่อให้สันติภาพเกิดขึ้น หากใครมีความเป็นห่วง เรื่องการขนคน จนถึงความปลอดภัยให้มาพิสูจน์ได้ด้วยตัวเอง สำหรับการโฟนอินของ พ.ต.ท.ทักษิณนั้นจะไม่เพิ่มหรือลดเวลา แล้วแต่ความสบายใจและเหมาะสม ซึ่งก็ยังไม่ทราบว่า พ.ต.ท.ทักษิณจะพูดในรูปแบบใด และโฟนอินเข้ามากี่โมง แต่ขอให้ดูช่วงที่ตนเป็นคนขึ้นเวทีปราศรัยเป็นหลัก โดยจะมีกิจกรรมพิเศษในเวลา 13.00 น. คือการสาปแช่งผู้ทำลายประชาธิปไตย โดยพราหมณ์จากนครศรี ธรรมราชเป็นผู้ทำพิธี

นายวีระปฏิเสธไม่ทราบกระแสข่าว พ.ต.ท. ทักษิณเดินทางมาปักหลักที่ประเทศฮ่องกง "แต่ที่รู้คือ พ.ต.ท.ทักษิณไม่ลังเลใจหรือมีความคิดว่าจะเปลี่ยนใจไม่โฟนอินเลย ซึ่งเราพยายามกันทุกอย่าง แม้กระทั่งนายสมัคร สุนทรเวช อดีตนายกรัฐมนตรีที่หมอห้ามไม่ให้ขึ้นเวทีปราศรัย เราก็พยายามที่จะประสานอยู่ขอให้นายสมัครได้โฟนอินมาพูดคุยกับประชาชนสัก 10 นาทีก็ยังดี" นายวีระกล่าว

คุยเคเบิลทีวีมะกันยิงสดไปสหรัฐ

นายวีระกล่าวว่า ไม่วิตกเลยว่า พ.ต.ท. ทักษิณปราศรัยแล้วจะส่งผลไม่ดีกับประเทศ เพราะเชื่อมั่นในวุฒิภาวะว่าการพูดครั้งนี้จะมีแต่ความสร้างสรรค์ แต่สำหรับผู้นำเหล่าทัพที่วิตกกังวลหรือเป็นห่วงเป็นใยการชุมนุมนั้น ก็อยากจะถามว่าผู้นำเหล่าทัพไม่เคยดูสถานีโทรทัศน์เอเอสทีวีเลยหรือ ทั้งๆ ที่ด่าอยู่ทุกคืน แล้วผู้นำเหล่าทัพไปหูหนวก ตาบอดอยู่ที่ไหน

นายจตุพร พรหมพันธุ์ ส.ส.สัดส่วน พรรคพลังประชาชน (พปช.) กล่าวว่า ทางแกนนำได้เตรียมการเรื่องความปลอดถัยไว้ทุกด้าน โดยได้ประสานไปยังตำรวจนครบาลเพื่อขอกำลังมาช่วยนับพันนาย ซึ่งครั้งแรกตำรวจประสานกลับมาว่าจะขอกำลังทหารมาช่วยเสริมรักษาความปลอดภัย แต่ได้แจ้งกลับไปว่ายังไม่ต้องให้ทหารออกมา และขอให้ทหารอยู่ในที่ตั้งไปก่อน เพราะแค่กำลังตำรวจกับอาสาสมัครจากนักศึกษามหาวิทยาลัยรามคำแหงก็น่าจะเพียงพอแล้ว เพราะพื้นที่โดยรอบสนามราชมังคลากีฬาสถานจะมีกล้องวงจรปิดหมดทุกจุด และตำรวจจะปิดพื้นที่รอบๆ สนามราชมังคลาฯ เพื่อเคลียร์ทุกอย่างในเวลา 03.00 น. ของวันที่ 1 พฤศจิกายน แล้วจะเปิดให้คนเข้าในเวลา 08.00 น. พร้อมกันทั้งหมด ซึ่งขณะนี้มีการประสานขอถ่ายทอดสดผ่านเว็บไซต์จากหลายที่ แต่ที่แน่นอนแล้วคือสถานีโทรทัศน์ไอพีทีวี ซึ่งเป็นเคเบิลทีวีของอเมริกาจะถ่ายทอดสดไปยังอเมริกาอย่างแน่นอน

กลุ่มเนวินไร้ผล-เชื่อ8หมื่นร่วม

นายจตุพรกล่าวกรณี ส.ส.กลุ่มเพื่อนเนวิน ไปแจ้งให้ พล.ต.อ.โกวิท วัฒนะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ยับยั้งการเคลื่อนประชาชนเสื้อแดงเข้ากรุงเทพฯว่า สอบถามไปยังกลุ่มเพื่อนเนวินแล้ว ทราบว่าต้องการให้งานนี้เป็นของประชาชนที่รักประชาธิปไตยอย่างแท้จริง ไม่อยากให้การเมืองเข้าไปเกี่ยวข้อง แบบที่ว่าใครใช้ให้ออกมาก็ออกมา หรือใครไม่ให้ออกมาก็ไม่ออกมา ซึ่งไม่มีปัญหาอะไรกับการชุมนุมอยู่แล้ว และยังเชื่อว่าประชาชนจะมาร่วมเต็มพื้นที่สนาม ซึ่งได้เตรียมไว้ทั้งเก้าอี้บนอัฒจันทร์และพื้นหญ้ารวมทั้งลู่วิ่ง รวมประมาณ 8 หมื่นคน

นายจาตุรนต์กล่าวว่า จะร่วมขึ้นปราศรัยและร้องเพลงด้วย โดยจะเน้นหนักไปที่การให้เหตุผลเรื่องประชาธิปไตยและการคัดค้านการรัฐประหาร ซึ่งที่ผ่านมาเราได้จับตากันว่าจะมีการรัฐประหารก่อนงานนี้จะเกิดขึ้นหรือไม่ วันนี้น่าจะเหลือโอกาสในการเกิดขึ้นได้น้อยมากเพราะเหลือเวลาเพียงไม่กี่ชั่วโมงทุกอย่างจะเริ่มต้นขึ้น นอกจากนั้นก็จะเป็นเรื่องของประเทศที่ไม่เป็นประชาธิปไตย รวมทั้งทางออกจากวิกฤตในขณะนี้

แม้วอาจเปลี่ยนใช้"วีทีอาร์"แทน

รายงานข่าวจาก พปช.แจ้งว่า ภายหลังเกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างรุนแรงถึงการโฟนอินทางโทรศัพท์ในงานความจริงวันนี้ ในวันที่ 1 พฤศจิกายนนี้ ล่าสุด พ.ต.ท.ทักษิณปรับเปลี่ยนรูปแบบจากการโฟนอิน เป็นการทำวีทีอาร์บันทึกภาพและเสียงของ พ.ต.ท.ทักษิณ เพื่อนำมาเปิด เล่าสารทุกข์สุกดิบกับผู้เข้าร่วมงานแทน เนื่องจากวิธีการดังกล่าวจะทำให้ภาพเกิดความนุ่มนวลกว่าวิธีการแรก เพราะผ่านการพิจารณาจากมาหลายขั้นตอน

นายพงศ์เทพ เทพกาญจนา อดีตกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทย โฆษกส่วนตัวของ พ.ต.ท.ทักษิณ กล่าวว่า ไม่ได้พูดคุยกับ พ.ต.ท.ทักษิณในเรื่องการโฟนอิน แต่เชื่อว่าหากจะโฟนอินเข้ามาด้วยความที่เป็นคนไทยที่รักประเทศไทย คงไม่ทำให้เกิดปัญหาใดๆ

รมต.แจ้งผบ.ทอ.เอ็นบีทีไม่ยิงสด

นายสุพล ฟองงาม รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กำกับดูแลกรมประชาสัมพันธ์ และ อสมท กล่าวกรณีที่ พล.อ.อ.อิทธพร ศุภวงศ์ ผู้บัญชาการทหารอากาศ (ผบ.ทอ.) เรียกร้องไม่ให้ใช้สื่อของรัฐเป็นเครื่องมือทางการเมืองว่า ได้สั่งการให้นายสุริยงค์ หุณฑสาร รักษาการผู้อำนวยการสถานีโทรทัศน์เอ็นบีที ทำหนังสือชี้แจงข้อเท็จจริงถึง ผบ.ทอ.ว่า ในวันที่ 1 พฤศจิกายน จะไม่มีการถ่ายทอดสดรายการ "ความจริงวันนี้สัญจร" ครั้งที่ 2 ที่สนามราชมังคลากีฬาสถาน และยืนยันว่ากรมประชาสัมพันธ์ โดยสถานีโทรทัศน์เอ็นบีที ได้ทำหน้าที่อย่างเป็นกลาง นำเสนอข้อมูลข่าวสารอย่างถูกต้อง เป็นธรรมรอบคอบ ไม่ได้เอนเอียง รวมทั้งจะไม่นำเสนอข้อมูลข่าวสารที่จะนำไปสู่ความรุนแรงอย่างแน่นอน

ส่วนกรณีที่ทางผู้จัดรายการความจริงวันนี้ระบุว่า จะมีการตัดต่อนำเทปคำปราศรัยของ พ.ต.ท.ทักษิณ มาออกอากาศทางเอ็นบีทีในภายหลังนั้น นายสุพลกล่าวว่า กรมประชาสัมพันธ์จะได้ตรวจสอบถึงความเหมาะสมในเนื้อหาของเทปก่อน หากมีเนื้อหาที่ไม่เหมาะสม และอาจจะนำไปสู่ความแตกแยก ความรุนแรงในสังคมมากขึ้น ก็จะไม่อนุญาตให้นำมาออกอากาศได้

ศาลให้รวบรวมคำพูด"ละเมิด"

แหล่งข่าวจากศาลยุติธรรมแจ้งว่า นายวิรัช ลิ้มวิชัย ประธานศาลฎีกา เรียกผู้บริหารสำนักงานศาลยุติธรรมและศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองเข้าหารือ เมื่อวันที่ 27 ตุลาคมที่ผ่านมา โดยมีคำสั่งให้สำนักงานศาลยุติธรรม เตรียมรวบรวมเนื้อหาคำพูดของ พ.ต.ท.ทักษิณในการพูดผ่านรายการความจริงวันนี้สัญจรว่า ถ้อยคำพาดพิงสถาบันศาลในลักษณะดูหมิ่นผู้พิพากษาหรือเข้าข่ายละเมิดอำนาจศาลหรือไม่ เพราะถ้ามีถ้อยคำพาดพิงหรือเข้าข่ายละเมิดต่อศาลก็จะมีการพิจารณาดำเนินการทางกฎหมาย ฐานดูหมิ่นเจ้าพนักงานในการยุติธรรม หรือดูหมิ่นผู้พิพากษา ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 198 ที่มีโทษจำคุกตั้งแต่ 1-7 ปี หรือปรับตั้งแต่ 2,000-14,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และฐานละเมิดอำนาจศาลตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 33 ซึ่งมีโทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือน

กองทัพเตรียมแผนรับเหตุปะทะ

กองทัพสั่งเฝ้าระวัง หาข่าว พร้อมกับเตรียมแผนการรับมือการปะทะระหว่างกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ หรือ นปช. กับกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชา ธิปไตย ในวันที่ นปช.นัดชุมนุมใหญ่ จัดรายการครอบครัวความจริงวันนี้นอกสถานที่ ณ สนามราชมังคลากีฬาสถาน ในวันที่ 1 พฤศจิกายน โดยเปิดให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีโฟนอินร่วมรายการด้วย

ในการให้สัมภาษณ์เมื่อวันที่ 31 ตุลาคม พล.ท.คณิต สาพิทักษ์ แม่ทัพภาคที่ 1 กล่าวว่า พ.ต.ท.ทักษิณจะโฟนอินเรื่องอะไรบ้างยังไม่รู้ ตอนนี้กองทัพเพียงติดตามสถานการณ์การเคลื่อนไหวของกลุ่มต่างๆ อย่างใกล้ชิด ซึ่งการที่ พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ อดีตนายกรัฐมนตรี ที่ออกมาแถลงข่าวเมื่อวันที่ 30 ตุลาคมที่ผ่านมา เป็นเครื่องชี้ให้เห็นอะไรหลายๆ อย่าง

"กองทัพภาคที่ 1 จัดชุดติดตามสถานการณ์การเคลื่อนไหวของกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย และกลุ่ม นปช. เพื่อเฝ้าดูแลและระวังดูแนวโน้มเหตุการณ์ทั้งหมดแล้ว หากมีสถานการณ์ที่จะเกิดความรุนแรง กองทัพมีความพร้อมที่จะออกไปปฏิบัติตามแผนในฐานะผู้ช่วยเจ้าพนักงานตำรวจกรณีที่มีการร้องขอมา" แม่ทัพภาคที่ 1 กล่าว

พล.ท.คณิตกล่าวว่า พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) เน้นย้ำเรื่องการดูแลไม่ให้เกิดการปะทะกันของทั้งสองฝ่าย รวมถึงการจัดชุดนอกเครื่องแบบเพื่อหาข่าว รวมถึงการผลักดันให้ตำรวจนครบาลเพิ่มมาตรการในการดูแลความเรียบร้อยให้มากขึ้นด้วย และหากเกิดการปะทะ กองทัพมีแผนเตรียมการไว้อยู่แล้ว เพราะเคยได้รับบทเรียนมาแล้ว เหตุการณ์ในวันที่ 1 พฤศจิกายนจะต้องไม่เกิดขึ้นอีก เท่าที่ติดตามดูประชาชนยังเดินทางเข้ามาไม่หนาตามากที่ควรŽ พล.ท.คณิตกล่าว

ชี้ปาระเบิดหวังเร่ง2ฝ่ายปะทุศึก

ผู้สื่อข่าวถามถึงเรื่องที่ผู้ไม่หวังดีพยายามนำอาวุธสงครามและระเบิดมาใช้ มีมาตรการป้องกันอย่างไร พล.ท.คณิตกล่าวว่า ทางกองทัพติดตามดูอยู่แล้ว โดยได้รับเครื่องมือพิเศษในการตรวจจับวัตถุระเบิดที่ใช้ในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ มาตรวจในพื้นที่กรุงเทพ มหานคร

ส่วนเหตุการณ์คนร้ายก่อเหตุปาระเบิดหลายจุด กลางดึกคืนวันที่ 30 ตุลาคมที่ผ่านมานั้น พล.ท.คณิตกล่าวว่า ที่แน่ๆ กลุ่มคนร้ายต้องการทำให้เกิดความรุนแรงขึ้นมาอีก เพราะสังเกตคนร้ายพยายามก่อเหตุหลายจุด โดยคนร้ายเห็นว่าสถานการณ์เริ่มจืดจางเบาบางลง กลุ่มคนร้ายก็พยายามเป็นตัวเร่งให้เกิดการปะทุกันขึ้นมาอีก

"เท่าที่ผมวิเคราะห์ดูคือเมื่อกลุ่มพันธมิตรเคลื่อนไหวซาลง และทางกลุ่ม นปช. ก็ไม่เคลื่อนขบวนมา ก็ทำให้ดูเหมือนห่างกัน ก็เลยทำให้มีกลุ่มก่อกวนเพื่อต้องการให้ทั้งสองฝ่ายมีการมาปะทะกันขึ้นอีก จะสังเกตให้ดีเหตุการณ์ระเบิดที่ตู้โทรศัพท์ ที่หน้ากองบัญชาการกองทัพบก หรือที่บริเวณอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ มันมีความเชื่อมโยงกันอยู่ แต่จะเป็นพวกไหนหรือกลุ่มไหนมันไม่ชัดเจน จะชี้ออกมาชัดๆ คงไม่ได้ แต่เหตุการณ์ทั้ง 2 เหตุการณ์มันเชื่อมโยงกัน เป็นพวกเดียวกัน" พล.ท.คณิตกล่าว

ผู้สื่อข่าวถามถึงการเฝ้าระวังกลุ่มก่อการร้ายในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้  แฝงตัวเข้ามาก่อเหตุ พล.ท.คณิตกล่าวว่า "เราก็เฝ้าระวังอยู่ โดยเฉพาะคนที่มาเรียนในกรุงเทพมหานคร แต่ที่เป็นตัวฮาร์ดคอร์จากพื้นที่ภาคใต้ที่ขึ้นมาในกรุงเทพฯยังไม่ได้ข่าวที่ชัดเจน แต่ถ้าพวกนี้ขึ้นมาจริงก็คงจะหลงเส้นทางเนื่องจากไม่มีความ ชำนาญ"

ตร.ไม่พอ-ผบ.ทบ.ส่งทหารช่วยคุม

พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) กล่าวว่า ตำรวจมีกำลังรักษาความปลอดภัย 8 กองร้อย ซึ่งคิดว่ากำลังไม่เพียงพอ จึงได้คุยกับทาง พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผบ.ทบ. ขอความร่วมมือกำลังทหารมาร่วมรักษาความปลอดภัยในฐานะผู้ช่วยเจ้าพนักงาน ซึ่งได้สั่งให้ทาง บช.น.ไปประสาน ในรายละเอียดว่าจะต้องใช้กำลังเท่าไหร่ ให้      ทหารและตำรวจอยู่จุดไหนอย่างไร ซึ่งทาง ผบ.ทบ.ตกลงจะส่งกำลังมาช่วยดูแล ประชาชนจะได้มีความอุ่นใจว่าเหตุการณ์จะไม่มีอะไรบานปลาย

ผู้สื่อข่าวถามว่า ผบ.ทบ.เป็นห่วงการโฟนอินของ พ.ต.ท.ทักษิณจะเป็นชนวนเหตุของความรุนแรง พล.ต.อ.พัชรวาทกล่าวว่า เป็นการคาดการณ์กันไปเอง ยังไม่รู้ว่า พ.ต.ท.ทักษิณจะพูดอะไร อาจจะเป็นเชิงบวกก็ได้ อย่าไปประเมินในสิ่งที่ไม่ดีไว้ก่อน ให้ประเมินในสิ่งที่ดีๆ คิดว่าคนไทยด้วยกันไม่น่าจะมีปัญหาอะไร

"ยอมรับว่ามีความกังวลกับเหตุระเบิดที่เกิดขึ้น เพราะเหตุระเบิดที่เกิดขึ้นมันมองได้หลายประเด็น สรุปได้ยาก ในฐานะตำรวจต้องพยายามป้องกันที่จะไม่ให้เกิดขึ้น ขณะนี้ใช้กำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ ถ้ามีเหตุจำเป็นกำลังไม่พอ และยังเกิดเหตุลักษณะนี้ผมเชื่อว่า จะต้องขอความร่วมมือจากทางทหารมาร่วม โดยเฉพาะการตั้งจุดตรวจในเวลากลางคืน ซึ่งต้องเน้นการตั้งจุดตรวจ ส่วนจะเมื่อไหร่ที่จะให้ทหารเข้ามาช่วย ต้องหารือกัน ขณะนี้ตำรวจต้องดูแลให้สุดความสามารถก่อน ประเมินสถานการณ์ให้ดี ถ้าไม่ไหวก็ขอกำลังจากทหาร" ผบ.ตร.กล่าว

"เสธ.แดง"เชื่อบึ้มหวังรุกไล่พันธมิตร

พล.ต.ขัตติยะ สวัสดิผล ผู้ทรงคุณวุฒิกองทัพบก กล่าวถึงกรณีเกิดเหตุระเบิดที่สะพานมัฆวานรังสรรค์ บริเวณเขตรักษาความปลอดภัยของการ์ดพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย เมื่อวันที่ 30 ตุลาคมที่ผ่านมาว่า คงไม่สามารถระบุได้ว่ามือระเบิดเป็นกลุ่มใด แต่แน่นอนว่าขณะนี้มีหลายกลุ่มที่ไม่พอใจพฤติกรรมของแกนนำพันธมิตร และนักรบศรีวิชัย พร้อมจะปฏิบัติการให้กลุ่มพันธมิตรออกจากทำเนียบรัฐบาล

"น่าจะมีคนจองกฐินเล่นงานพันธมิตรหลายกลุ่ม แต่ครั้งนี้น่าจะหนักกว่าทุกครั้ง เพราะเป็นอาวุธสงครามเป็นของจริง มั่นใจว่าน่าจะเป็นระเบิดเอ็ม 67 เป็นลูกเกลี้ยงแบบขวาง ระยะหวังผล 200-300 เมตร ระเบิดรุ่นนี้มี 2 ขนาด ถ้าเป็นอเมริกันจะลูกใหญ่ อีกรุ่นผลิตให้กับคนฝั่งเอเชีย ซึ่งให้เหมาะกับกำลังในการขว้างสู่เป้าหมาย ผู้ที่จะใช้ระเบิดประเภทนี้ได้แค่ฝึกฝนวิธีถอดสลัก รู้น้ำหนัก ระยะทาง รวมทั้งใจกล้า ก็ทำได้" พล.ต.ขัตติยะกล่าว

หน่วยข่าวมุ่งฝีมือเครือข่ายนายพล

พล.ต.ขัตติยะยังกล่าวถึงการระเบิดในหลายพื้นที่ว่า ไม่ขอออกความเห็นกรณีที่มีข่าวว่า เป็นฝีมือของสมาชิกนักรบพระเจ้าตากที่ออกปฏิบัติหน้าที่ หลังจากที่ตัวเองได้ฝึกฝนมาอย่างดี แต่ยอมรับว่าในการฝึกนั้น นอกจากฝึกท่าเตรียมอาวุธตามพื้นฐานแล้ว ก็มีการขว้างระเบิดด้วย ซึ่งคนเหล่านี้ไม่มีหัวนอนปลายเท้า ไม่มีบัญชีหนังหมาในสารบบตำรวจ ดังนั้น ออกไปทำอะไรหวังผลได้อย่างสูง โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อฝึกที่สนามหลวงแล้ว ก็อยากแย่งกันไปปฏิบัติจริง

หน่วยงานด้านความมั่นคงระบุว่า เจ้าหน้าที่ด้านการข่าวรายงานว่า เหตุระเบิดที่บริเวณสะพานมัฆวานรังสรรค์ ซึ่งเป็นเต๊นท์ที่พักของนักรบศรีวิชัยนั้น เป็นการดำเนินการโดยวางแผนและจุดยุทธศาสตร์อย่างดี โดยใช้อาวุธระเบิดหวังสังหาร โดยกลุ่มบุคคลที่ต้องสงสัยเป็นเครือข่ายของนายทหารระดับยศนายพล ที่มีการเคลื่อนไหวทางการเมืองอยู่ในเวลานี้ ทั้งนี้ หน่วยข่าวรายงานอีกว่า กลุ่มเครือข่ายดังกล่าวต้องการสร้างความหวาดกลัวให้กลับผู้มาชุมนุม เพื่อต้องการให้ประชาชนมาชุมนุมลดน้อยลงไป ทั้งนี้ กลุ่มดังกล่าวมีแผนที่จะลอบวางเพลิงเผารถของกลุ่มผู้ชุมนุม รวมทั้งการใช้อาวุธระเบิดเครื่องยิงเอ็ม 79 เข้าไป เพื่อหวังสร้างความหวาดกลัวให้กับผู้ชุมนุม
 
ส.ว.ชี้รุนแรง "นายกฯ" รับผิดชอบ

ทางด้านกลุ่ม 40 ส.ว.ร่วมกันแถลงที่รัฐสภา เนื้อหาโดยรวมคือหากเกิดความรุนแรงขึ้น นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ นายกรัฐมนตรี จะปฏิเสธความรับผิดชอบไม่ได้ นอกจากนี้ นายมณเฑียร บุญตัน ส.ว.สรรหา ยังกล่าวว่า ที่บอกว่าคนที่ออกมาวิพากษ์วิจารณ์การโฟนอินของ พ.ต.ท.ทักษิณ เป็นการตีตนไปก่อนไข้นั้น คิดว่าการตีตนไปก่อนไข้ก็ดีกว่าปล่อยให้วัวหายแล้วล้อมคอก รู้สึกไม่สบายใจเพราะความไม่รับผิดชอบของผู้มีอำนาจ ชีวิตใครใครก็รัก ไม่อยากให้เอาชีวิตของประชาชนผู้บริสุทธิ์มาสังเวย อยากเตือนสื่อของรัฐต้องไม่ตกเป็นเครื่องมือของความรุนแรง และอยากให้สื่อทุกแขนงระมัดระวังยับยั้งการวิพากษ์วิจารณ์อะไรให้มากที่สุด

พล.อ.เลิศรัตน์ รัตนวานิช ส.ว.สรรหา ให้สัมภาษณ์ว่า ขอให้แกนนำแต่ละฝ่ายควรควบคุมมวลชนให้ดี เพราะมีผู้ชุมนุมมาร่วมหลายหมื่นคน หากเคลื่อนพลมายังทำเนียบรัฐบาลก็จะเกิดปัญหา ดังนั้น ตำรวจและทหารต้องเตรียมการอย่างดีที่สุด 
"ทั้งนี้ เราคงไม่สามารถไปบอกให้ พ.ต.ท. ทักษิณ หยุดโฟนอินเข้ามาเวทีความจริงวันนี้สัญจรได้ เพราะหากไม่โฟนอินอาจจะเป็นการหลอกมวลชนฝ่ายนั้นเข้ามาร่วมชุมนุมได้ แต่ต้องห้ามไม่ให้ใช้สื่อของรัฐอย่างเด็ดขาด โดยไม่ควรนำเสียงไปออกสื่อของรัฐในอนาคต ทั้งนี้ เพื่อป้องกันความไม่ชอบธรรมของรัฐบาลได้" พล.อ.เลิศรัตน์กล่าว

พธม.ปรามอย่าใช้สื่อรัฐแก้ตัว

นายพิภพ ธงไชย แกนนำพันธมิตร กล่าวว่า อยากได้ยิน พ.ต.ท.ทักษิณโฟนอิน ยอมรับผิด และเชื่อมั่นในกระบวนการยุติธรรม ซึ่งก่อนหน้านี้ พ.ต.ท.ทักษิณได้สละสิทธิ์การต่อสู้ทางคดีและลี้ภัยในต่างประเทศ และต้องการให้ พ.ต.ท.ทักษิณประกาศยุติบทบาททางการเมือง และไม่ใช้ตัวแทนเข้ามาบริหารบ้านเมืองเพื่อให้คดีของตัวเองหลุดพ้นด้วยการออกกฎหมายนิรโทษกรรม นอกจากนี้ พ.ต.ท.ทักษิณต้องหยุดทำร้ายประเทศไทย หากพรุ่งนี้ พ.ต.ท.ทักษิณพลาด ก็จะพลาดไปตลอดกาลและถูกประณาม

"ผมมีจุดยืนว่า พ.ต.ท.ทักษิณไม่มีสิทธิที่จะออกมาพูดโดยใช้สื่อคลื่นของรัฐ เนื่องจาก พ.ต.ท.ทักษิณเป็นนักโทษที่ถูกตัดสินคดี จึงไม่สมควรให้คนผิดออกมาแก้ตัว เรื่องนี้เป็นเรื่องของหลักการที่สอดคล้องกับการแสงความเห็นของ ผบ.ทอ. (พล.อ.อ.อิทธพร ศุภวงศ์ ผู้บัญชาการทหารอากาศ)"นายพิภพกล่าว

ปชป.กดดัน "สมชาย" ห้ามทำเฉย

นายอภิสิทธิ์

เครดิต :
เครดิต :เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์มติชน


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์