ผบ.ทบ.คาดเลือกตั้งอาจรุนแรง-มทภ.1 ปัดตอบประชาถูกยิง

เมื่อเวลา 07.30 น.วันนี้(11 พ.ค.) ที่กองการบินกรมการขนส่งทหารบก(ขส.ทบ.) พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก(ผบ.ทบ.)

ให้สัมภาษณ์ถึงการเตรียมความพร้อมดูแลรักษาความปลอดภัย ช่วงเลือกตั้งว่า เป็นเรื่องของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ไม่ใช่ของทหารโดยตรง แต่ในส่วนกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) จะมีหน้าที่เกี่ยวข้อง โดยจะติดตามข้อมูลการข่าวและบูรณาการการข่าวเหล่านั้นไปสู่การปฏิบัติ ซึ่งหากมีข่าวไม่ดีหรือมีเหตุการณ์ไม่เรียบร้อยก็จะแจ้งไปยังเจ้าหน้าที่ตำรวจ ซึ่งเป็นผู้รับผิดชอบโดยตรงรับทราบเพื่อให้ดำเนินการ ทหารคงไม่มีส่วนเกี่ยวข้องตรงนี้

เมื่อถามว่า มีความเป็นห่วงสถานการณ์ในช่วงเลือกตั้งที่เกิดขึ้นนี้หรือไม่ พลเอกประยุทธ์ กล่าวว่า ทุกคนคนในประเทศไทยก็ต้องเป็นห่วง คงไม่ใช่เฉพาะทหาร
 
ตนเคยบอกไปแล้วว่าประเทศไทยจะเดินไปข้างหน้าได้ไม่ได้อยู่ที่เจ้าหน้าที่เพียงอย่างเดียว ทั้งประชาชนและเจ้าหน้าที่ต้องร่วมมือกันทำหน้าที่ในการทำให้ประเทศไทยมีความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน ประชาชนต้องช่วยกันเฝ้าระวัง รวมทั้งไม่ให้ความร่วมมือในการกระทำผิดกฎหมายทุกรูปแบบ ทั้งนี้ตราบใดก็ตามที่ประชาชนยังไม่ตระหนักถึงภัยอันตรายที่เกิดขึ้นในบ้านเมืองของเราเอง ยังร่วมมือกันกระทำผิดกฎหมาย หรือเห็นการกระทำผิดกฎหมายแล้วไม่แจ้งเจ้าหน้าที่ให้ดำเนินการตามกฎหมายที่มีอยู่ ท่านก็จะหาความปลอดภัยในบ้านเมืองไม่ได้ ดังนั้นประชาชนทุกคนต้องร่วมมือกันและแจ้งเจ้าหน้าที่ ซึ่งเจ้าหน้าที่มีวาระความรับผิดชอบทางกฎหมายโดยตรงอยู่แล้ว ดังนั้นประชาชนต้องมีส่วนร่วม 

เมื่อถามว่าในช่วงเริ่มต้นของการเลือกตั้งก็มีเหตุรุนแรง มีการยิง ส.ส.กันแล้ว กองทัพมองอย่างไร
 
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ก็แค่เริ่มต้น ยังไม่สามารถพูดได้ กระบวนการประชาธิปไตยก็ว่ากันไป ประชาธิปไตยแบบไทยๆ ถ้าเรายังแก้กันไม่ได้ก้อย่าไปหาคนอื่นมาแก้ ต้องแก้กันเอง ถ้าทุกเรื่องแก้ไม่ได้หมดก็ไม่รู้จะทำอย่างไร ตนเคยพูดไปตั้งแต่แรกแล้วว่าทหารเรามีหน้าที่ของเราเฉพาะอยู่แล้ว ดังนั้นถ้าท่านยึดโยงเอาทหารเข้าไปเกี่ยวในทุกๆเรื่องมันเป็นไปไม่ได้ ดังนั้นในเรื่องต่างๆเหล่านี้อยากให้สื่อมวลชนไปเตือนไปพูดให้ประชาชนได้ตระหนักถึงภัยที่กำลังจะเกิดขึ้น มีการเลือกตั้งมาไม่รู้กี่สิบครั้งแล้ว มันก็มีความรุนแรงทุกครั้ง แล้วตนอยากถามว่ามันเกิดจากใครก็ต้องไปหาให้เจอว่าใครเป็นคนทำให้เกิด แล้วจะต้องดำเนินคดีกับใคร หลายๆอย่างอยู่ที่ประชาชนเป็นผู้เลือก เป็นผู้ที่กำหนดชะตาของบ้านเมือง เพราะเป็นระบบประชาธิปไตย 

"ไม่ใช่เฉพาะเลือกตั้งแล้วแรง บ้านเมืองไทยมันก็แรงอยู่แล้วเพราะคนไม่เคารพกฎหมาย ถ้าเคารพกฎหมายทุกอย่างจะจบหมด ถ้าประชาชนเคารพกฎหมาย เจ้าหน้าที่ปฏิบัติตามกฎหมายอย่างเคร่งครัดมันคงไม่มีเรื่อง ดังนั้นอยู่ที่ 2 ประเด็นนี้เท่านั้น ประเด็นอื่นๆไม่มีใครที่จะสามารถจะทำนอกกฎหมายได้ เจ้าหน้าที่ก็ทำผิดไม่ได้ ถ้าทำผิดก็ต้องมาว่ากันตามกระบวนการยุติธรรม ดังนั้นทุกอย่างต้องมาพูดคุยกันว่าจะทำยังไงให้บ้านเมืองปลอดภัย เป็นไปด้วยความเรียบร้อย แล้วสังคมเป็นคนตัดสินว่าอะไรถูกอะไรผิด ใครดีใครไม่ดี แล้วท่านจะเลือกตั้งใคร ไม่เลือกตั้งใคร ก็เรื่องของประชาชน โดแล้ว มีประชาธิปไตยมากี่ปีแล้ว แล้วถึงวันนี้ท่านก็ยังมาทวงถามประชาธิปไตยกันอยู่ ผมก็ไม่เข้าใจว่าบ้านเมืองเรามันไม่เป็นประช่ธิปไตนตั้งแต่เมื่อไร ก็เห็นเป็นประชาธิปไตยมาตลอด” 
 

พลเอกประยุทธ์ กล่าวต่อว่า ทหารพยายามไม่เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับเรื่องการเมืองอยู่ตลอด แต่ยังมีบางสื่อที่พยายามเสนอว่าทหารจะปฏิวัติ

ซึ่งตนมองว่ามันไม่ใช่เวลาและตนจะไม่พูดเรื่องนี้อีกเพราะพูดมาหลายครั้งแล้ว แต่ก็ยังมีความพยายามเอาทหารเข้าไปยึดโยงเข้าไปยุ่งเกี่ยว ซึ่งหากจะวิจารณ์อย่างไรก็แล้วแต่ การเมืองจะเป็นอย่างไรก็แล้วแต่ ขอร้องอย่าเอาทหารเข้าไปเกีย่ว มันคนละเรื่อง จะเห็นว่าทหารจะถูกลากไปเกี่ยวข้องในทุกๆเรื่อง ทำให้ประชาชนอาจจะเข้าใจไม่ถูกต้องและทำให้เสื่อมเสียต่อกองทัพบก โดยเฉพาะอย่างยิ่งการที่เอามาพูดมาว่าทหารอยู่เบื้องหลังของการเมือง ตนเรียนว่าไม่มี เป็นเรื่องของการเมือง 

เมื่อถามถึงกรณีที่ กกต.ห้ามไม่ให้ข้าราชการทำตัวไม่เป็นกลางในการเลือกตั้ง พลเอกประยุทธ์กล่าวว่า
 
ข้าราชการคือใคร เป็นทหารหรือไม่ ถ้าเป็นทหารตนก็จะลงโทษ แต่ถ้าไม่ใช่ทหารก็ให้ต้นสังกัดต่างๆเขาดำเนินการ ซึ่งเท่าที่ทราบก็มีการดำเนินการไปแล้ว มีการตักเตือนหรือมีการลงโทษก็ว่าไปทั้งนี้ในส่วนของทหารตนได้สั่งไปแล้วว่าทุกคนต้องทำหน้าที่ให้ดีที่สุด พยายามอย่าไปยุ่งเกี่ยว เป็นเรื่องของทางการเมือง เป็นเรื่องของประชาชนที่เป็นผู้ตัดสินตในในการเลือกตั้ง


เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์