ผบ.ทบ.กำชับเร่งสร้างความเข้าใจชายแดน ห้ามคนไทยทะเลาะกันเอง

กองทัพบก 5 ม.ค.- กองทัพยืนยันพยายามให้ความช่วยเหลือคนไทยทั้ง 7 คนที่ถูกกัมพูชาจับไปแล้ว แต่ไม่ทัน เพราะเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมเร็ว กำชับทหารเร่งทำความเข้าใจทั้งคนในพื้นที่และเครือข่ายคนไทยรักชาติ ห้ามคนไทยทะเลาะกันเอง

พ.อ.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกกองทัพบก ให้สัมภาษณ์ถึงสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชาว่า

ขณะนี้ไม่ได้เพิ่มเติมกำลังแต่อย่างใด แต่ปรับขยับกำลังบ้างเล็กน้อย เพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์ เพราะความสัมพันธ์ระหว่างทหารของกัมพูชากับกองกำลังบูรพาติดต่อประสานงานกันอย่างเหตุการณ์ 7 คนไทยถูกทางกัมพูชาจับกุมตัวไปนั้น เจ้าหน้าที่ได้พยายามแจ้งและตามกลับมา แต่ก็ยังเดินไปยังพื้นที่ที่เกิดเหตุ เราไม่ได้ต่อว่า ใครถูก ใครผิด วันนี้ถือเป็นประสบการณ์ เป็นบทเรียนด้วยกันทุกฝ่ายว่า ในการติดต่อทำอะไรก็แล้วแต่ในพื้นที่ที่สุ่มเสี่ยงต่อการเกิดปัญหา จะต้องติดต่อประสานงานกันให้ดี หากกองกำลังของเราได้รับทราบข้อมูล และติดต่อไปยังกองกำลังของกัมพูชาว่า จะเข้าไปดูพื้นที่เพื่อจุดประสงค์ในการแก้ไขปัญหาเรื่องที่ดินคงไม่มีปัญหาอะไร

“หลังจากเกิดเหตุผู้บังคับหน่วยทุกระดับของทหารในพื้นที่จนถึงรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ทุกคนพยายามติดต่อกับเจ้าหน้าที่กัมพูชาตลอดเพื่อหาทางช่วยเหลือ แต่จะเห็นว่า กัมพูชาส่งคนไทยลงไปในพื้นที่ส่วนหลังค่อนข้างเร็ว ทำให้เกินขีดความสามารถของกองทัพเพียงลำพังที่จะติดต่อประสานงานต่อไปได้ ขณะนี้ต้องรอดูกระบวนการยุติธรรมของเขาต่อไป อยากให้ทุกฝ่ายอดทนและรอกระบวนการ การสร้างแรงกดดันด้วยวิธีการต่างๆ อาจทำให้การช่วยเหลือคนไทยให้กลับมาด้วยความยากลำบากมากขึ้น” โฆษกกองทัพบก กล่าว

โฆษกกองทัพบก กล่าวว่า ส่วนเรื่องแผนที่ในมาตราส่วน 1 : 200,000 นั้น นำมาใช้ประโยชน์ในพื้นที่ที่เกิดปัญหาได้น้อย

แต่ในพื้นที่ปราสาทพระวิหาร จะใช้ประโยชน์ได้มากเพราะมีแนวเส้นเขตที่เห็นชัดเจน เช่น แนวสันปันน้ำ ทำให้ดูง่ายและชัดเจน แต่หากเป็นพื้นที่ที่เป็นแผ่นดินต่อแผ่นดิน และปักปันด้วยหมุดเขต แผนที่ 1 : 200,000 จะดูยาก เพราะขนาดของแผนที่มีมาตราส่วนที่ใหญ่ เพราะ 1 มิลลิเมตร เท่ากับ 200 เมตรในภูมิประเทศจริง ทำให้มองแทบไม่ออก ทางไทยจึงพยายามยึดมาตราส่วน 1 : 50,000 คือ 2 เซนติเมตรในแผนที่เท่ากับ 1 กิโลเมตรในภูมิประเทศจริง

พ.อ.สรรเสริญ กล่าวถึงกรณีที่กลุ่มเครือข่ายคนไทยรักชาติเดินทางไปชุมนุมใกล้ชายแดนว่า ผู้บัญชาการทหารบกให้นโยบายว่า ต้องชี้แจงทำความเข้าใจร่วมกับเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง 2 ประเด็น

คือ คนในพื้นที่ กับคนที่ไปแสดงความคิดเห็น จะให้คนไทยทะเลาะกันเองไม่ได้ ประเด็นที่ 2 คือ การแสดงความคิดเห็นในพื้นที่สามารถทำได้ในกรอบของกฎหมาย แต่ต้องควบคุมวิธีการปฏิบัติให้ดีและเหมาะสม เพื่อไม่ทำให้เกิดแรงกดดันจนทำให้กระบวนการช่วยเหลือคนไทยยากขึ้นไปกว่าเดิม โดย พล.ท.อุดมเดช สีตบุตร แม่ทัพภาคที่ 1 และ พล.ต.วลิต โรจนภักดี ผู้บัญชาการกองพลทหารราบที่ 2 รักษาพระองค์ ได้รับนโยบายไปแล้ว ส่วนการดูแลบริเวณบ้านหนองจาน หน่วยเฉพาะกิจ ตชด.12 ยังคงดูแลเป็นปกติ ยังไม่ได้ปรับเปลี่ยน และขึ้นควบคุมทางยุทธการกับกองกำลังบูรพา ดังนั้นแนวทางการปฏิบัติจะเป็นไปในทิศทางเดียวกัน.-สำนักข่าวไทย


เครดิต :

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์