ป๋าให้ห่วงส่วนรวมก่อนส่วนตน

เมื่อวันที่ 17 ต.ค.ที่กรมชลประทาน พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ ได้เดินทางมาเป็นประธานเปิดพิพิธภัณฑ์เครื่องจักรกล กรมชลประทาน เพื่อเป็นอนุสรณ์แด่ นายจุลนภ สนิทวงศ์ ณ อยุธยา อดีตองคมนตรี อย่างไรก็ตาม พล.อ.เปรมพยายามที่จะปฏิเสธการขอสัมภาษณ์ถึงเรื่องการเมือง โดยบอกเพียงว่า เรื่องการเมืองพูดไม่ได้ เพราะไม่ ค่อยเก่ง ไม่ว่าผู้สื่อข่าวจะพยายามถามอย่างไร พล.อ.เปรม ก็ยืนยันเหมือนเดิมว่า การเมืองตนไม่เก่ง พูดไม่ได้ และเมื่อถามว่า รู้สึกอย่างไรที่ประเทศชาติจะกลับไปสู่ภาวะปกติ โดยเฉพาะการเลือกตั้งที่นำไปสู่ประชาธิปไตย พล.อ.เปรม หัวเราะพร้อมกล่าวว่า ไปถามนายกฯ
 
ผู้สื่อข่าวรายงานต่อว่า แม้จะพยายามถามอย่างไรคำตอบก็ยังเหมือนเดิม แต่เมื่อถามว่า รู้สึกเป็นห่วงปัญหาบ้านเมืองในขณะนี้หรือไม่

เมื่อ พล.อ.เปรม ฟังคำถามจบถึงกับหยุดเดินพร้อมกับมองหน้าผู้สื่อข่าวและยิ้มก่อนจะกล่าวว่า ถามอย่างนี้ตอบได้ ตนห่วงมากจริง ๆ อยากจะให้บ้านเมืองและทุกคนในชาติของเรามีความกลมเกลียวรักสามัคคีกัน ตนก็ได้แต่พูดและคิดว่าคงจะมีคนฟังบ้าง อยากจะขอร้องให้ทุกคนนึกถึงชาติบ้านเมือง ไม่น่าจะมีปัญหาอย่างที่เป็นอยู่อย่างทุกวันนี้ แต่ไม่ทราบว่าจะทำอย่างไร

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างที่พล.อ. เปรมได้ตอบคำถามนี้มีสีหน้าหนักใจ และจะหยุดนิ่งเพื่อคิดและพูดต่อเป็นระยะ เมื่อถามย้ำว่า แสดงว่าหลังการเลือกตั้งสถานการณ์คงจะสงบเรียบร้อย พล.อ.เปรม หยุดและนิ่งไปสักครู่ก่อนจะกล่าวด้วยสีหน้าไม่ค่อยสบายใจว่า ก็ช่วยกันไหว้พระสวดมนต์ให้เป็นอย่างที่คุณพูด แต่ตนไม่ใช่นักพยากรณ์ ไม่ค่อยเก่งในเรื่องนี้ แต่อยากจะให้เป็นอย่างนั้น
 
ผู้สื่อข่าวถามว่า อยากฝากอะไรให้นักการเมืองที่จะเข้ามาบริหารประเทศในครั้งหน้าบ้าง

พล.อ.เปรม กล่าวพร้อมยิ้มว่า เรื่องส่วนรวมสำคัญ กว่าเรื่องส่วนตัว ต่อข้อถามว่ามองการทำงาน 1 ปี ของนายกฯ ว่าสามารถแก้ไขปัญหาวิกฤติสำเร็จหรือไม่ พล.อ.เปรม กล่าวว่า แล้วแต่คนมอง อาจจะมองแตกต่างกัน ส่วนตัวคิดว่านายกฯ ทุ่มเทมากที่สุดเท่าที่จะทำได้